หลายคนคงเคยปวดหลังกันใช่มั้ย? ปวดหลังเป็นอาการยอดฮิตของคนทำงาน หลายคนก็อาจจะคิดว่าเป็นแค่เมื่อยล้าธรรมดา เดี๋ยวก็หาย แต่รู้หรือเปล่าว่าอาการปวดหลังเรื้อรัง โดยเฉพาะที่ปวดแล้วร้าวลงขา ร่วมกับอาการชาและกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายอย่าง “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” หากไม่รีบรักษาอาจลุกลามกลายเป็นอัมพาตได้
วันนี้ TOPPIC Time จะพาไปรู้จัก โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และวิธีป้องกันเจ้าโรคนี้กัน โดยข้อมูลจากนายแพทย์เอกพล ลาภอำนวยผล ศัลยแพทย์กระดูกและข้อเฉพาะทางด้านโรคกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมประเภทหนึ่ง โดยเกิดจากการที่หมอนรองกระดูกถูกทำลายเสียหายจนไปกดทับเส้นประสาท ซึ่งเป็นผลจากการใช้งานกระดูกสันหลังอย่างหนักเป็นระยะเวลานานต่อเนื่อง เช่น การก้มหลังยกของหนัก อุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนต่อกระดูกสันหลังโดยตรงและความเสื่อมตามอายุ
“หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” สามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนตามแนวกระดูกสันหลัง ตั้งแต่คอไปจนถึงหลังส่วนล่าง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหลัง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อหลังบริเวณกลางหลังหรือเอวด้านล่าง อาจมีอาการเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง โดยอาการจะเด่นชัดขึ้นเมื่อไอ จาม หรือนั่งงอตัว, ปวดร้าวลงไปถึงขา ในกรณีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง อาจมีอาการชาและกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วย”
ความรุนแรงของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
1. ระยะเริ่มต้น เมื่อหมอนรองกระดูกสันหลังเริ่มเสื่อมสภาพ ในขั้นแรกจะทำให้มีอาการปวดหลังแบบเป็น ๆ หาย ๆ จากนั้นระดับความเจ็บปวดจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยอาการจะเป็นมากกว่า 2 สัปดาห์
2. ระยะปานกลาง เมื่อหมอนรองกระดูกเริ่มเคลื่อนและปลิ้นออกมา ทำให้เกิดอาการปวดร้าวหรือปวดหลังร้าวลงขา จากนั้นจะเริ่มลามไปที่ขาหรือเท้า หรือบางรายอาจมีอาการชาร่วมด้วย
3. ระยะรุนแรง เมื่อการกดทับเส้นประสาทรุนแรงขึ้น อาการปวด ชา และอ่อนแรงจะมากขึ้น จนเส้นประสาทเกิดการบาดเจ็บ และเสี่ยงต่อการเป็นอัมพาตได้
การตรวจวินิจฉัยโรค หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แพทย์จะเริ่มด้วยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) หรือการตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำมากขึ้น เพราะการทำ MRI จะเห็นโครงสร้างของหมอนรองกระดูกสันหลังและเส้นประสาทได้ชัดเจน ทำให้สามารถบอกได้ว่ามีการกดทับเส้นประสาทที่ตำแหน่งใดมากน้อยแค่ไหน เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป
วิธีการรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
การรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทสามารถรักษาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค
1. ยา ช่วยรักษาอาการหมอนรองกระดูกทับเส้น มีทั้งยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ และการฉีดสเตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบและปวด
2. กายภาพบำบัด จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวและลดอาการปวดได้ รวมถึงยังช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงมากขึ้น แต่ควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์ นักกายภาพบำบัด และทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การกายภาพบำบัดเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
3. การผ่าตัด หากรักษาด้วยวิธีข้างต้นแล้วยังไม่ดีขึ้น แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัด โดยปัจจุบันมีเทคนิค การผ่าตัดกระดูกสันหลังด้วยกล้อง Endoscope โดยแพทย์จะสอดกล้องใส่เข้าไปยังเส้นประสาทส่วนที่ถูกกดทับยังตำแหน่งที่ต้องการโดยตรง เพื่อตัดกล้ามเนื้อออกน้อยที่สุด และไม่ต้องตัดเลาะ กล้ามเนื้อส่วนที่ดีออก ซึ่งการทำวิธีนี้ จะช่วยให้ผู้ป่วยลดการเสียเลือดและการติดเชื้อ ฟื้นตัวได้ไวยิ่งขึ้น เนื่องจากแผลผ่าตัดมีขนาดเล็กประมาณ 0.8 เซนติเมตร นอกจากนี้ยังมี Intraoperative Neuromonitoring เทคโนโลยีช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะผ่าตัด ที่จะตรวจสอบการทำงานของเส้นประสาทแบบ Real Time และช่วยลดความเสี่ยงอัมพฤกษ์อัมพาตหลังผ่าตัดได้
วิธีป้องกันการเกิดโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
ทั้งนี้ โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท สามารถป้องกันได้โดยการออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และชะลอความเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลัง การควบคุมน้ำหนัก งดสูบบุหรี่ ปรับท่านั่งและนอนให้ถูกต้องเพื่อลดแรงกดทับที่กระดูกสันหลัง ตลอดจนระมัดระวังอุบัติเหตุที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระดูกสันหลัง