ลี้แต่ไม่ลับ ขอน้อมอาลัย ครูบาน้อย ญาณวิไชย แห่งวัดถ้ำเชตวัน จังหวัดน่าน ที่เพิ่งละสังขารไปอย่างสงบจากภาวะหัวใจล้มเหลว โดยสิริอายุ 34 ปี เมื่อเวลา 00.48 น. ของคืนวันที่ 31 ส.ค. และในวันเดียวกันด้านศิษยานุศิษย์ ได้ประกอบพิธีถวายเพลิงสรีระสังขารเลยทันที โดยจัดพิธีถวายเพลิงในเวลา 20.09 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมา ตามเจตนารมณ์ในพินัยกรรม ที่ท่านได้ทำไว้ก่อนหน้า ลี้แต่ไม่ลับ จึงอยากพาย้อนกลับไป เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินข่าวคราวของครูบาที่อายุน้อยท่านนี้ และความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก
ครูบาน้อย จ.น่าน ละสังขาร 34 ปี ถวายเพลิงสรีระสังขารคืนนี้ งดกล่าวคำว่า ‘สาธุ’
เปิดประวัติ ครูบาน้อย ญาณวิไชย ครั้งเมื่อเป็นข่าว
โดยเมื่อปี 2560 ครูบาน้อย ได้ตกเป็นข่าวมาแล้ว จากเข้าไปบำเพ็ญกรรมฐานภายในถ้ำ เป็นเวลานานถึง 3 ปี 3 เดือน 3 วัน จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ทั้งเรื่องผมเผ่าที่ยาวรุงรัง และการเข้ากรรมฐานถึง 3 ปี ซึ่งอาจจะขัดกับหลักพระพุทธศาสนา นอกจากนั้นก็ยังมีข่าวเรื่องการปวารณาตัวบวชไม่สึก หลังจากอธิษฐานว่าจะบวช แล้วหายจากอาการป่วยที่เป็นมานานด้วย
จุดเริ่มต้น ครูบาน้อย สมัยเรียนอยู่ชั้น ป.1
เริ่มตั้งแต่จำความได้ ครูบาน้อย ญาณวิไชย ก็อยากเดินเข้าสู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ตั้งแต่เด็ก ด้วยเพราะอยากบวชเป็นพระ เชื่อหรือไม่เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ก็ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงความคิดนั้นได้เลย โดยตอนอายุ 7-8 ขวบเห็นจะได้ ก็อยากมีห้องพระเป็นของตนเอง ตั้งแต่สมัยยังเรียนหนังสืออยู่ในชั้น ป.1 ก็คือความใฝ่ฝันของครูบาน้อย ตาของครูบาน้อยจึงบอกว่า หากครูบาน้อยสอบได้ที่ 1 จะซื้อโต๊ะหมู่บูชาให้ และครูบาน้อยก็ได้ตามที่ใฝ่ฝันจริงๆ แล้วก็เริ่มสวดมนต์ในบทที่ยาว อย่างคาถาชินบัญชร ซึ่งเป็นคาถาที่ยาวมากคาถาหนึ่ง
ชีวิต ครูบาน้อย ในวัยเด็กที่ไม่เหมือนคนอื่น
จากนั้นชีวิตในวัยเด็กของ ครูบาน้อย จึงไม่เหมือนคนอื่น เนื่องจากไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นเหมือนเด็กทั่วไป โดย ครูบาน้อย มักเก็บตัวอยู่แต่กับบ้าน ถึงจะเล่นดินเล่นทราย ก็ปั้นดินเหนียวเป็นเจดีย์ เป็นพระพุทธรูป หรือปั้นเป็นวัดไปตามความชื่นชอบ ยิ่งมีอาการป่วย เป็นโรคลมชักด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ขาดเรียนบ่อย บวกกับนิสัยเก็บตัวไม่เที่ยวเล่นเหมือนเด็กคนอื่น ชาวบ้านกลับวิจารณ์ว่า ผีสิงครูบาน้อยบ้าง เป็นบ้าบ้างแหล่ะ จนไปเรียนแทบไม่มีใครอยากคุยกับครูบาน้อยเลย
ความฝันเรื่องบวชเป็นพระ ของครูบาน้อย
และความฝันก็มาถึงอีกครั้ง มากกว่าโต๊ะหมู่บูชาหรือห้องพระ นั่นคือการได้บวชตั้งแต่อายุราว 12 ปี หลังจากเรียนจบชั้น ป.6 ครูบาน้อย ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดนาแดง ในปี 2545 โดยมีหลวงพ่อ พระครูวิสุทธิ์นันทวิทย์ (ครูบาศรีมากตปุญโญ) เป็นพระอุปัชฌาย์ เหตุการณ์สำคัญในครั้งนี้ ทำให้ ครูบาน้อย ได้ก้าวเดินบนเส้นทางของบรรพชิต ตราบจนถึงวันที่ละสังขาร
ครูบาน้อย เดินเท้าธุดงค์ศึกษาธรรมะ
เมื่อบวชเรียนแล้ว ครูบาน้อย ก็เริ่มมีความสนใจในการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างมาก เริ่มจากการเดินเท้าธุดงค์ไปศึกษาธรรมะเรื่อยมา จนพออายุครบ 20 ปี ครูบาน้อย ก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อปี 2552 ณ วัดสันทะ จังหวัดน่าน โดยมีหลวงพ่อพระครูวิสุทธิ์นันทวิทย์ เจ้าคณะอำเภอนาน้อย วัดนาแดง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูปริยัตินันทสุธี (พระอาจารย์มหามารวย ชวนปัญโญ) วัดพญาภู พระอารมหลวง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และได้รับนามฉายาว่า “ญาณวิชชโย ภิกขุ”
ครูบาอาจารย์ของ ครูบาน้อย ที่ได้ถวายตัวเป็นศิษย์
ครูบาน้อย เลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาก โดยจะสนใจเรื่องการภาวนา กรรมฐาน ซึ่งมักออกปฏิบัติธุดงค์กรรมฐานไปในที่ต่างๆ และพักอยู่ปฏิบัติธรรมอยู่ตามโอกาส ทำให้มีโอกาสได้เจอครูบาอาจรารย์มากมาย ครูบาน้อย จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อศึกษาธรรมะ และเรียนรู้หลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า อย่างครูบาบุญชุ่ม วัดถ้ำราชคฤห์ ลำปาง , ครูบาเจ้าสมจิตร วัดสะแล่ง แพร่ , ครูบาเจ้าอินทร วัดสันป่ายางหลวง ลำพูน , ครูบาเจ้ามนตรี วัดพระธาตุสุโทน แพร่ , ครูบาเจ้าสนิท – หลวงพ่อทรัพย์ วัดห้วยบง ลำพูน , พระครูบามหาป่านิกร วัดพระธาตุแก่งสร้อย ตาก และพระครูอีกหลายท่าน
ลี้แต่ไม่ลับ ขอน้อมกราบส่งสรีระสังขาร ครูบาน้อย ญาณวิไชย แห่งวัดถ้ำเชตวัน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน.
ขอบคุณเครดิต คณะศิษย์ครูบาน้อย ญาณวิไชย จ.น่าน