ศาลรัฐธรรมนูญ วินัจฉัยสมาชิกภาพ “พิธา” ไม่สิ้นสุด นั่งตำแหน่ง ส.ส.ต่อ ชี้ “ไอทีวี” ไม่ใช่สื่อมวลชน ตั้งแต่ปี 2550 พร้อมเตือน การแสดงความเห็นทางคดีผ่านสื่อ ไม่เหมาะสม ถือเป็นการกดดันศาล…
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 มกราคม 2567 องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมเพื่อแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ ลงมติและออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส. ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่
โดยศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. นับแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
จากนั้น เวลา 14.00 น. ของวันนี้ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย อย่างไรก็ตาม ก่อนอ่านคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้แจงทำความเข้าใจว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้เคยแจ้งให้คู่กรณีทราบว่า คดีนี้ผู้ถูกร้องขอขยายระเวลายื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาจำนวน 2 ครั้งๆ ละ 30 วัน รวม 60 วัน ซึ่งศาลอนุญาต เพราะฉะนั้นคดีนี้ควรจะเสร็จสิ้นไปก่อน 60 วันที่แล้ว ไม่ใช่ว่าศาลล่าช้า
นอกจากนี้ ศาลขอแจ้งให้คู่กรณีทราบว่า การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีทางสื่อต่างๆ ถือว่าเป็นการไม่สมควร ไม่เหมาะสม เพราะการแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะบวกหรือลบ ก่อนศาลวินิจฉัย เป็นการชี้นำ กดดันศาล เพราะฉะนั้นการกระทำแบบนี้ ถือว่าไม่เหมาะสม ขอเตือนไว้ด้วย
โดยศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาแล้วเห็นมีมติวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) เนื่องจากเนื่องจากในวันที่ 4 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นวันที่พรรคก้าวไกล ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อต่อ กกต. แม้นายพิธาจะเป็นผู้ถือหุ้น 42,000 หุ้น แต่ในวันดังกล่าว บริษัท ไอทีวี จำกัด มหาชน ได้สิ้นสภาพความเป็นสื่อไปก่อนแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2550 ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้บอกเลิกสัญญา.