เรื่องเล่า 4 มีนาคม 2567 “วันกะเทยผ่านศึก” กอบกู้เอกราช “กะเทยไทย” สำเร็จหรือไม่ “กะเทยฟิลิปปินส์” รายหนึ่งถูกหยุมหัว ผมติดมือเป็นกำ ส่วนคนอื่นก็เละเป็นรายๆ ไป เรื่องราวข้ามวันข้ามคืน จนถึงขณะนี้ TOPPIC Time เรียบเรียงมาให้ฟังกัน
เริ่มเล่ากันตั้งแต่เหตุการณ์แรก ต้นเรื่องมีอยู่ว่า…
– กลางดึก 3 มีนาคม 2567 มีกลุ่มกะเทยไทยไปเที่ยวแถวซอย สุขุมวิท 11 แล้วเจอกลุ่มแก๊งกะเทยฟิลิปปินส์ เดินเข้ามาหาเรื่องยั่วยุ ก่อนที่จะถูกตำรวจพาตัวไปเคลียร์กันที่โรงพัก จากนั้นก็แยกย้าย เรื่องราวทำเหมือนจะจบนะ…แต่ไม่จบค่ะ!!
– กะเทยไทยและกะเทยฟิลิปปินส์ ดันบังเอิญมาเจอกันที่ร้านอาหารใกล้บีทีเอสนานาอีกรอบ คราวนี้กะเทยฟิลิปปินส์ยังไม่ยอมจบจริง ตามเพื่อนมา 20 กว่าคน มารุมกะเทยไทยที่เหลือกันเพียง 4-5 คน
– ตอนแรกที่เห็นในคลิป “กะเทยฟิลิปปินส์” ยั่วยุ “กะเทยไทย” ให้โมโห เพื่อให้เปิดก่อน แต่กะเทยไทยเก็บอาการเก่งมาก ทีนี้พอเพื่อนกะเทยฟิลิปปินส์กว่า 20 คน มาถึง ก็รุมกระเทยไทยเลยจ้า พร้อมกับถ่ายคลิปไว้ด้วย
– จากนั้นได้มีการนำคลิปกะเทยไทยโดนรุม ไปโพสต์บนเฟซบุ๊ก และมีการแชร์ต่อๆ กันไป รวมถึงมีการแสดงความเห็นต่างๆ นานา ที่สามารถตบกะเทยไทยได้
– เมื่อกลุ่มพี่สาวกะเทยไทย ต่างได้เห็นคลิปที่แชร์ต่อๆ กันมา ก็รู้สึกเสียใจ โกรธ และรู้สึกเสียศักดิ์ศรีที่กะเทยไทยถูกหยามเกียรติ ทั้งที่กะเทยฟิลิปปินส์เหล่านั้นเดินทางมาหากินที่ประเทศไทย
– ช่วงค่ำของ 4 มีนาคม 2567 กะเทยไทย จากทั่วสารทิศ จึงพากันออกมารวมตัวที่ สน.ลุมพินี ซึ่งเป็น สน.ที่กระเทยไทยซึ่งถูกรุมทำร้ายเมื่อคืน จะเดินทางไปแจ้งความ
– ช่วงดึกของเมื่อคืน กะเทยจากทุกทิศทางมาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย ตำรวจทำหน้าที่สอบสวนอยู่ใน สน. มีการเรียกคู่กรณี กะเทยฟิลิปปินส์มาสอบปากคำแล้วด้วย
– ขณะที่เหตุการณ์หน้า สน.ลุมพินี คึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากจำนวนของกะเทยไทยนั่นเอง และทุกคนให้เหตุผลเดียวกันว่า มาที่นี่เพื่อมาแาดงพลัง มาเป็นกำลังใจ ให้กับกะเทยไทยที่ถูกรุม และอยากดูหน้ากะเทยฟิลิปปินส์ ที่ใส่ชุดเกาะอกสีดำ ผู้ที่ชูนิ้วกลางและหยามเกียรติกะเทยไทยในคลิปดังกล่าว และกลัวว่า…ตำรวจจะปล่อยให้แก๊งกะเทยฟิลิปปินส์เดินทางกลับประเทศไป
– ตำรวจดำเนินการสอบสวนต่อไป กะเทยไทยเฝ้ารอแน่นขนัด เต็มพื้นที่ สน. ขณะที่ตำรวจเล็งแล้วว่า สถานการณ์อาจจะไม่สู้ดี จึงออกมาเจรจาขอร้องให้กลุ่มกะเทยไทยเดินทางกลับบ้าน เพื่อขอปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่และสะดวก ซึ่งพร้อมจะทำด้วยความเป็นธรรม
– เวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ กะเทยไทยได้แยกตัวไปบ้าง ขณะเดียวกันก็มีส่วนหนึ่งไปเฝ้ากะเทยฟิลิปปินส์ ณ โรงแรมย่านสุขุมวิทต่อ และกะเทยไทยที่อยากกอบกู้เอกราช ก็เริ่มไปสมทบที่นั่นมากขึ้น มากขึ้น เรื่อยๆ จนปิดถนนหน้าโรงแรมไปเลย
– จู่ๆ กะเทยฟิลิปปินส์หิวข้าว จึงสั่งอาหารผ่านแกร๊ป เมื่ออาหารมาส่ง ก็ลงมารับจ้า และแล้วทุกอย่างก็เหมือนจะปกติ แต่พอเดินไปกดลิฟท์ ก็ดันทำท่าเต้นยั่วยุเย้ยหยัน พี่กะเทยไทยตาดีเห็นเข้า ไม่รอช้า เปิดประตูเข้าไป และลิฟต์เจ้ากรรม ก็ดันมาช้าเสียเหลือเกิน โดนสวบจนเละเป็นโจ๊กผสมต้มเลือดหมู สรุปกล่องข้าวกระเด็นตกอยู่หน้าโรงแรม ทีนี้ทั้งหิว ทั้งเจ็บ
– ตำรวจ 2 นายก็เดินทางมาตรึงกำลัง อยู่ภายในโรงแรม ท่ามกลางกะเทยไทยนับร้อย ที่เฝ้าปักหลักไม่ลดละ ลืมความหิวความเหนื่อยกันไปเลย ระหว่างนั้นก็มีกะเทยไทยน้ำใจงาม ขนน้ำดื่มมาให้กะเทยทั้งหลายด้วย
– ความสามัคคีก็พลังของแทร่ ตีแล้ว ตีเล่า ไม่หลบ ไม่หนี ไม่กลับกันเลย ตำรวจก็เริ่มเดินทางมามากขึ้น เนื่องจากจำเป็นต้องมีเชิญกะเทยฟิลิปปินส์ที่เหลืออยู่ในโรงแรม ไปให้ปากคำที่ สน.
– เวลาต่อมา ก็มีการร้องขอให้ กะเทยไทย เดินทางกลับเช่นเคย เนื่องจากต้องการนำพากะเทยฟิลิปปินส์ลงมาจากห้องพัก และกลัวเกรงว่าไม่ปลอดภัย อย่างที่บอก การเดินทางมารวมตัวกันในครั้งนี้ ไม่ได้มีการร้องขอ หรือบังคับกันมา ทุกคนมาด้วยใจล้วนๆ ฉะนั้นมีหรือ?..ที่ทุกคนจะยอมกลับ ที่สำคัญ ณ ที่แห่งนั้นไม่มีใครเป็นผู้นำ ไม่มีใครหัวหน้าใคร ทุกคนเท่าเทียมและสามัคคีกันมากๆ ยอมใจทุกคนที่อยากกอบกู้เอกราชให้กะเทยไทย
– เวลาล่วงเลย ไม่มีใครกลับเลยจ้า กลุ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายตำรวจออกมาบอกว่า ขอนำตัวกลุ่ม กะเทยฟิลิปปินส์ 3 คนขึ้นรถไป สน. โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ ในเครื่องแบบ อาสาสมัครผู้ชาย พี่วินมอไซต์แถวนั้น มากันพื้นที่ทางเดินไปสู่ประตูรถของตำรวจ
– พี่กะเทยไทยรอกันอย่างใจจดจ่อ ไม่มาสักที ไม่มาสักที สุดท้ายตำรวจพาออกมาขึ้นรถจนได้จ้า แต่แล้วเหตุการณ์กอบกู้เอกราชก็เกิดขึ้นจริง เริ่มมีการปาขวดเข้าไปในกลุ่มกลางทางเดิน โดนใครมั่งไม่รู้ ที่แน่ๆ ตำรวจแล้ว 1 กะเทยไทยแล้ว 2 ก็มันเบียดเสียดกันขนาดนั้น
– แทนที่จะลงมาปกติ ดันเอาผ้าปิดหน้าคลุมตามามิดชิด ปิดบังอำพรางสุดฤทธิ์ สุดท้ายโดยกระชากไปทางโน้นทีทางนี้ที เพราะเป้าหมายชัดเจนเหลือเกิน พี่กะเทยไทยนั้นเหลืออดจริงๆ ประเคนมือไม้ หยุมหัว ผมติดมือเป็นกำ
– หน้าตาปูดโปน ตาปิด ฝ่าจะนำขึ้นกระบะท้ายรถตำรวจได้ โดนสวบอยู่นานโขนะ แม้ไม่กี่นาทีแต่ก็ทำให้เละได้อีกเช่นเคย
– ตำรวจพา 3 กะเทยฟิลิปปินส์ไป สน. พร้อมกับเอาหนุ่มกล้ามโตคนไทยไปด้วย โดยนำขึ้นกระบะ เพราะออกสเต๊ปมากไปหน่อย
– เมื่อนั้นก็สาแก่ใจแม่อีช้อยกันระดับหนึ่งแล้ว ทุกอย่างก็เริ่มคลี่คลาย สลายตัวได้ระดับหนึ่ง แต่กะเทยไทยบางคนก็ยังคงไปติดตามสถานการณ์ต่อที่ สน.
– ณ สน.ลุมพินี ยามใกล้รุ่ง ทุกอย่างเปลี๋ยนไป ตำรวจกันพื้นที่แล้วจ้า เอาที่กั้นมาปิดด้านหน้า ไม่ให้ใครเข้า สน. หรือรวมตัวกันหน้า สน.แล้วจ้า
– เช้ามา ผู้กำกับ สน.ลุมพินี ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังสอบปากคำทุกคนอยู่ เรื่องการเดินทางเข้ามาประเทศไทย ซึ่งทราบว่า มาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว และกำลังสืบสวนว่า เข้ามาถูกต้องหรือไม่ เพื่อดำเนินคดีต่อไปอย่างไร
– ด้าน กะเทยฟิลิปปินส์ อัดคลิปร้องไห้ ขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ และสถานทูตฟิลิปปินส์ในไทย เผยเพื่อนร่วมชาติถูกทำร้าย บอกไทย-ฟิลิปปินส์ เป็นเพื่อนกัน ไม่ใช่สงคราม
– ผู้คนตื่นนอน กระแส “วันกะเทยไทยผ่านศึก” ระอุ แฮชแท็ก # สุขุมวิท11 ติดเทรนด์ จน “พชร์ อานนท์” ผู้กำกับหนังชื่อดัง ประกาศหาคนร่วมเล่นหนังด้วย โดยระบุว่า…
– “ลงชื่อพร้อมเบอร์โทร อยากได้ตัวแรงๆหน่อย555 เดียวไม่เหมือนจริง ตำรวจจริงไม่เอานะ เดียวเอาตำรวจเอ็กต้า กลัวเหมือนกันจ๊ะ ด่วนเลยนะเดียวไม่ทันหนังเข้าฉาย 14 มีนาคมนี้”
– หลังจากโพสต์ไป 1 ชม. “พชร์” ก็โพสต์อีกว่า… “หานักแสดงไม่ได้แล้ว มีคนบอกว่า นักแสดงอยู่โรงพักลุมพินีกันหมดแล้ว ทำยังไงดี พูดสิ!!”
– ขณะที่ “แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร” โพสต์ว่า… “สยามเมืองยิ้ม = เข้ามาอยู่แล้วควรทำตัวให้น่ารักนะคะ ไม่ใช่ทำตัวกร่าง ตั้งแต่ฝรั่งภูเก็ตถึงกะเทยฟิลิปปินส์ นี่คือบทเรียน จบ”
– และก่อนหน้านี้ก็โพสต์ว่า… “กะเทยนี่รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่”
– ด้านแม่ไม้มวยไทย “น้องตุ้ม ปริญญา เจริญผล” อดีตนักมวยไทย ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์นี้ว่า…
”ฉันละอยากจะฝากแม่ไม้มวยไทยให้กลับไปฟิลิปปินส์ แล้วจะรู้ว่ากะเทยไทยของแท้ ที่นี่ประเทศไทย กะเทยไทย มวยไทย ลูกๆ เข้าค่ายแม่ด่วนๆ แม่จะสอนมวยให้”
– และล่าสุดได้มีการร้องขอมา ให้ช่วยกันสกัดแท็กซี่ คันที่กะเทยฟิลิปปินส์นั่ง เพราะทราบว่า จะเดินทางไปสุวรรณภูมิเพื่อออกนอกประเทศ โดยมีการระบุว่า ไม่ได้ไปแสดงตนที่ สน.ลุมพินีแต่อย่างใด
ติดตามกันต่อไป วันกะเทยผ่านศึก จะเป็นอย่างไรต่อไป.