ฟิลเลอร์ คำตอบของปัญหา ใต้ตาหมองคล้ำ ขอบตาดำ ริ้วรอยใต้ตา เป็นปัญหากวนใจให้กับคุณสาวๆ จนหลายคนขาดความมั่นใจในตัวเอง และสรรหาวิธีมาดูแลแก้ไขที่แตกต่างกันออกไป บางคนใช้วิธีดื่มน้ำมากๆ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
ส่วนบางคนก็ทาครีมบำรุงรอบดวงตา ยี่ห้อไหนที่ว่าดี แบรนด์ไหนที่ว่าดัง ก็นำมาทากัน แต่ก็ยังไม่ช่วยให้ดีขึ้น ไปจนถึงการเติมเต็มด้วยไฮยาลูรอนิค แอซิด หรือการ ฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ แต่จะฉีดอย่างไรให้ได้ผลและปลอดภัย
วันนี้ แพทย์หญิงฉัตรษร ลิขิตอิศรา ประธานคณะผู้บริหาร Mudan Pavilion wellness center แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ความงามและปรับรูปหน้า
และยังเป็นอาจารย์แพทย์ผู้สอนฉีดฟิลเลอร์ให้กับแบรนด์ระดับพรีเมี่ยม จากประเทศสวีเดน มีความรู้และคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากกันค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร?
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กันก่อนค่ะว่าคืออะไร คุณหมออธิบายว่า การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือการฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ในกลุ่ม ไฮยาลูรอนิค แอซิด (HA:Hyaluronic Acid) เข้าไปใต้ผิวบริเวณใต้ตาที่มีปัญหา เช่น ขอบตาหมองคล้ำ ริ้วรอยใต้ตา ร่องใต้ตา เบ้าตาลึก ถุงใต้ตา เพราะปัญหาเหล่านี้ทำให้ใบหน้าดูโทรมอ่อนล้า
ดูแก่กว่าวัย และสร้างความไม่มั่นใจ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถช่วยเติมเต็มในส่วนที่มีการยุบตัวของกระดูก ทั้งยังช่วยพยุงเอ็นยึดใต้ตาให้กลับไปสู่ที่เดิม และยังช่วยแก้ไขริ้วรอยใต้ตาและสีหมองคล้ำ ให้กลับมาเต่งตึงได้อีกครั้ง เนื่องจากในฟิลเลอร์จะมีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวบริเวณที่ฉีดอีกด้วย
สาเหตุของรอยหมองคล้ำใต้ตา…เกิดจากอะไรบ้าง?
คุณหมอให้ความรู้ต่อไปว่า มีหลายสาเหตุด้วยกัน ได้แก่
– ขอบตาดำจากโรคภูมิแพ้…
โดยหลักๆ แล้วมักจะเกิดจากภูมิแพ้จมูกอักเสบหรือภูมิแพ้ตา ผู้ป่วยภูมิแพ้จมูกอักเสบ มักจะมีอาการน้ำมูกไหล คัดจมูก คันจมูก และจาม หรือในกรณีผู้ป่วยที่มีอาการคันจมูกเรื้อรัง เยื่อบุจมูกมักจะบวมและการบวม จะทำให้เลือดดำไหลผ่านได้ยาก เลือดดำจึงคั่งอยู่บริเวณใต้ตาล่างทำให้บริเวณใต้ตาล่างดำนั่นเอง ส่วนผู้ป่วยภูมิแพ้ตาจะมีอาการคันตา เคืองตาอาการเหล่านี้ทำให้เผลอขยี้ตาแรงๆ ส่งผลให้ผิวหนังรอบดวงตาคล้ำหรือมีรอยเหี่ยวย่นเกิดขึ้น
– การพักผ่อนไม่เพียงพอ…
การอดนอนหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็เป็นสาเหตุทำให้เส้นเลือดรอบดวงตาไหลเวียนไม่สะดวก ทำให้เกิดการขยายตัวของเส้นเลือดดำจึงเห็นเป็นรอยคล้ำใต้ตา
วิธีแก้ไขก็คือ จัดการกับความเครียด เพราะความเครียดอาจส่งผลให้มีปัญหาในการนอนและควรจัดหมอนหนุนรองนอนให้สูงขึ้น เพื่อช่วยลดปริมาณของเหลวที่สะสมอยู่บริเวณใต้ตา
– รวมทั้งการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์…
การสูบบุหรี่จะทำให้ขอบตาคล้ำยิ่งขึ้น และการดื่มแอลกอฮอล์ อาจทำให้เส้นเลือดใต้ผิวหนังขยายตัว จนเห็นเป็นรอยคล้ำใต้ดวงตา
– กรรมพันธุ์…
หากบิดามารดาญาติพี่น้องมีขอบตาที่ดำก็มีโอกาสที่จะมีขอบตาดำมากกว่าคนปกติหรือหากมีสีผิวที่ขาวจะยิ่งทำให้เห็นเด่นชัดขึ้นถึงความคล้ำมากกว่าคนผิวเหลือง น้ำตาล หรือ ดำ
– อายุที่เพิ่มขึ้น…
ก็เป็นปัจจัยที่ยากจะหลีกเลี่ยงเช่นกันค่ะเพราะคอลลาเจนจะถูกสร้างลดลงกระดูกเบ้าตายุบตัวและเอ็นยึดใต้ตาหย่อนตัวลง
แก้ไขปัญหาด้วยฟิลเลอร์ใต้ตา ควรพิจารณาอย่างไร?
คุณหมอแนะนำดังนี้ ลอง Skin pice test ด้วยการหยิบผิวหนังใต้ตาขึ้นมา แล้วจะมีความสว่างมากขึ้น นั่นแสดงว่ารักษาด้วยฟิลเลอร์ได้ หรือ Skin snap back test ด้วยการหยิบผิวหนังใต้ตาหรือถุงใต้ตาแล้วดู Skin Record ว่าช้าหรือเร็ว ถ้าเร็วแสดงว่า คอลลาเจนสามารถพยุงตัวฟิลเลอร์ได้ดี ก็จะเหมาะกับการรักษาด้วยฟิลเลอร์
เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถช่วยเติมเต็มในส่วนที่มีการยุบตัวของกระดูกและช่วยพยุงเอ็นยึดใต้ตาให้กลับไปสู่ที่เดิม ช่วยแก้ไขริ้วรอยใต้ตาและผิวหมองคล้ำให้กลับมาเต่งตึงได้อีกครั้ง
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใครบ้าง?
การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับคนที่มีปัญหารอยคล้ำใต้ตา ที่เป็นสาเหตุทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส เหมือนคนพักผ่อนน้อยอดนอน หรือคนที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา ร่องใต้ตา เพราะหลังจากทำการรักษาแล้ว จะทำให้ผิวบริเวณนั้นอิ่มฟูร่องใต้ตาเรียบเนียน
นอกจากนี้ คนที่มีปัญหาถุงใต้ตาที่เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น กระดูกยุบตัว เอ็นยึดใต้ตาหย่อน ฟิลเลอร์จะไปเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป และช่วยชะลอความชราในอนาคตได้ ทำให้ถุงใต้ตาเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์ได้ รวมทั้งเหมาะกับคนที่กลัวการผ่าตัดถุงใต้ตาแพ้การดมยาสลบ ไม่มีเวลาพักฟื้น คนที่อยากเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
แล้วการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?
จะช่วยแก้ปัญหาขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ แก้ปัญหาร่องใต้ตา เบ้าตาลึก ลดริ้วรอยใต้ตาแก้ปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อย
ทำไม?…ปริมาณการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาของแต่ละคนไม่เท่ากัน
ก่อนอื่นแพทย์จะประเมินและวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาของแต่ละคนก่อน ว่าจะทำการแก้ไขจุดบกพร่องส่วนไหน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดและได้สัดส่วนที่สวยงามเหมาะ
กับใบหน้าของแต่ละบุคคล เช่น
– หากมีสีคล้ำใต้ตา หรือ ร่องใต้ตา จะใช้ประมาณ 1-2 CC โดยเลือกฟิลเลอร์นิ่มใช้เป็นการเติมฟิลเลอร์ใต้ตาชั้นตื้น จะเก็บรายละเอียดสีคล้ำใต้ตาและริ้วรอยตื้นๆบริเวณผิวหนัง ใต้ตาที่เกิดจากการขาดคอลลาเจน
– แต่ถ้าเป็นปัญหาถุงใต้ตา เริ่มต้นที่ 3cc ขึ้นอยู่กับระดับของถุงใต้ตา โดยจะเลือกฟิลเลอร์เนื้อแข็งใช้เป็นการเติมฟิลเลอร์ชั้นลึก ซึ่งจะต้องมีความยืดหยุ่นสูงเพื่อไปเสริมชั้นกระดูกและเอ็นยึดรอบดวงตาให้ยกกระชับขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้เอ็นที่หย่อนคล้อยมีแรงพยุงไขมันใต้ตาได้ดีขึ้น ส่งผลให้ถุงใต้ตาลดลงไม่หย่อนเหมือนเดิมและเลือกฟิลเลอร์
นิ่มมาเก็บรายละเอียดใต้ตาชั้นตื้นร่วมด้วย เพื่อความเป็นธรรมชาติและเรียบเนียนที่สุด
ปฏิบัติตัวอย่างไรหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?
หลังการฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วจะมีอาการบวมเล็กน้อยประมาณ 2-3 วัน และจะค่อยๆยุบหายไปเอง ประมาณ1-2สัปดาห์ถึงจะเข้าที่ ระหว่างนี้งดรับประทานอาหารหมักดองเพราะมีโซเดียมสูง หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท เพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องของอาการบวม หลังจากนั้นหมอจะนัดมาดูผลอีกครั้ง
ฉีดแล้วเห็นความเปลี่ยนแปลงทันทีหรือไม่?
เมื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที หลังจากที่ฉีดเสร็จ หลังจากนั้นฟิลเลอร์ก็จะค่อยๆ เข้าที่ในวันที่ 3 และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
ส่วนการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้รุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์ โดยทั่วไปจะอยู่ได้นาน 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วยและควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายไวขึ้น เช่น งดการทำเลเซอร์ การอบซาวน่า การนวดหน้าอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ งดดื่มแอลกอฮอล์หลังทำ 2สัปดาห์ หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น และควรดื่มน้ำเยอะๆ 2-3ลิตรต่อวัน
ส่วนกรณีที่มักกังวลกันว่าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตราย…ตาบอดจริงหรือไม่?
คุณหมอกล่าวว่า การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีความเสี่ยงที่จะเกิดตาบอด ผิวหนังเน่าตาย ถ้าหากฟิลเลอร์ไปอุดตันเส้นเลือดบริเวณรอบดวงตา ทำให้เลือดไหลไปหล่อเลี้ยงบริเวณดวงตาไม่สะดวก ทำให้เกิดอาการตาพร่ามัว ไปจนถึงอาการตาบอดได้จะเกิดทันทีในขณะที่ฉีด
แต่ทว่าการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดได้ง่ายๆ เพราะการ ฉีดฟิลเลอร์ ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เพราะมีเส้นเลือดฝอยบริเวณนี้มาก จึงจำเป็นต้องเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งด้านกายวิภาคของใบหน้าและด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
ทราบข้อมูลเบื้องต้นกันไปแล้ว คุณสาวๆ หรือผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาด้วยการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก็ควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกต้อง ไม่เห็นแก่ราคาถูกหรือโปรโมชั่น ที่สำคัญคือ “คุณภาพ” ต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น และให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านนี้โดยเฉพาะ.