เครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล ตอกย้ำการเป็นฮับด้านการป้องกัน รักษา ฟื้นฟู ปัญหากระดูกและข้อเข่าครบวงจร ครั้งแรกโซลูชันใหม่ นวัตกรรม Nano patch แผ่นแปะรักษาอาการปวดเข่า ลดปวด และชะลอการเสื่อมตรงจุดในครั้งเดียว
เครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล เล็งเห็นปัญหาสุขภาพคนไทย จัดงาน “REVIVE YOUR MOBILITY คืนอิสระการเคลื่อนไหว Orthopedic Holistic Care” เปิดตัว นวัตกรรมใหม่ การรักษาฟื้นฟูอาการอักเสบและปวดข้อเข่าด้วยแผ่นแปะ Nano Patch แห่งแรก ลดปวดตรงจุดในครั้งเดียว ยกระดับการรักษาดูแลอาการปวดจากข้อเข่าเสื่อม ตอกย้ำการเป็นฮับด้านการรักษาข้อเข่าเสื่อมครบวงจรแบบ HOLISTEC CARE พร้อมคืนอิสระการเคลื่อนไหวให้ผู้ป่วยกลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ศ.นพ.ธไนนิธย์ โชตนภูติ ผู้อำนวยการศูนย์อุบัติเหตุและออร์โธปิดิกส์ และ ศัลยแพทย์ ออร์โธปิดิกส์เฉพาะทางด้านข้อเข่าและข้อสะโพก เครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบว่าในแต่ละปีมีประชากรผู้สูงวัย และกลุ่มนักกีฬาทั้งชายและหญิงในประเทศมักประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคที่เกิดบริเวณข้อเข่า โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาข้อเข่าเสื่อม จากการใช้ข้อเข่ามานาน และจากการเล่นกีฬาแบบลงน้ำหนัก เป็นเวลานาน ซึ่งส่งผลให้บางรายเกิดอาการเจ็บปวด จนรบกวนการดำเนินชีวิตประจำวัน และไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้สะดวกเหมือนเดิม
“จากการวิจัยของสถาบันกระดูกและข้อ เครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล ที่ผ่านมา จนต่อยอดสู่การเปิดตัวนวัตกรรมในการรักษาผู้ป่วยด้วย Nano Patch นับเป็นที่แรก และเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่นำมาใช้ในการรักษา ลดอาการเจ็บปวดและอักเสบข้อเข่าด้วยเข็มจิ๋ว ใช้งานแปะเพียง 4-5 ชม. ตัวยาจะมุ่งบริเวณที่ปวดโดยตรง ลดการทานยา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยสูงวัย ทำให้ไม่ส่งผลเสียต่อผู้ที่มีปัญหาด้านโรคหัวใจ โรคไต เป็นการดูแลรักษา เพื่อชะลอหรือเลี่ยงการผ่าตัด เป็นการยกระดับในกระบวนการรักษาดูแลปัญหาข้อเข่าเสื่อม เพื่อตอบโจทย์กับการรักษาในปัจจุบัน”
ทางสถาบันกระดูกและข้อ เครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านชีวภาพ ซึ่งเป็นการรักษาแบบองค์รวม ตั้งแต่การประเมินโอกาสเกิดความเสื่อมของข้อเข่าสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการยังไม่มาก ผู้ป่วยบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรือบาดเจ็บเล็กน้อย สามารถรักษาอาการบาดเจ็บด้วยเทคโนโลยีชีวภาพในการรักษา อาทิ การตรวจค่า Urine CTX-II, การตรวจอัลตราซาวด์ Synovial Joint ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบความผิดปกติของคนไข้ได้เร็วยิ่งขึ้น การรักษาแบบ PRP Cold Brew ซึ่งมีเฉพาะที่สถาบันกระดูกและข้อ เครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล เท่านั้น เป็นการคงอุณหภูมิรอบปั่นรักษาเกล็ดเลือดสำคัญช่วยฟื้นฟูการบาดเจ็บ ภายในเกล็ดเลือดจะประกอบไปด้วยสารชีวภาพสำคัญที่มีผลต่อการซ่อมแซมและฟื้นฟูการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น แต่สารสำคัญเหล่านั้นมักถูกทำลายไปในระหว่างขั้นตอนปั่นคัดแยก ซึ่งทางการแพทย์ในปัจจุบันได้มีการใช้เครื่องปั่นคัดแยกที่ช่วยคงคุณสมบัติต่างๆ ภายในเกล็ดเลือดได้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ โดยแพทย์สามารถกำหนดความเข้มข้นของเกล็ดเลือดได้ตามต้องการ พร้อมควบคุมอุณหภูมิระหว่างการปั่น เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อสารชีวภาพของเกล็ดเลือด จึงช่วยรักษาสารสำคัญต่างๆ ภายในเกล็ดเลือดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล ยังคงจะนำนวัตกรรมทางการแพทย์และเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่องและหลายแขนง เพื่อยกระดับและพัฒนาการรักษาที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ และครอบคลุมทุกการรักษา ให้ผู้รับบริการทุกท่านได้รับผลการรักษาที่แม่นยำอย่างดีที่สุด มุ่งเน้นการเป็นฮับในการรักษาข้อเข่าเสื่อมครบวงจร โดยปัจจุบันการให้บริการการรักษาของสถาบัน ในการดูแลสำหรับข้อเข่าเสื่อมครบวงจรแบบ HOLISTIC CARE เป็นการดูแลแบบครบวงจร ตั้งแต่การตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันในกลุ่มเสี่ยง ดูแล ฟื้นฟู และรักษาแบบครบวงจร ซึ่งมี 4 ขั้นตอน ด้วยกันประกอบไปด้วย
1. การตรวจค่า Urine CTX II
คือ การตรวจในเชิงป้องกันผ่านกรดยูริคจากปัสสาวะ เพื่อประเมินโอกาสเสี่ยงโรคทางข้อเข่าของผู้ป่วยนั้นๆ ว่าในอนาคตจะมีโอกาสเสี่ยงข้อเข่าเสื่อมหรือไม่ (ซึ่งไม่สามารถตรวจพบจากการเอกซเรย์ได้) รอผลตรวจประมาณ 2 สัปดาห์ กลุ่มที่แนะนำให้ควรมาตรวจ คือ ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคทางข้อเข่าหรือเคยได้รับการผ่าตัดข้อเข่า กลุ่มช่วงอายุ 45-50 ปี (ปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ ก็เริ่มมีอาการปวดข้อเข่าแล้ว) และกลุ่มนักกีฬา เช่น นักวิ่ง ผู้ที่ชอบเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม เป็นต้น
2. การรักษาแบบ PRP Cold Brew
คือ การนำเลือดของผู้ป่วยมาใช้ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น จึงเป็นวิธีรักษาที่ร่างกายยอมรับได้ โดยมีหัวใจสำคัญเป็นสารชีวภาพหรือเกล็ดเลือดเข้มข้น
– PRP (Platelet Rich Plasma) วิธีการเจาะเลือดจากบริเวณหลังมือ หรือข้อพับแขนของผู้ป่วยออกมาประมาณ 11-22 ml. (ขึ้นอยู่กับอาการบาดเจ็บ) ก่อนจะนำไปปั่นคัดแยกเอาน้ำเลือดกับเม็ดเลือดแดงและขาว (ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้เกิดการอักเสบ) ออกจากกัน โดยยังคงสารชีวภาพภายในเกล็ดเลือดไว้ให้มากที่สุด เพราะภายในเกล็ดเลือดประกอบไปด้วยสารชีวภาพสำคัญที่มีผลต่อการซ่อมแซมและฟื้นฟูการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น (แต่สารสำคัญเหล่านั้นมักถูกทำลายไปในระหว่างขั้นตอนปั่นคัดแยก)
