เคาะไทม์ไลน์เงินดิจิทัลวอลเล็ตชัด ไตรมาส 3 -4 ปีนี้ได้ ลงทะเบียนร้านค้า-ประชาชนรับเงิน เชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโต 1.2-1.6 % รับสิทธิ์ 50 ล้านคน ๆ ละ 1 หมื่นบาท แจงแหล่งที่มางบ 5 แสนล้าน ย้ำมีเงินเดือนเกิน 70,000 บาท หรือเงินเก็บเกิน 5 แสนบาท ไม่ได้รับสิทธิ์!!
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ระบุ รัฐบาลได้ใช้ความพยายามสูงสุดในการก้าวผ่านอุปสรรค และสามารถทำได้ตามที่เคยประกาศไว้ในโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต โดยยึดตามกฎหมาย อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด ประชาชนและร้านค้าจะสามารถลงทะเบียนยืนยันตัวตนได้ ในไตรมาส 3 และเงินจะส่งตรงถึงพี่น้องประชาชนในไตรมาส 4 ของปีนี้
ดิจิทัลวอลเล็ตส่งเงินใส่กระเป๋า 50 ล้านคน
โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะให้สิทธิ์กับประชาชนจำนวน 50 ล้านคน ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต วงเงิน 500,000 ล้านบาท และกำหนดให้ใช้จ่ายในร้านค้าที่กำหนด จะเป็นการเติมเงินสู่ฐานราก ส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยร้อยละ 1.2 – 1.6 โดยดิจิทัลวอลเล็ต จะดำเนินการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ รอบคอบ และระมัดระวัง
เผยแหล่งที่มาของเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต
โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการจัดการงบประมาณในปี 67 – 68 ควบคู่กันไป รวมกัน 500,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
- งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท (ขยายกรอบงบฯ เรียบร้อยแล้ว)
- การดำเนินดิจิทัลวอลเล็ต จากหน่วยงานของรัฐ 172,300 ล้านบาท (ใช้มาตรา 28 โดยให้ ธกส. ดูแลประชาชนในเป็นกลุ่มเกษตรกร จำนวน 11 ล้านคน)
- การดำเนินดิจิทัลวอลเล็ต จากการบริหารจัดการงบประมาณปี 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท
เปิดเงื่อนไขเวลา ดิจิทัลวอลเล็ต
-ไตรมาส 3 จะมีการลงทะเบียนร้านค้า และลงทะเบียนประชาชน ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
-ไตรมาส 4 ของปีนี้ จะมีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ถึงมือประชาชนทุกคน
เงื่อนไข คุณสมบัติ ผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป
- มีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาท/ปี (70,000 บาท/เดือน)
- เงินฝากรวมทุกบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท
- กรณีรายได้ไม่เกิน 70,000 บาทต่อเดือน แต่เงินฝากเกิน 500,000 บาท จะไม่ได้รับสิทธิ
- กรณีรายได้เกิน 70,000 บาทต่อเดือน แต่เงินฝากน้อยกว่า 500,000 บาท จะไม่ได้รับสิทธิ
เงื่อนไขการใช้จ่าย ดิจิทัลวอลเล็ต
กลุ่มที่ 1 คือ การใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้า โดยดิจิทัลวอลเล็ตใช้จ่ายเชิงพื้นที่ในระดับอำเภอ (878 อำเภอ) กำหนดให้ใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็กตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเท่านั้น (มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากในรอบแรกรัฐบาลต้องการให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจไปถึงฐานราก)
กลุ่มที่ 2 คือ การใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า ดิจิทัลวอลเล็ต จะไม่มีการกำหนดเงื่อนไขในเชิงพื้นที่และขนาดของร้านค้าที่มีการแลกเปลี่ยน ทุกประเภทสามารถใช้ได้ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตได้
สินค้าที่ยกเว้น ไม่อยู่ในเงื่อนไขดิจิทัลวอลเล็ต
– สินค้าอบายมุข
– น้ำมัน
– บริการ
– ออนไลน์
– สิ่งที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดขึ้น ซึ่งการใช้จ่ายจะใช้ผ่านระบบที่พัฒนาโดยภาครัฐ
ร้านค้าที่จะถอนเงินดิจิทัลวอลเล็ต ป้องกันทุจริต
ต้องเป็นร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษีเท่านั้น ใน 3 ประเภท คือ
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ภาษีเงินได้นิติบุคคล
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (เฉพาะผู้มีเงินได้ตามมาตรา 40 (8))
เงื่อนไขการถอนเงินสดดิจิทัลวอลเล็ต ร้านค้าไม่สามรถถอนเงินได้ทันทีหลังประชาชนใช้จ่าย แต่จะถอนเงินสดได้ต่อเมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่รอบที่ 2 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงทุจริตของโครงการฯ