โรงพยาบาลวิมุต เจาะตลาดผู้หญิงหลังกำลังซื้อพุ่ง! ผุดแคมเปญใหญ่ “The Power of Women” อย่าให้การใช้ชีวิตต้องสะดุด เพราะเรื่องสุขภาพ รุกตลาดเฮลท์แคร์รับเทรนด์ SHEconomy
โรงพยาบาลวิมุต เร่งส่งต่อพลังความเป็นที่สุดของผู้หญิงด้วยการนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์และบริการเฮลท์แคร์ในแบบองค์รวม ที่ครอบคลุมทุกมิติด้านสุขภาพของผู้หญิงทุกวัย เดินหน้าเจาะตลาดกำลังซื้อผู้หญิง พร้อมหนุนเทรนด์ตัวแม่ (SHEconomy) หรือเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยผู้หญิง ซึ่งเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์มาแรง
โดยโรงพยาบาลวิมุต คาดจะมียอดผู้ใช้บริการในกลุ่มผู้หญิงเพิ่มขึ้นอีก 30% หลังปล่อยแคมเปญ พร้อมเร่งปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดและสังคม ชี้ผู้หญิงมีกำลังซื้อมหาศาลและเป็นกลุ่มที่พร้อมลงทุนกับการดูแลร่างกายและจิตใจของตนเองในทุกช่วงของชีวิต โดยเฉพาะในการลงทุนเรื่องสุขภาพ นอกจากนี้โรงพยาบาลวิมุตยังชูทีมแพทย์ผู้ชำนาญการครบทุกสาขาสำหรับการดูแลผู้หญิงทุกกลุ่ม ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น คุณแม่มือใหม่ ไปจนถึงผู้สูงวัย เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อผู้หญิงทุกคนทุกไลฟ์สไตล์
กำลังซื้อของผู้หญิงทั่วโลกจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด
The Economist Intelligence Unit องค์กรวิจัยในสหรัฐฯ คาดว่าในปี 2573 กำลังซื้อของผู้หญิงทั่วโลกจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดไปอยู่ที่ราวๆ 46 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่ในปี 2557 มีมูลค่าอยู่ที่ 18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับเติบโตเฉลี่ยปีละ 6.0% โดยเทรนด์ SHEconomy ที่กำลังมาแรงมีปัจจัยหนุนจาก 3 ปัจจัยด้วยกันคือ
1) ตลาดผู้หญิงในกลุ่ม Millennials ที่มีกำลังซื้อสูงและกล้าใช้จ่าย
2) บทบาทของผู้หญิงที่เด่นชัดขึ้นในตลาดแรงงาน ทำให้สามารถสร้างรายได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต
3) ผู้หญิงมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจและกำหนดการจับจ่ายใช้สอยในครัวเรือน
โดยสำหรับในประเทศไทย ข้อมูลล่าสุดจากสำนักทะเบียนกลางยังชี้ว่า สัดส่วนประชากรในไทยมีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายมากขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา โดยปี 2565 มีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายราว 1.59 ล้านคน สำหรับภาพรวมจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลวิมุตนั้น ในปี 2566 จนถึงปัจจุบันพบว่ามีสัดส่วนผู้ใช้บริการเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายสูงถึงประมาณ 20% ซึ่งในปี 2565 ก็มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20% เช่นเดียวกันที่มีผู้ใช้บริการผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ทั้งนี้โดยส่วนใหญ่ยังคงเน้นไปที่การตรวจสุขภาพเป็นอันดับ 1 รองลงมาเป็น ศูนย์สูตินรีเวช เป็นอันดับ 2 และแผนกฉุกเฉิน เป็นอันดับ 3
นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า “โรงพยาบาลวิมุตยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้หญิงทุกช่วงวัยผ่านการเปิดตัวแคมเปญ “The Power of Women” เพื่อร่วมขับเคลื่อนที่สุดแห่งพลังและศักยภาพในตัวผู้หญิง ให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตที่มีคุณค่าและพัฒนาตนเองในทุกมิติบนรากฐานของสุขภาพกายและใจที่สดใสแข็งแรง ที่รพ. วิมุต เราเพียบพร้อมไปด้วยทีมสูตินรีแพทย์และแพทย์ผู้ชำนาญการในสาขาอื่น ๆ ที่มากด้วยประสบการณ์และความชำนาญในการรักษาทุกปัญหาสุขภาพของผู้หญิง
โรงพยาบาลวิมุต ยังใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ช่วยให้ทีมแพทย์มอบการวินิจฉัยที่แม่นยำ ในบรรยากาศส่วนตัวเป็นกันเองและบริการที่ใส่ใจในทุกขั้นตอน เราพร้อมดูแลสุขภาพผู้หญิงในแบบองค์รวม (Holistic Care) ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่
อาทิ การฉีดวัคซีน HPV เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูก, การดูแลความพร้อมตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ตลอดจนการมีบุตร การให้คำปรึกษาสำหรับสตรีก่อนแต่งงานและก่อนตั้งครรภ์ บริการฝากครรภ์และคลอดบุตร ทั้งการคลอดธรรมชาติและผ่าตัดคลอด บริการตรวจหาโรคดาวน์ซินโดรม (Down’s syndrome) โดยการเจาะเลือดคัดกรอง (NIPT Test) บริการอัลตราซาวนด์ทั้งแบบ 2 มิติ และ 4 มิติ
การตรวจคัดกรองความเสี่ยงโรคมะเร็ง การผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก (MIS) ตลอดจนการดูแลรักษาโรคที่ผู้หญิงสูงวัยต้องเผชิญ เช่น ปัญหาในเรื่องฮอร์โมน โรคกระดูกพรุน หรือมีปัญหาเรื่องทางเดินปัสสาวะ แต่ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสุขภาพในรูปแบบใด ทีมแพทย์และพยาบาลของ รพ. วิมุต ก็พร้อมดูแลผู้หญิงทุกคนให้มีสุขภาพที่แข็งแรงและใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจได้ในทุก ๆ วัน”
หนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของผู้หญิงไทยคือมะเร็ง
จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขปี 2565 พบว่า หญิงไทยป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านมมากที่สุด จำนวน 38,559 ราย รองลงมาคือ มะเร็งปากมดลูก จำนวน 12,956 ราย โดยโรคมะเร็งเต้านมนับเป็นภัยเงียบใกล้ตัว เนื่องจากในระยะแรกมักจะไม่แสดงอาการ ไม่เจ็บ ไม่ปวด เมื่อพบอาการผิดปกติมักอยู่ในระยะที่ก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้นและลุกลามไปทั่วแล้ว ซึ่งเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
การคัดกรองและตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะแรกจะช่วยให้การรักษามีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากที่สุด ส่วนมะเร็งอันดับสองที่พบในหญิงไทยอย่าง “มะเร็งปากมดลูก” ส่วนใหญ่จะพบในผู้หญิงวัย 30 -55 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิด Human Papillomavirus หรือเอชพีวี (HPV) ในระยะแรกจะไม่แสดงอาการผิดปกติหรืออาจมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น มีภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดหรือตกขาวผิดปกติเรื้อรัง ดังนั้นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอทำให้สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่มและการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV เป็นวิธีการป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกที่ดีที่สุด
แพทย์หญิงพรรณลดา ฉันทศาสตร์รัศมี สูตินรีแพทย์ ศูนย์สูตินรีเวช โรงพยาบาลวิมุต กล่าวถึงโรคมะเร็งในผู้หญิงว่า “ในทุกๆปี ผู้หญิงจำนวนมากที่ตรวจพบและเสียชีวิตจากโรคมะเร็งทางนรีเวช ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งเต้านมที่พบบ่อยที่สุด มะเร็งปากมดลูกที่พบมากรองลงมา มะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งมดลูก ซึ่งเป็นโรคที่สามารถรักษาได้หากตรวจพบตั้งแต่ในระยะแรก ศูนย์สูตินรีเวช โรงพยาบาลวิมุต เชื่อมั่นว่าวิธีป้องกันการเกิดโรคที่ดีที่สุด คือการดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของผู้หญิงตั้งแต่วัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ ตลอดไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งไม่เพียงช่วยให้มีสุขภาพดีในระยะยาว แต่ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ด้วย โดยวางแผนการดูแลสุขภาพตาม 3 ช่วงวัยหลัก คือ
