ยันติดฝีดาษลิงในไทยยังพบแค่ 2 ราย อีก 30 ไม่พบเชื้อ แพร่แล้วใน 76 ประเทศทั่วโลก…
หลังจากองค์การอนามัยโลก ประกาศให้การระบาดของไวรัสฝีดาษวานร (Monkeypox) เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมแนวทางและดำเนินการตอบสนองต่อสถานการณ์ทั้งการเฝ้าระวังโรค-ป้องกัน และการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 2565 พบผู้ป่วยยืนยัน ทั่วโลก 22,816 ราย เพิ่มขึ้น 6,502 ราย ใน 76 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศที่มีผู้ป่วยสูง 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สเปน เยอรมัน อังกฤษ และฝรั่งเศส
“สถานการณ์โรคฝีดาษวานรในประเทศไทย พบผู้ป่วยยืนยัน 2 ราย มีรายงานผู้สัมผัส 42 ราย ครบการกักตัวแล้ว 3 ราย มีผู้เข้าเกณฑ์ป่วยสงสัย 30 ราย แต่ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้ง 30 ราย ไม่พบเชื้อฝีดาษวานร ซึ่งกรมควบคุมโรคได้ติดตามและประสานงานความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ เร่งค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานรและความปลอดภัยของประชาชน โดยองค์การอนามัยโลก แนะนำยังไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนฝีดาษวานรให้กับประชาชนในวงกว้าง แต่อาจฉีดในกลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วย หรือเจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการตรวจเชื้อ ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงสัมผัสเชื้อมากกว่าคนทั่วไป”
ทั้งนี้ ย้ำโรคฝีดาษวานรไม่ได้ติดต่อง่ายเหมือนโรคโควิด 19 ผู้ป่วยส่วนใหญ่เกิดในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย โดยเฉพาะผู้ที่เปลี่ยนคู่นอนหลายคน เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดการติดเชื้อ ดังนั้นมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 ยังสามารถใช้ได้กับโรคฝีดาษวานร โดยให้เน้นล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยที่มีตุ่มหนองหรือผู้ป่วยต้องสงสัย หลีกเลี่ยงมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยงหรือคู่นอนที่ไม่รู้จัก หากประชาชนมีอาการสงสัยป่วยเข้าได้กับโรคฝีดาษลิง สามารถติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อรับการตรวจหาเชื้อได้ทันที