พบ เสือโคร่ง 2 สัญชาติ ที่ชุมพร หากินไปมา ไทย-เมียนมาร์ ลวดลายสวยสดงดงาม เร่งสำรวจเพิ่มเติม สถิติปี 2565 พบเสือโคร่ง จำนวน 148-189 ตัว เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่สำรวจพบเพียง 130-160 ตัว…
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2567 เฟซบุ๊ก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เผยแพร่ข้อมูลการพบ เสือโคร่ง 2 สัญชาติ หากินไปมาระหว่าง ไทยกับ เมียร์มาร์ โดยระบุว่า…
– นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า นายอาทร กำลังใบ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยาน เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนล่าง) จ.ชุมพร ได้รายงานว่า พบการกระจายพื้นที่อยู่อาศัยของ เสือโคร่ง บริเวณป่าดวงเจริญ ป่าเนินทอง และป่าช่องขมิ้ว หมู่ที่ 4 และ หมู่ที่ 7 ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ซึ่งเสือโคร่งดังกล่าว มีการกระจายพื้นที่อาศัยหากิน ระหว่างประเทศไทยและประเทศเมียนมาร์ ซึ่งอาจจะเป็น เสือโคร่ง 2 สัญชาติ เนื่องจากมีการข้ามไปมาระหว่าง 2 ประเทศ
– โดยการค้นพบครั้งนี้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ร่วมกับมูลนิธิฟรีแลนด์ (Freeland) ทำการสำรวจการกระจายตัวของ เสือโคร่ง ในพื้นที่บริเวณเทือกเขาตะนาวศรี มูลนิธิฟรีแลนด์ทำการสำรวจบริเวณเทือกเขาตะนาวศรีทั้ง 2 ฝั่ง คือ ฝั่งประเทศไทยและฝั่งประเทศเมียนมาร์ ในพื้นที่บริเวณอุทยานแห่งชาติหลุนญา ซึ่งการพบครั้งนี้ เป็นการค้นพบ เสือโคร่ง จำนวน 3 ตัว ในฝั่งประเทศไทย โดยได้ภาพจากการตั้งกล้องในพื้นที่ทั้งหมด 24 ตัว ซึ่งแต่ละตัวมีลวดลายแตกต่างกัน
– อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ไม่เคยพบเสือโคร่งในพื้นที่นี้มาก่อน เนื่องจากไม่มีการสำรวจ แต่จากการเริ่มตั้งกล้องสำรวจเมื่อปี 2562 เป็นต้นมา พบว่าในปี 2563 – 2565 ก็เคยพบ เสือโคร่ง มาแล้ว ส่วนปี 2566 พบแต่รอยเท้า เช่นเดียวกับการลาดตระเวนเชิงคุณภาพที่ผ่านมา ก็พบแต่รอยเท้าเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบร่องรอยบนต้นไม้ ในพื้นที่เขตช่วงล่างรอยต่อกับเขตด้านทิศใต้ด้วย
– จากกรณีการพบ เสือโคร่ง 2 สัญชาติ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้กรมอุทยานฯ เร่งสำรวจการแพร่กระจายพันธุ์ของเสือโคร่ง ต่อมาสถานีวิจัยสัตว์ป่าคลองแสง จึงเร่งสำรวจดังกล่าว พบว่ามี เสือโคร่ง จึงได้มีการตั้งกล้อง และพบภาพที่สามารถระบุพิกัดได้ จากนั้นสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า จึงได้ทำการศึกษาว่า เป็นเสือโคร่งที่กระจายตัวหากินระหว่าง 2 ประเทศ มาเป็นระยะเวลานานเท่าใด รวมถึงว่าเป็นเสือที่เคยรวมอยู่ในจำนวนเสือของไทยที่เคยทำการสำรวจมาก่อนหรือไม่ เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลที่เป็นปัจจุบันขึ้น
มาต่อกันที่ สถานการณ์เสือโคร่งในปัจจุบัน โดยจากการประเมินประชากรเสือโคร่งในธรรมชาติ
– ในปี 2565 พบเสือโคร่ง จำนวน 148-189 ตัว เพิ่มขึ้นจากสถิติ ปี 2563 ที่สำรวจพบ 130-160 ตัว โดยอาศัยเทคนิคการประเมินเฉพาะทางและการจำแนกลายที่ได้จากกล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ ซึ่งติดตั้งไว้มากกว่า 1,200 จุด ในพื้นที่อนุรักษ์ 28 แห่ง
– จากการศึกษาวิจัยนี้ เรายังพบอีกว่า พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง เป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด คือ 103-131 ตัว
– ในส่วนของพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าตะวันตกตอนเหนือ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ขึ้นไปจนอุทยานแห่งชาติคลองลานอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดตาก สามารถบันทึกภาพเสือโคร่งได้ จำนวน 16 – 21 ตัว ไม่เพียงแต่ภาพของเสือโคร่งเท่านั้น หากแต่ยังบันทึกภาพเหยื่อของเสือโคร่ง เช่น กวางป่า หมูป่า เก้ง วัวแดง เป็นต้น สิ่งนี้เป็นดัชนีวัดความสมบูรณ์ของผืนป่าและความเหมาะสมของการเป็นถิ่นอาศัยของเสือโคร่งได้เป็นอย่างดี
– ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้ให้ความเห็นชอบในแผนปฏิบัติการแห่งชาติเพื่ออนุรักษ์เสือโคร่ง พ.ศ. 2565 – 2577 โดยตั้งเป้าหมายในการยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองถิ่นอาศัยสำคัญของ เสือโคร่ง ได้แก่ ผืนป่าตะวันตก และผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ตลอดจนเร่งฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งและเหยื่อในถิ่นอาศัยเป้าหมาย ได้แก่ ผืนป่าแก่งกระจาน ผืนป่าภูเขียว-น้ำหนาว และผืนป่าคลองแสง-เขาสก ทั้งหมดทั้งมวลนี้เพื่อนำประเทศไทยไปสู่การเป็นผู้นำในการอนุรักษ์เสือโคร่งในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้ ภายในปี พ.ศ. 2577.