1. วัยเด็กก่อนมีประจำเดือน แนะนำให้กินอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอเสริมสร้างพัฒนาการให้เหมาะสมแต่ละช่วงวัย นอกจากนี้ยังแนะนำให้รับวัคซีนที่เด็กไทยควรได้รับตามคำแนะนำของแพทย์ โดยเฉพาะวัคซีน HPV เพื่อป้องกันมะเร็งที่เกิดจากเชื้อHPV เช่นมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก มะเร็งในช่องปากและลำคอ ซึ่งฉีดได้ทั้งเด็กหญิงและชายตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
2. วัยเจริญพันธุ์ หรือวัยที่มีประจำเดือนแล้ว เมื่อถึงวันอันสมควรแนะนำให้ตรวจภายใน ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและคัดกรองมะเร็งเต้านมอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญควรสังเกตความผิดปกติในร่างกาย หากพบความผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ทันที
3. วัยหมดประจำเดือน วัยนี้ต้องตรวจสุขภาพทุกปี รวมถึงตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญควรสังเกตสัญญาณเตือนก่อนวัยทอง อาทิ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หงุดหงิดง่าย ร้อนวูบวาบ หมดอารมณ์ทางเพศ เป็นต้น เพื่อให้รู้เท่าทันตนเอง บอกเล่าให้คนใกล้ตัวเข้าใจ และรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจไปด้วยกัน”
คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปป่วยเป็นโรคซึมเศร้าถึง 1.5 ล้านคน
โดยในปัจจุบันผู้ป่วยซึมเศร้าในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทางองค์การอนามัยโลกชี้ว่าเพศหญิงมีแนวโน้มเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ชาย 2 เท่า เนื่องจากเพศหญิงเป็นเพศที่มีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนมากกว่าเพศชาย ทั้งในช่วงที่มีประจำเดือน ช่วงตั้งครรภ์ ตลอดจนอาการซึมเศร้าหลังคลอด นอกจากนี้ผู้หญิงยังต้องเผชิญความคาดหวังจากสังคมและปัญหาในครอบครัวอีกด้วย
แพทย์หญิงเพ็ญชาญา อติวรรณาพัฒน์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจิตเวช ศูนย์สุขภาพใจ โรงพยาบาลวิมุต เผยว่า “สุขภาพใจก็ไม่ต่างกับสุขภาพกายที่ควรเริ่มต้นดูแลตั้งแต่วัยเด็กจนโต โดยมีเทคนิค 4 ล ให้ผู้หญิงทุกคนนำไปปฏิบัติง่ายดังนี้
ล แรก คือ เลิกคิดลบ คิดบวก พยายามมองด้านดี ๆ ของสิ่งต่าง ๆ ช่วยให้เรามีสติในการจัดการอุปสรรคและปัญหาได้
ล สอง คือ เลิกเปรียบเทียบกับคนรอบตัว เพราะทุกคนมีชีวิตแตกต่างกัน ความสุขและความทุกข์ของแต่ละคนยอมแตกต่างกันไปด้วย รวมถึงการมีสติในการใช้โซเชียลมีเดียที่อาจทำให้เรารู้สึกแย่กับตนเองโดยไม่รู้ตัว
ล สาม คือ เลือกเพื่อนและคนรอบข้างที่ดีที่พร้อมรับฟัง ปัญหาบางเรื่อง เพียงได้มีคนรับฟังและให้กำลังใจ ก็จะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ ล สี่ คือ เลือกสร้างความสุขให้ตัวเอง ด้วยกิจกรรมที่ชอบเพื่อให้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าและความเครียดในแต่ละวัน”
สำหรับแคมเปญ “The Power of Women” ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการดำเนินงานของโรงพยาบาลวิมุตในการสนับสนุนให้หญิงไทยทุกคนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ด้วยการให้ผู้หญิงทุกช่วงวัยสามารถดูแลสุขภาพได้อย่างคุ้มค่าและสะดวกสบายผ่านการนำเสนอแพ็กเกจซึ่งล้วนดำเนินการโดยแพทย์ผู้ชำนาญการในสาขาต่าง ๆ พร้อมด้วยการใช้นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน ให้ทุกการรักษามีความแม่นยำและเปี่ยมประสิทธิภาพ ช่วยลดอัตราการเกิดโรคและการเสียชีวิตของผู้หญิง ซึ่ง รพ. วิมุต เชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้จะสามารถตอบโจทย์ความจำเป็นด้านสุขภาพของผู้หญิงในแต่ละช่วงวัยได้เป็นอย่างดี