นักบินหญิง ที่บางคนอาจคิดว่า ขีดจำกัดของบางอาชีพ มีเพียงเพศชายเท่านั้นที่สามารถทำได้ แต่ในยุคของความเท่าเทียมกัน “เพศหญิง” มีศักยภาพที่สามารถทำอะไรได้หลากหลาย และในโอกาสวันสตรีสากล TOPPIC Time ขอพาไปทำความรู้จักกับ 2 สตรีสุดสตรอง ที่มีห้องทำงานบนน่านฟ้า
“นักบินหญิง” หนึ่งในอาชีพที่หลายคนใฝ่ฝัน เราจะพาทุกคนไปเปิดประสบการณ์สุดชาเลนจ์ จาก 2 นักบินหญิงจาก บางกอกแอร์เวย์ส ที่ทั้งสวย เก่ง และแกร่ง “นักบินมะลิ พรหมกิ่งแก้ว” และ “นักบินแองจี้ – ณฐิตาภา พันธ์สง่า” บอกเลยว่าสตอรี่ของพวกเธอไม่ธรรมดา และอาจทำให้หลายคนได้แง่คิดและแรงบันดาลใจที่ว่า แค่ตั้งใจและเดินตามฝันก็ไม่ยากที่ประสบความสำเร็จ
นักบินมะลิ วิศวกรแท่นขุดเจาะน้ำมัน สู่อาชีพในฝัน “นักบินหญิง”
นักบินมะลิ พรหมกิ่งแก้ว ตำแหน่งนักบินผู้ช่วย เครื่องบินแบบเอทีอาร์ (ATR First Officer) ประจำสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กับประสบการณ์การบินกว่า 7 ปี เล่าถึงเส้นทางสู่สายอาชีพในฝันว่า…
มะลิรู้ตัวเองตั้งแต่แรก ว่างานที่ใช่สำหรับเรา อาจจะไม่ใช่งานออฟฟิศ อาจจะเพราะบุคลิกภาพของตัวเองที่เป็นสายลุย สถานที่ทำงานที่แรกของเราเลยเริ่มต้นจากแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล ซึ่งย้อนไปตั้งแต่สมัยเด็ก แรงบันดาลใจแรกที่จุดประกายความฝันสู่การเป็น นักบิน ในทุกวันนี้ เกิดขึ้นจากความทรงจำแรกของการที่ได้ไปเยือนสนามบิน ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ผู้คนรอบตัวกระตือรือร้น เหมือนว่าจะได้ออกไปพบเจอสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะทั้งได้เดินทางเอง หรือไปส่งคุณพ่อ-คุณแม่ไปทำงาน ก็ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขอย่างแท้จริง ส่วนตัวแล้วเราก็เป็นคนชอบการท่องเที่ยว และหลงใหลในเครื่องบินเป็นที่สุด จึงเป็นที่มาของการได้ตัดสินใจเลือกเรียนในสาขาวิศวกรรมอากาศยาน
“ในสมัยเรียน ก็ยังไม่ทราบว่าผู้หญิงสามารถเป็น นักบินหญิง ได้ ก็เลยไม่เคยคิดว่าอาชีพนี้เป็นไปได้สำหรับเรา จนระยะเวลาผ่านมาสักพักหลังเรียนจบ ก็ได้ค้นพบว่าผู้หญิงก็สามารถทำได้ จึงสนใจและตั้งใจอย่างจริงจัง ที่จะก้าวเข้าสู่สายอาชีพนี้ ประกอบกับจังหวะที่ในขณะนั้น สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ก็เริ่มประกาศเปิดรับสมัคร นักบินหญิง ในช่วงที่ภาคธุรกิจการบินค่อนข้างบูม เลยได้มีโอกาสไปลองสนามสอบ “Student Pilot” ในตอนนั้น เลยนับเป็นโชคดีของเรา และถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ามาในแวดวงอาชีพนี้ ซึ่งการที่เราได้มายืนในจุดนี้ นับว่าแทบจะไม่มีอุปสรรค หรือความเหลื่อมล้ำทางเพศเข้ามาข้องเกี่ยวข้องเลย ทุกคนเท่าเทียมกันหมด สำหรับมะลิเอง ยังได้รับความเอ็นดูจากพี่ๆ กัปตันและเพื่อนร่วมงานทุกคน โดยจากประสบการณ์แล้ว ความเป็นผู้หญิงบางครั้งก็สามารถช่วยส่งเสริมสนับสนุนการทำงานระหว่างกันให้ออกมาสมบูรณ์แบบค่ะ”