– วิธี PRP Cold Brew เป็นการคงอุณหภูมิรอบปั่นรักษาเกล็ดเลือดสำคัญ ด้วยเทคนิคที่แตกต่าง เป็นการใช้เครื่องปั่นคัดแยกที่ช่วยคงคุณสมบัติต่างๆ ภายในเกล็ดเลือดได้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ โดยแพทย์สามารถกำหนดความเข้มข้นของเกล็ดเลือดได้ตามต้องการ พร้อมควบคุมอุณหภูมิระหว่างการปั่น เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อสารชีวภาพของเกล็ดเลือด จึงช่วยรักษาสารสำคัญต่างๆ ภายในเกล็ดเลือดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. แผ่นแปะ Nano Patch
Nano Patch ถือเป็นนวัตกรรมล่าสุด ช่วยรักษาอาการปวดเข่าด้วยการนำแผ่น Nano Patch ที่มีเข็มจิ๋วที่ถูกดีไซน์ อยู่ด้านใน มีช่องสำหรับฉีดตัวยาค็อกเทลที่ทำการผสมตัวยาเฉพาะของผู้ป่วยแต่ละคน ซึ่งจะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการที่จะทำการแปะแผ่น Nano Patch ที่หัวเข่าของผู้ป่วยเท่านั้น ใช้เวลาในการเดินยาประมาณ 4-5 ชั่วโมง มีระยะของการออกฤทธิ์ยาได้ยาวถึง 1 เดือน ตัวยาจะมุ่งเป้าไปยังบริเวณที่ปวดโดยตรง วิธีนี้ข้อดีคือ ลดการทานยา โดยเฉพาะกลุ่มยา NSAIDs ที่เมื่อทานยากลุ่มนี้ไประยะยาวจะไปทำลายตับ ไต และหัวใจได้ ยิ่งในกลุ่มผู้สูงวัยยิ่งควรต้องระวังอย่างมาก สำหรับตัวยาค็อกเทลที่ผสมขึ้นสำหรับ Nano Patch นี้มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ผลข้างเคียงพบน้อยมาก ไม่ส่งผลต่อตับ ไต และในผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยชะลอ การผ่าตัด หรือในบางรายอาจไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเลย
4. การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมด้วยหุ่นยนต์ (Robotic Knee Replacement)
“ข้อเข่าเสื่อม” เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ โดยวิธีที่ช่วยลดความทรมานจากอาการปวดข้อเข่ารุนแรงให้สามารถกลับมาใช้งานข้อเข่าได้อย่างเป็นปกติสุขอีกครั้ง คือ การรักษาด้วยการ “ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม” โดยในปัจจุบันวิธีการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมก้าวหน้าไปมาก ทั้งยังมีนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาเป็นส่วนเสริม ทำให้แพทย์ทำการรักษาผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
ศ.นพ.ธไนนิธย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “นอกจากเรื่องจุดเด่นของการเป็นฮับ ศูนย์กลางการป้องกัน รักษา ฟื้นฟูแบบ HOLISTEC CARE ที่ครอบคลุมและต่อเนื่องแล้ว อีกจุดเด่นคือเราได้รวบรวมทีมแพทย์เฉพาะทางที่ชำนาญการในแต่ละสาขา เช่น ศัลยศาสตร์กระดูกและข้อ ข้อเทียม ข้อสะโพกและข้อเข่า เวชศาสตร์การกีฬา การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา และเวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งเครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล ให้ความสำคัญกับการรักษาเฉพาะทางอย่างมาก โดยแพทย์เฉพาะทางแต่ละท่านมีประสบการณ์สูงในการทำเคสเฉพาะทางที่ยากและซับซ้อน และสามารถใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยหรือใช้เทคนิคหรือเทคโนโลยีขั้นสูงในการรักษา เช่น การผ่าตัดส่องกล้องในข้อที่มีความละเอียดสูง หรือใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด (Robotic Surgery) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยขั้นสูง”