พรหมลิขิต จบ แต่ดราม่าไม่จบ รอมแพง ขอน้อมรับความผิดพลาดของนิยายพรหมลิขิต ลั่นทีมละครโดนวิจารณ์ยับ เป็นความผิดเธอเอง ย้ำที่ทำได้ดีที่สุดเท่านี้ และน่าจะไม่ดีพอที่จะทำเป็นละคร
พรหมลิขิต จบ แต่เรื่องราวควันหลงยังคงมีให้เห็นจนถึงทุกวันนี้ รอมแพง เองก็เช่นกัน เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ผิดหวังกับละครพรหมลิขิตเป็นอย่างมาก เพราะคาดหวังว่าจะสนุกสนาน ตื่นเต้น ได้เกร็ดความรู้ต่างๆ ครบรสครบอารมณ์เฉกเช่นละครภาคแรกอย่าง บุพเพสันนิวาส ซึ่งหลังละครจบกลางดึกวันจันทร์ (18 ธ.ค. 2566) แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ก็หลั่งไหลไปทั่วทุกแฟลตฟอร์มบนโซเซียล จนถึงเวลานี้
และล่าสุดเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาของ วันที่ 22 ธ.ค. 2566 รอมแพง นักเขียวนวนิยายเรื่องดังกล่าว ได้ออกโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อ รอมแพง ถึงดราม่าพรหมลิขิต พร้อมระบุว่า ขอรับผิดเอง และยังบอกว่า พรหมลิขิต ไม่น่าจะดีพอที่จะทำเป็นละคร เรื่องราวฟังแล้วดูเชิงตัดพ้อ ถึงการถูกวิจารณ์ว่าลอยตัวในเรื่องนี้ พร้อมยังทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าไม่โดนตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์เสียบ้าง ก็จะไม่ทำให้เกิดการพัฒนา ไปฟังข้อความของ รอมแพง พร้อมๆ กัน
“ขอน้อมรับความผิดพลาดของนิยายพรหมลิขิต ที่ทำได้ดีที่สุดเท่านี้ และน่าจะไม่ดีพอที่จะทำเป็นละคร จึงทำให้ทีมละครโดนวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก เป็นความผิดของดิฉันเองค่ะ
หลายท่านอาจจะไม่พอใจที่ทีมทำละครโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยที่ดิฉันเหมือนลอยตัวจากการวิพากษ์นั้น จากการที่ดิฉันพิมพ์และพูดอยู่เสมอว่า หลังขายเป็นละครแล้วแทบจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการทำงานของทีมละครเลย นอกจากจะมีการขอคำปรึกษาจากทีมงาน และต้องให้เกียรติคนทำงาน เพราะศิลปะการนำเสนอของละครกับนิยายแตกต่างกัน
ซึ่งประโยคเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดิฉันพูดมาเป็น 10 ปีในการไปเป็นวิทยากรทุกแห่งจากการที่นิยายได้ทำเป็นละครมาหลายเรื่อง
แน่นอนว่าดิฉันไม่มีปัญหากับการดัดแปลง เพราะเข้าใจเป็นอย่างดีในศาสตร์ที่ต่างกัน แต่อาจจะมีความเสียดายในเนื้อหาหรือคาแร็คเตอร์ที่เปลี่ยนไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ความเสียใจที่ขายเป็นละครอย่างแน่นอน
ดังนั้นแบ่งความคิดเห็นที่ตำหนิจากความผิดหวังในสิ่งที่คาดหวังจากละครมาทางดิฉันได้เลยค่ะ เพราะถ้าไม่โดนตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์เสียบ้าง ก็จะไม่ทำให้เกิดการพัฒนา
ขอบคุณมากนะคะ
รอมแพง”
ขณะเดียวกันหลังจากที่ รอมแพง โพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ก็มีคนมาแสดงความคิดเห็นมากมาย ส่วนใหญ่ระบุ เป็นกำลังใจให้ และชื่นชมนิยายพรหมลิขิตของเธออย่างต่อเนื่อง แอดนี่อยากไปร้านหนังสือแล้วรีบซื้อมาอ่านเลย
แต่อย่างไรก็ตาม TOPPIC Time ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน ไม่ว่าจะนักเขียนนิยาย ผู้จัดละคร ผู้กำกับ นักแสดงสุดยอดฝีมือ เพราะทุกสิ่งอย่างเมื่อมันมีความคาดหวัง ก็ย่อมมีผิดหวังเป็นธรรมดา เอาคำวิจารณ์เป็นครู และนี่แหล่ะ…ทำให้อยากดู ภาค 3 ต่อๆ ไปเลย.