สำหรับเบื้องหลังโลกของนักบินสาว คงมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ใครๆ หลายคนคงจินตนาการไม่ออก แต่สำหรับ “นักบินมะลิ” นั้นส่วนตัวแล้วชอบใช้เวลาว่างกับการได้ออกไปท่องโลกกว้างนอก Cockpit ซึ่งรูทที่บินประจำแล้วรู้สึกชื่นชอบคือ “เกาะสมุย” ในวันที่ฟ้าเป็นใจ ทำให้ได้มองเห็นบรรยากาศความงดงามของวิวทะเล-หมู่เกาะจากมุมสูง นอกจากนี้ ยังเอ็นจอยกับการออกกำลังกายเพื่อฟิตร่างกายให้แข็งแรงพร้อมต่อการปฏิบัติงานอยู่เสมอ ซึ่งถึงแม้จะเป็นวันที่ไม่มีตารางบิน นักบินมะลิยังให้ความสำคัญต่อการฝึกฝนนอกเวลา (Training) ตามวงรอบในทุกๆ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี และ 3 ปี ในหัวข้อที่ทางต้นสังกัดเน้นย้ำถึงความสำคัญ อย่างเช่น การซักซ้อมสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเหตุการณ์ผิดปกติที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ในชีวิตประจำวัน
นักบินมะลิ ทิ้งท้ายถึงเรื่องราวความท้าทายในการเป็นบุคลากรด่านหน้าสำหรับอาชีพรั้วการบินว่า นอกจากหน้าที่หลักในการประสานงานช่วยเหลือพี่กัปตัน เพื่อที่จะทำการบินโดยนำพาผู้โดยสาร ไปยังจุดหมายปลายทางด้วยความปลอดภัยแล้ว หัวใจสำคัญของอาชีพ นักบินหญิง คือการที่จะต้องมีความตื่นตัวอยากเรียนรู้ และหมั่นศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่เพียงเฉพาะข้อมูลด้านเทคโนโลยีของเครื่องบินที่เราบินอยู่เท่านั้นที่เราควรอัปเดต แต่ยังรวมถึงด้านกฎระเบียบมาตรฐานสากล ก็ยังมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงจำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องแอคทีฟตัวเองอยู่เสมอ เพื่อที่จะได้ส่งมอบบริการถึงผู้โดยสารได้แบบเกิน 100% ในทุกเที่ยวบินเพราะ “Safety is the first priority” มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ถือเป็นพันธกิจหลักของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สอันดับแรก
นักบินหญิงแองจี้ ผู้ควบคุมเครื่องบินและความฝัน
เพราะลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น…สำหรับนักบินสาวหน้าหวาน แองจี้ – ณฐิตาภา พันธ์สง่า ที่เดินตามรอยเท้าคุณพ่อซึ่งประกอบอาชีพเป็นนักบินเช่นเดียวกัน ปัจจุบันนี้ นักบินแองจี้ดำรงตำแหน่งเป็นนักบินผู้ช่วย เครื่องบินแบบแอร์บัส (Airbus First Officer) ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส นักบินแองจี้ เล่าถึงแรงบันดาลใจพิเศษสู่เป้าหมายในการเป็นนักบินว่า…
