สำหรับวันนี้ 1 ต.ค.2564 เป็นวันแรกที่มีมาตรการให้คลายล็อกกิจกรรม กิจการต่างๆ ให้สามารถกลับมาดำเนินการได้ดังนี้
1.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และเด็กก่อนวัยเรียน เปิดดำเนินการได้ ผ่านการพิจารณาโดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือ กทม. โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้กำหนดแนวปฏิบัติ
2.ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดชุมชน ห้องสมุดเอกชน และบ้านหนังสือ
3.พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑสถาน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงพิพิธภัณฑ์ในลักษณะเดียวกัน แหล่งประวัติศาสตร์ หรือโบราณสถาน
4.ศูนย์การเรียนรู้ หรือศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมหรือหอศิลป์ ให้เปิดได้จำกัดจำนวน เช่น 1 คนต่อ 4 ตารางเมตร หรือให้เข้าชมได้ไม่เกิน 75% (ตามกำหนด) สวมหน้ากากตลอดเวลา ห้ามรับประทานอาหาร ให้เคร่งครัดมาตรการ โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จะไปจัดทำแนวปฏิบัติออกมา
5.ร้านทำเล็บ เปิดดำเนินการได้ โดยนัดหมายล่วงหน้า
6.ร้านสัก เปิดดำเนินการได้ โดยนัดหมายล่วงหน้า ลูกค้าได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือมีผลตรวจ ATK/RT-PCR เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้กำหนดแนวปฏิบัติ
7.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (นวด/สปา) เปิดดำเนินการได้ โดยนัดหมายล่วงหน้า จำกัดเวลาบริการไม่เกิน 2 ชั่วโมง/คน สามารถเปิดบริการที่ใช้น้ำเพื่อสุขภาพในกิจการสปา ภายใต้พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 (ลูกค้าได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือมีผลตรวจ ATK/RT-PCR เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง)
ทั้งนี้ ยังไม่เปิดบริการอบไอน้ำ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้กำหนดแนวปฏิบัติ
8.ธุรกิจโรงภาพยนตร์ หรือฉายภาพยนตร์ เปิดดำเนินการได้ถึง 21.00 น. ลดจำนวนเหลือ 50% และนั่งที่เว้นที่ แต่ถ้ามาด้วยกันให้นั่งด้วยกันได้ สวมหน้ากากตลอดเวลา ไม่รับประทานอาหาร กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ออกแนวปฏิบัติ
9.การเล่นดนตรีในร้านอาหาร เปิดดำเนินการได้ จำกัดจำนวนนักดนตรีไม่เกิน 5 คน นักดนตรีสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา นักร้องถอดหน้ากากอนามัยเฉพาะเวลาร้องเพลงหรือแสดง ห้ามสัมผัสคลุกคลีกันระหว่างนักร้อง นักดนตรี และลูกค้า กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้กำหนดแนวปฏิบัติ
10.ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ ยังไม่เปิดดำเนินการ ให้มีการติดตามสถานการณ์ 2-4 สัปดาห์ เนื่องจากทำให้มีการเดินทางเข้าร่วมอบรมสัมมนาจากหลายพื้นที่ และมีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้กำหนดแนวปฏิบัติ
สำหรับสถานะสีของแต่ละพื้นที่ ยังคงเดิม คือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด 37 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด
โดย พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด หรือสีแดงเข้ม ให้ปฏิบัติดังนี้
- การห้ามออกนอกเคหสถานจากเดิมเวลา 21.00-04.00 น. ปรับลดลงเป็นเวลา 22.00-04.00 น.
- ห้างสรรพสินค้าจากเดิมเปิดถึงเวลา 20.00 น. ปรับเปิดได้ถึง 21.00 น.
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัด เฉพาะจำหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภค จากเดิมเปิดถึง 20.00 น. ปรับเปิดได้ถึง 21.00 น.
- กีฬากลางแจ้ง เปิดได้ทุกประเภทกีฬาไม่เกิน 21.00 น.
อย่างไรก็ตาม นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงมาตรการคลายล็อกกิจการโรงภาพยนต์ ว่า หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีมติผ่อนคลายมาตรการให้โรงภาพยนตร์ กลับมาเปิดได้ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป แต่ให้เปิดให้บริการได้ไม่เกิน 21.00 น. ลดที่นั่งให้เหลือร้อยละ 50 นั้น ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์และพนักงานต้องยึดแนวทางปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ดังนี้
1) จัดให้มีระบบการคัดกรองพนักงานและผู้ใช้บริการด้วยไทยเซฟไทย หรือหากอยู่ในกลุ่มเสี่ยง แนะนำให้ตรวจด้วย ATK ก่อนเข้าปฏิบัติงาน
2) กำกับดูแลให้พนักงาน และผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา
3) จัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ไว้ในบริเวณต่าง ๆ อย่างเพียงพอ
4) จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการไม่ให้แออัด เว้นระยะห่างระหว่างที่นั่งทุก 2 ที่นั่งในแถวเดียวกันและระยะห่างระหว่างแถวอย่างน้อย 1 แถว หรือแถวเว้นแถว ลดระยะเวลาในการเข้าใช้บริการ โดยให้มีการลงทะเบียนจองคิว รวมทั้งลดการสัมผัส เช่น การจองตั๋วและจ่ายเงินแบบออนไลน์การตรวจบัตรโดยการสแกน
5) จัดให้มีการระบายอากาศที่ดีทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศและแผ่นกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ และในระหว่างที่ไม่มีการฉายภาพยนตร์ให้เปิดประตูโรงภาพยนตร์เพื่อระบายอากาศเป็นระยะ
6) ทำความสะอาดพื้นที่ บริเวณโดยรอบและอุปกรณ์เครื่องใช้ด้วยน้ำยาทำความสะอาด โดยเน้นบริเวณหรือจุดเสี่ยงและจุดที่มีการสัมผัส
7) จัดให้มีถังขยะที่มีฝาปิดไว้บริเวณภายในสถานที่อย่างเพียงพอ และเก็บรวบรวมขยะเพื่อส่งไปกำจัดอย่างถูกต้อง
8) มีการประชาสัมพันธ์ป้องกันและการลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายเชื้อโรคให้กับพนักงานและผู้ใช้บริการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
9) มีมาตรการติดตามข้อมูลของผู้มาใช้บริการ เช่น การใช้แอปพลิเคชันที่ราชการกำหนดหรือใช้มาตรการควบคุมการเข้าออกสถานที่ด้วยการบันทึกข้อมูล
10) โรงภาพยนตร์ต้องเข้ารับการประเมินผ่านมาตรฐาน THAI STOP COVID 2 PLUS ทั้งนี้ ขณะชมภาพยนตร์ขอให้งดกินอาหารและเครื่องดื่ม และภายหลังการใช้บริการควรล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ก่อนหยิบจับของใช้ส่วนตัว และอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกครั้งเมื่อกลับถึงบ้าน” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว.