วิธีเลือก SPF-PA ใน 'ครีมกันแดด' ลงลึกทา 'กันแดด' ยังไงให้ได้ผล!

ครีมกันแดด ต้องเข้าแล้วแหล่ะ ร้อนขนาดนี้ หา ผลิตภัณฑ์กันแดด มาใช้กันเถอะ ท่ามกลางสภาพอากาศหิมะละลาย จนเนื้อเยื่อภายในตับไตจะละลายตามไปด้วย แล้วแบบนี้ผิวหนังของเราจะทนไหวเหรอ?

“รังสีอัลตราไวโอเลต” หรือ “รังสี UV” ที่มีอยู่ในแสงแดดนั้นอันตรายกว่าที่คิด เพราะหากเรารับรังสี UV ในเวลาที่นานเกินกว่าที่ผิวเราจะทนไหว จะทำให้ผิวนั้นแดง และมีอาการแสบไหม้ แถมสีผิวจะคล้ำดำแดด จนผิวลอกจนสุดท้ายผิวหน้าอาจกลายเป็นฝ้า กระ ที่รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายด้วย นอกจากนี้หากเราโดน รังสี UV นานเกินไป และเป็นประจำทุกวัน ก็สุ่มเสี่ยงและอาจทำให้เกิดเป็นมะเร็งผิวหนังไปเลย

ช่วงหน้าร้อนแบบนี้แล้ว TOPPIC Time เลยอยากชวนทุกคนมาเลือก ครีมกันแดด หรือ ผลิตภัณฑ์กันแดด เพื่อปกป้องผิวของเราไปพร้อมๆ กัน เพื่อป้องกันอันตรายจากแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีเลือก ‘ครีมกันแดด’ หรือ ‘ผลิตภัณฑ์กันแดด’ มาใช้หน้าร้อน

1. รู้จัก “SPF” หรือ Sun Protection Factor ของ ผลิตภัณฑ์กันแดด เป็นค่าที่แสดงถึงความสามารถของผลิตภัณฑ์ ในการป้องกันการไหม้แดงของผิวหนัง ที่เกิดจากการสัมผัสรังสียูวีบี (UVB) สำหรับบุคคลทั่วไปที่ใช้ชีวิตประจำวันปกติ มิได้ทำงานกลางแจ้งแดดจ้า สามารถใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF15 แต่หากทำงานกลางแจ้ง หรือเล่นกีฬากลางแจ้ง ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF30 ขึ้นไป

2. “PA” หรือ Protection grade of UVA แสดงถึงค่าความสามารถของผลิตภัณฑ์ ในการป้องกันอาการดำคล้ำของผิวหนัง ที่เกิดจากการสัมผัสรังสียูวีเอ (UVA) โดยดูจากเครื่องหมาย “+” ซึ่งมีค่าตั้งแต่ PA+ ไปจนถึง PA++++ ซึ่งแสดงถึงระดับประสิทธิภาพจากน้อยไปหามาก

3. เมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง

– สวมเสื้อผ้าให้มิดชิด

– สวมหมวกปีกกว้าง

– สวมแว่นกันแดดด้วย เพราะรังสี UV นอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งผิวหนังแล้วยังเป็นสาเหตุของโรคต้อกระจกได้ด้วย

4. เมื่อต้องทำกิจกรรมทางน้ำหรือกิจกรรมที่ต้องโดนน้ำ

– เลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่กันน้ำ โดยดูจากคำว่า Water Resistant บนฉลากผลิตภัณฑ์

ดังนั้น ก่อนที่สาวๆ จะเลือกซื้อ ครีมกันแดด หรือ ผลิตภัณฑ์กันแดด ทุกครั้ง ต้องเลือกให้ตรงกับวัตถุประสงค์การใช้นะจ้ะ และอ่านแนะนำให้อ่านฉลากอย่างเคร่งครัด