“ตั้งแต่จำความได้ คุณพ่อทำหน้าที่เป็นทั้งนักบิน และหัวหน้าครอบครัวคนสำคัญที่ดูแลครอบครัวมาอย่างดีโดยเสมอมา เราได้แรงบันดาลใจและกล้าฝันที่จะเป็นนักบิน เพราะมีคุณพ่อเป็นทั้งฮีโร่และบุคคลต้นแบบ ตอนเด็กๆ คุณพ่อก็จะเป็นผู้ที่คอยให้คำแนะนำ ให้เราได้มาทำอาชีพทางด้านนี้ด้วย ซึ่งเราเองก็เล็งเห็นว่า อาชีพนักบินเป็นอาชีพที่มีความมั่นคง จึงได้ตัดสินใจเลือกเรียนเฉพาะทางนี้ในหลักสูตรด้านการบิน และเมื่อสำเร็จการศึกษา ก็ได้มีโอกาสเข้ามาในสายงานนี้อย่างเต็มตัว โดยได้สมัครเข้ามาเป็นนักบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สเป็นที่แรก ซึ่งเริ่มปฏิบัติงานที่นี่ มาตั้งแต่ช่วงก่อนโควิดปี 2561 จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลารวมกว่า 6 ปีแล้ว”
เป็นที่รู้กันว่า สภาพลม ฟ้า อากาศ เป็นปัจจัยเหนือการควบคุมอย่างเลี่ยงไม่ได้ จึงถือเป็นหนึ่งในความท้าทายของนักบิน ซึ่งมีหน้าที่รับมือต่อสถานการณ์ เช่นเดียวกันกับนักบินแองจี้ ที่ให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมก่อนปฏิบัติหน้าที่ทำการบินอยู่เสมอ โดยจะศึกษาถึงสถานการณ์ทางสภาพภูมิอากาศ และปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ ในเบื้องต้น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการวิเคราะห์การทำการบิน ให้เป็นไปอย่างราบรื่น และสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ จะต้องให้ความสำคัญต่อการคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยสากล โดยปฏิบัติตามมาตรฐานและกฎระเบียบปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด อาทิ มาตรฐานด้านการกำหนดชั่วโมงบินในแต่ละวัน การตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อป้องกันความผิดพลาดจาก Human Error จากตัวนักบินเอง เพราะถึงแม้จะมีกำหนดการบินไปยังที่หมายเดิม และเส้นทางเดิมในทุกวัน แต่สถานการณ์ต่างๆ นั้นย่อมไม่เหมือนเดิม
นักบินแองจี้ ฝากถึงรุ่นน้องเจนเนอเรชันใหม่ ที่สนใจก้าวเข้าสู่ เส้นทางอาชีพนักบิน หรือมาเป็น นักบินหญิง ว่า…
“ขอเพียงเป็นผู้ที่รู้จักมีความรับผิดชอบ ใฝ่รู้ และมีเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย หากเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจและทุ่มเท ในการเตรียมพร้อมอ่านหนังสือสอบอย่างเต็มที่แล้ว ขอให้เชื่อมั่นในตนเองว่าเราสามารถทำได้ และผู้หญิงก็ทำได้เช่นกัน เพราะอาชีพนี้มีความเสมอภาค ไม่ว่าจะนักบินหญิงหรือชาย พวกเราปฏิบัติงานทัดเทียมกันทั้งหมด ไม่มีข้อยกเว้นหรือความแตกต่างที่เป็นอุปสรรคใดๆ ให้หมั่นศึกษาหาข้อมูล และเตรียมความพร้อมให้ดี ทั้งนี้ จะต้องอาศัยทักษะด้านการปฏิบัติการเชิงเทคนิค การทำงานร่วมกับผู้อื่น และทักษะด้านภาษาเป็นสำคัญ เมื่อพร้อมแล้วก็เริ่มเลย”