ธปท.มั่นใจเศรษฐกิจไทยไร้ภาวะชะงักงัน คาดปี 65 จะขยายตัว ร้อยละ 3.2
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หน้าที่ของ ธปท.ต้องทำให้ระบบการเงินทั้งธนาคารพาพิชย์ ตลาดเงิน สามารถทำงานได้ตามปกติ เพราะเป็นหัวใจสำคัญหากสินเชื่อหดตัวธุรกิจขาดสภาพคล่อง เริ่มต้นด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ผ่อนปรนหลักเกณฑ์ให้ภาคการเงินธนาคารสามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติ ส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อปัจจุบันอยู่ที่ 15 ล้านล้านบาท ถือว่าขยายตัวเร็วกว่าประเทศเพื่อนบ้าน
ที่ผ่านมากลไกทางการเงินของไทยยังดีในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ดีพอ จึงจำเป็นต้องออกกลไกเสริม และเติมเงินใหม่ ผ่านการออก พ.ร.ก.ฟื้นฟู ปรับโครงสร้างหนี้ และพักชำระหนี้ ให้กับกลุ่ม SMEs กลุ่มภาคการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมโรงแรมที่พัก ซึ่งหลายประเทศได้ดำเนินนโยบายแก้ไขปัญหาที่คล้ายกัน คือนโยบายด้านการคลังแม้ต้องยอมให้มีการขาดดุลงบประมาณ หรือหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นบ้าง ควบคู่กับนโยบายการเงิน เพื่อให้ระบบธนาคาร และตลาดการเงินทำงานได้อย่างเป็นปกติ
กรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่า เมื่อเกิดวิกฤติซ้อนวิกฤติอาจส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน หรือ ผู้ Stagflation ผู้ว่าการ ธปท.มั่นใจว่า
“เศรษฐกิจไทยจะไม่เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน อย่างแน่นอน แม้อัตราเงินเฟ้อของไทยจะปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่ากรอบเป้าหมายอยู่ที่ร้อยละ 4.9 เชื่อว่าจะทยอยลดลง รวมถึงตัวเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวดีจากปีก่อน โดย ธปท.คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบจากปีก่อนที่เติบโตเพียงร้อยละ 1.6 ดังนั้น ภาวะ Stagflation จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน แต่ยังต้องมีการออกมาตรการเพื่อช่วยเสริมการทำงานของระบบการเงินในช่วงที่เกิดวิกฤติซ้อนวิกฤติเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจ”