‘เพื่อไทย’ สรุปจัดตั้งรัฐบาล 11 พรรค 314 เสียง มีมติส่ง ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นั่งนายกฯ คนที่ 30 พร้อมจัดแบ่งโควตารัฐมนตรีลงตัว ด้าน ‘ชลน่าน’ ลั่นรับผิดชอบลาออก ตามที่เคยพูดขอจบภารกิจตั้งรัฐบาล
พรรคเพื่อไทย และพรรคการเมืองรวม 11 พรรค จำนวน 314 เสียง ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และไม่มีพรรคก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาล โดยมีมติร่วมกันเสนอชื่อ “นายเศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรี
แบ่งเค้ก 11 พรรคร่วมรัฐบาล ลงตัว
- พรรคภูมิใจไทย (71 ที่นั่ง) รัฐมนตรีว่าการ 4 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย 4 ตำแหน่ง
- พรรคพลังประชารัฐ (40 ที่นั่ง) รัฐมนตรีว่าการ 2 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย 2 ตำแหน่ง
- พรรครวมไทยสร้างชาติ (36 ที่นั่ง) รัฐมนตรีว่าการ 2 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย 2 ตำแหน่ง
- พรรคชาติไทยพัฒนา (10 ที่นั่ง) รัฐมนตรีว่าการ 1 กระทรวง
- พรรคประชาชาติ (9 ที่นั่ง) รัฐมนตรีว่าการ 1 กระทรวง
- พรรคเพื่อไทย (141 ที่นั่ง) รัฐมนตรีว่าการ 8 กระทรวง/ รัฐมนตรีช่วย และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรวม 9 ตำแหน่ง
- พรรคอื่นๆ อีกจำนวน 5 พรรค ได้แก่ พรรคชาติพัฒนากล้า 2 ที่นั่ง/ พรรคเพื่อไทยรวมพลัง 2 ที่นั่ง/ พรรคเสรีรวมไทย 1 ที่นั่ง/ พรรคท้องที่ไทย 1 ที่นั่ง/ พรรคพลังสังคมใหม่ 1 ที่นั่ง
ชูนโยบาย ‘เพื่อไทย’ ใช้หาเสียงแก้ปัญหาชาติ-ปากท้อง
โดยพรรคเพื่อไทย จะนำนโยบายของพรรคที่หาเสียงไว้ เป็นนโยบายหลักในการบริหารประเทศ เช่น digital wallet , ที่ดินทำกิน, ขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ 600 บาทภายในปี 2570, เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท, เกณฑ์ทหารโดยสมัครใจ, เพิ่มราคาพืชผลเกษตร, แก้ปัญหาความขัดแย้งและสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนในจังหวัดชายแดนภาคใต้, กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ และจะแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และยังคงไว้ในส่วนของหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ พร้อมปรับ เสริม หรือประสานนโยบายของ “พรรคร่วมรัฐบาล” ให้เป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด
ก้าวข้ามความขัดแย้ง ผนึกพรรคร่วมรัฐบาลเดิม
“การตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล อยู่บนฐานความรับผิดชอบต่อประชาชน แม้พรรคเพื่อไทยจะเผชิญกับวาทกรรม หรือคำกล่าวหาที่รุนแรงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยตั้งใจมุ่งสู่เป้าหมายที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ถึงแม้จะมีอดีตพรรคการเมืองในรัฐบาลที่แล้วร่วมรัฐบาล แต่ทุกพรรคจะร่วมกันทำงานกับพรรคเพื่อไทยอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ดังเช่นที่ทุกพรรคการเมืองได้เคยร่วมงานกันมา ตั้งแต่สมัยไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลจะใช้โอกาสนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความรักสามัคคีปรองดองของคนในชาติ”
เพื่อไทย ยันไม่มีแผน 2 ชง ‘เศรษฐา’ นายกฯ
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า มั่นใจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน จะได้เป็นนายกฯ โดยไม่มีข้อกังวลเรื่องคุณสมบัติ ที่ผ่านการกลั่นพิจารณาจากพรรคมาอย่างถี่ถ้วน มั่นใจเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. โดยย้ำว่า การเสนอชื่อนายเศรษฐา ไม่มีแผน 2
กรณีจับมือพรรค 2 ลุง โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังไม่มีการลาออกนั้น เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐคงจะตอบคำถามถึงความชัดเจน
“ตัดประเด็นพรรคเพื่อไทยเป็นนั่งร้านให้กับพรรคอื่น ในฐานะที่เพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล ยืนยันว่า หากไม่นำ 2 พรรคมาร่วม ก็จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้แน่นอน ในขณะที่ปัญหาประเทศรอไม่ได้ จะเกิดอะไรขึ้น เราไม่คาดการณ์ อาจจะเป็นผลร้ายต่อประเทศได้
ลั่นยินดี ‘ลาออก’ หลังจบภารกิจตั้งรัฐบาล
“ผมตั้งใจที่จะประกาศความรับผิดชอบ ยินดีลาออกแน่นอน แต่ภารกิจการทำหน้าที่หัวหน้าพรรค เป็นกรรมการบริหารพรรคที่ต้องจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ วันที่เสนอชื่อในส่วนคณะรัฐมนตรี หรือรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยเสร็จ ผมประกาศอย่างเป็นทางการทันที ทำตามที่เคยประกาศไว้”
ทั้งนี้ นายแพทย์ชลน่าน เคยขึ้นบนเวทีดีเบต เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 ที่ จ.เชียงใหม่ ประกาศชัดว่า “ต้องประกาศชัดในฐานะหัวหน้าพรรค ไม่จับมือกับพลังประชารัฐ ไม่มีดีลกับลุงป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ถ้ามีจับมือผมลาออกจากหัวหน้าพรรค”