ความคืบหน้า เรือล่มอยุธยาโดยพบพบซากเรือล่มแล้ว ลอยห่างจุดจม 300 เมตร แต่ยังไม่พบร่างคนขับเรือ หน่วยกู้ภัยยังค้นค้นหาต่อเนื่อง
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 30 ก.ย.2564 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิสุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย เดินทางมาอำนวยการค้นหาเรือจมที่หน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร อ พระนครศรีอยุธยา โดยทีมปฎิยัติการได้ใช้โซ่ขนาดใหญ่ ลากขนานลำน้ำ และใช้เครื่องสแกนโซน่าทำการค้นหา ซึ่งจนท สามารถใช้โซ่เกี่ยววัตถุใต้น้ำได้แล้ว อยู่ที่ความลึก ประมาณ20 เมตรกลางแยกแม่น้ำ ซึ่งกระแสน้ำแรงมาก จากนั้นได้ให้ประดาน้ำจำนวน 2 คนลงไปสำรวจ ซึ่งล่าสุดยืนยันว่าเป็นเก๋งเรือที่จมลงไป จนท ได้ประสานกับทางบริษัทเรือ เพื่อมาวางแนวทางในการกู้เรือลำดังกล่าว ขณะที่ชุดประดาน้ำยืนยันว่ายังไม่พบร่างของผู้สูญหาย คาดว่าจะถูกกระแสน้ำพัดออกจากเรือแล้ว
ด้าน นายพิษณุ สัตะปัน หัวหน้ากลุ่มปฏิบัติงานใต้น้ำ เรือเอกฐาพล สมสกุล ประจำสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคง กับ กอ.รมน.กองทัพเรือ ช่วยราชการศูนย์ ปภ.เขต 4 ประจวบฯ กรมเจ้าท่า พร้อมเจ้าหน้าที่จากเจ้าท่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าร่วมหารือและวางแผนในการนำเรือไซด์สแกนโซน่า ซึ่งเป็นเรื่อติดตั้งอุปกรณ์ระบบสำรวจใต้ท้องน้ำ มาใช้สแกนหาซากเรือที่จมลงไปตั้งแต่เมื่อวันที่ผ่านมา โดยเรือสแกนดังกล่าวจะสามารถมองเห็นวัตถุใต้น้ำหรือซากเรือที่จมอยู่ในรูปแบบของภาพ 3 มิติ และบอกถึงระดับความลึกในจุดที่พบได้
นายพิษณุ เปิดเผยว่าบริเวณ จุดเกิดเหตุขณะนี้เป็นช่วงน้ำวน และเป็นแยกน้ำส่งออกทั้งหมด จุดที่คาดว่าเรือจมลงน่าจะเป็นจุดที่น้ำวน ลึกไม่น้อยกว่า 20 เมตร จึงเป็นอุปสรรคต่อการลงไปค้นหาด้วยประดาน้ำ ซึ่งจากการประเมินคาดว่ากระแสน้ำด้านล่างอาจจะพัดร่างผู้ที่ติดอยู่ออกจากตัวเรือ หรืออาจจะติดอยู่จากแรงดันในห้องคนขับ อย่างไรก็ตาม หากพบซากเรือก็จะต้องรอให้น้ำนิ่งกว่านี้ จึงจะนำเรือขึ้นมาได้
เมื่อคืนของวันที่ 29 กันยายน 2564 ทีมหน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ และทีมเรือ ของบริษัท CIP ฯ เร่งระดมค้นหาเรือ CPI 77 ที่ล่มกลางแม่น้ำป่าสักรอยต่อแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดทั้งวันตั้งแต่ประสบเหตุล่ม โดยเจ้าหน้าที่ใช้เรือติดระบบซาวเดอร์ค้นหาใต้น้ำเพื่อพิสูจน์ทราบสิ่งของใต้น้ำก่อนจะทิ้งสมอเพื่อโต่งไม่ให้เคลื่อนที่และใช้ชุดประดาน้ำของหน่วยกู้ภัยอยุธยา ลงดำน้ำพิสูจน์ว่า ใช่เรือลำที่ล่มหรือไม่จนถึงเวลา 20.00 น. จึงยุติการค้น
ด้านนาวาโทรัชตะ ผกาฟุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาอยุธยา หลังเกิดเหตุสั่งหยุดการจราจรทางน้ำห้ามผ่านจุดเกิดเหตุเด็ดขาด ถึงแม้จะได้รับผลกระทบภาคของเศรษฐกิจ ในการบรรทุกสินค้า ที่จะผ่านจุดนี้ ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้อันตรายมาก ต้องรักษาชีวิตคนที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ซ้ำอีกเพราะการระบายจากแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพรยาที่ไหลมารวมบริเวณสามแยกนี้
สำหรับเรือที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเรือยนต์ ชื่อ CPI 77 รับจ้างลากจูงเรือเหล็กบรรทุกสินค้า จอดรออยู่บริเวณสะพานอโยธยา โดยมีนายสมชาย ธารกุล อายุ 64 ปี ชาวอำเภอเสนา เป็นคนขับ และมีนางนฤมล จันทรโชติ ภรรยา อายุ 51 ปี เป็นนายท้ายเรือ โดยสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุเพาะกระแสน้ำแรง และเรือลากจูงที่ล่มเกิดเสียหลักวิ่งขวางทางน้ำ
นายท้ายเรือคือนางนฤมล ภรรยานายสมชายคนขับ ที่จมไปกับเรือตัดเชือกไม่ทันทำให้เรือล่ม หลังเกิดเหตุสั่งหยุดการจราจรทางน้ำห้ามผ่านจุดเกิดเหตุเด็ดขาด ส่วนมาตรการควบคุมจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมชุดใหญ่แก้ปัญหา คาดว่าหากกระแสน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาและป่าสักไหลแรงอย่างนี้ มีแนวโน้มปิดการเดินเรือยาวหลายวันจนกว่ากระแสน้ำจะไหลลดลงปลอดภัยจึงจะอนุญาติให้เดินเรือสินค้าต่อไปได้ แต่ทั้งนี้ขอนำเข้าที่ประชุมก่อนซึ่ง ขณะนี้ยังไม่สามารถกู้เรือได้และยังค้นหาร่างของทั้ง 2 คน ได้