“มิโด” (MIDO) เอาใจเหล่านักสะสมและคนรักนาฬิกาสไตล์วินเทจ เปิดตัวเรือนเวลาคอลเลกชั่นสุดพิเศษที่วางจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทย กับคอลเลกชั่นที่ชื่อว่า “คอมมานเดอร์ 1959 อินดิโก้ ไทยแลนด์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น”
พร้อมให้เหล่าคนรักนาฬิกาสไตล์วินเทจและเหล่านักสะสมได้ยลโฉมเรือนเวลาระดับตำนานจากแบรนด์ “มิโด” (MIDO) ที่ล่าสุดได้เปิดตัวคอลเลกชั่นสุดพิเศษที่วางจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น กับคอลเลกชั่นที่ชื่อว่า “คอมมานเดอร์ 1959 อินดิโก้ ไทยแลนด์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น” (Commander 1959 Indigo Thailand Limited Edition) เรือนเวลาดีไซน์คลาสสิกรุ่นไอคอนิกประจำแบรนด์ โดดเด่นด้วยลวดลายหน้าปัดสีน้ำเงินอินดิโก้ประจำปี 2023
“มิโด” (MIDO) แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (GEORGES SCHAEREN) เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.SCHAEREN & CO. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน
การกลับมาอีกครั้งของเรือนเวลาระดับตำนานสำหรับคอลเลกชั่น “คอมมานเดอร์ 1959” (Commander 1959) ที่ปรับโฉมใหม่พร้อมเอาใจคนรักเรือนเวลาดีไซน์คลาสสิก กับคอลเลกชั่นสุดพิเศษ “คอมมานเดอร์ 1959 อินดิโก้ ไทยแลนด์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น” (Commander 1959 Indigo Thailand Limited Edition) ประจำปี 2023 ที่วางจำหน่ายเฉพาะประเทศไทยนั้น
มีดีไซน์ที่มีตัวเรือนทรงกลมมาพร้อมกับสายนาฬิกาผลิตจากสแตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีเหลืองทองให้ความหรูหรา ด้านหน้าปัดขนาด 37 มม. ถูกตกแต่งด้วยลวดลายกิโยเช่ (Guilloché) สีน้ำเงินอินดิโก้เข้มที่น่าค้นหา ที่ตัดกับสีทองของตัวเรือนได้อย่างโดดเด่นลงตัว พร้อมช่องแสดงวันและวันที่บริเวณตำแหน่ง 3 นาฬิกา โดยเข็มนาฬิกาทั้งเข็มนาทีและเข็มชั่วโมงถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) ช่วยอ่านค่าเวลาในที่แสงน้อยหรือยามค่ำคืน ครอบทับด้วยกระจกหน้าปัดผลิตจากกระจกคริสตัลอะคริลิกอันสง่างาม
ด้านตัวเรือนคอลเลกชั่นนี้ถูกดีไซน์แบบโมโนค็อก (Monocoque) หรือตัวเรือนชิ้นเดียวที่ไม่มีฝาหลังและต้องเปิดเครื่องจากกระจกด้านหน้าเมื่อต้องรับบริการหลังการขาย เรียกได้ว่าเป็นเรือนดีไซน์ไอคอนิกสุดคลาสสิกของแบรนด์ พร้อมการตกแต่งด้วยโลโก้ “มิโด” (MIDO) ในแบบสไตล์วินเทจ และการขับเคลื่อนตัวเรือนด้วยกลไกออโตเมติก มิโด คาลิเบอร์ ETA2836-2 25 jewels ความถี่ 28,800 รอบต่อชั่วโมง ที่สามารถสำรองพลังงานได้ถึง 38 ชั่วโมง และมีความสามารถในการกันน้ำได้ถึง 50 เมตร
โดยเรือนเวลารุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่วางจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยนี้ ถูกผลิตขึ้นมาเพียงจำนวน 300 เรือน และบริเวณด้านหลังนาฬิกาจะถูกสลักลำดับเลขกำกับไว้ทุกเรือน (XXX/300) มาพร้อมกับกล่องดีไซน์พิเศษเฉพาะรุ่นและใบรับประกันลิมิเต็ดอิดิชั่น โดยสามารถลงทะเบียนสั่งจองล่วงหน้าได้ภายในงานเซ็นทรัล อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2023 (Central International Watch Fair 2023) ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และห้างเซ็นทรัลชิดลม
นอกจากนี้ “มิโด” (MIDO) ยังได้แนะข้อควรคำนึงในการเลือกเรือนเวลาเพื่อสะสม เริ่มที่เลือกจากแบรนด์นาฬิกาที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับมาตรฐานในการผลิต โดยเฉพาะแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจากสถาบันการรับรองความถูกต้องแม่นยำของนาฬิกาข้อมือ จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์หรือแบบฉบับ SWISS MADE ที่มีการการันตีเพื่อรับประกันตัวเรือนด้วย ต่อมาเลือกเรือนสะสมจากดีไซน์ของนาฬิกา โดยเฉพาะนาฬิกาที่มีดีไซน์คลาสสิกและไทม์เลส เพราะสามารถสวมใส่ได้ตลอด ไม่มีตกยุค และสามารถส่งต่อรุ่นสู่รุ่นได้ ซึ่งเหมาะที่จะซื้อเพื่อสะสมเป็นอย่างมาก ปิดท้ายที่การเลือกเรือนเวลารุ่นหายาก หรือเป็นรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น (Limited Edition) ที่จะมีการผลิตออกมาอย่างจำกัดและจะมีความโดดเด่นหรือลูกเล่นในแต่ละรุ่น ซึ่งเรือนลิมิเต็ดเหล่านี้เมื่อจำหน่ายหมดจะไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ซึ่งอาจเป็นที่ต้องการของตลาด และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วย