ถึงเวลาผจญภัย “ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน” ในช่วง มิ.ย. – ส.ค. มี 8 ประเทศในยุโรป นอร์เวย์ได้รับขนานนามว่าเป็น ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่สมบูรณ์ที่สุด พร้อมมีบันทึกในประวัติศาสตร์ รัชกาลที่ 5 เสด็จฯ ประพาสมาแล้ว!!
นักเดินทางขาลุยต้องรู้!! หรือนักท่องเที่ยวสาย Adventure ต้องไม่พลาดในช่วงเวลานี้ ที่มีปีละครั้ง หากยังนึกไม่ออก หรือจำไม่ได้ TOPPIC Time ขอนำมาย้ำเตือน เพื่อกันลืม “ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน” อีกความมหัศจรรย์ในโลกใบนี้ โดยหลาย ๆ พื้นที่เริ่มเกิดปรากฎการณ์ ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน แล้ว
8 ประเทศ ‘ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน’
– ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน จะเกิดเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนราว เดือน มิ.ย. – ส.ค. ของทุกปี
– เกิดในดินแดนที่อยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล
– ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน ประกอบด้วยพื้นที่ใน นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ รัสเซีย สหรัฐฯ แคนาดา กรีนแลนด์ และไอซ์แลนด์
– จะเกิดปราฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่า “ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน (Midnight Sun)”
ปริศนาแห่งดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน
เนื่องจากดวงอาทิตย์จะโคจรเป็นทางโค้งอยู่เหนือขอบฟ้า แต่จะไม่ลับขอบฟ้าไปเสียทีเดียว ก่อนที่จะโคจรกลับสูงขึ้นไปอีกครั้งในตอนเที่ยงคืน ทำให้มีแสงสว่างสาดเป็นทาง คล้ายแสงอาทิตย์ในยามเช้าหรือยามเย็น ในช่วงฤดูร้อนนี้ พื้นที่บริเวณขั้วโลกเหนือ สามารถสังเกตเห็นดวงอาทิตย์ ส่องสว่างอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงติดต่อกันเป็นเวลานับเดือน
บันทึกประวัติศาสตร์ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน
ตามที่เคยมีการบันทึกว่าเกิดปรากฏการณ์ ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน ยาวนานที่สุด คือ ทางปลายเหนือสุดของฟินแลนด์ ดวงอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเป็นเวลานานถึง 73 วัน
ประเทศที่ได้รับสมญานามว่าเป็น “ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน” คือ ประเทศนอร์เวย์ มีพื้นที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่เหมาะเพื่อชมดวงอาทิตย์ในเวลาเที่ยงคืน ได้ดีที่สุด ประกอบด้วยพื้นที่ทางตอนเหนือของนอร์เวย์ 2 แห่ง ได้แก่
- เมืองทรอมโซ (Tromsø) สังเกตได้ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. – 27 ก.ค.
- หมู่เกาะสฟาลบาร์ด (Svalbard) สังเกตได้ตั้งแต่ วันที่ 19 เม.ย. – 23 ส.ค.
รัชกาลที่ 5 ทอดพระเนตรดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืนเป็นกลุ่มแรก
มีบันทึกในประวัติศาสตร์ว่า คนไทยกลุ่มแรกที่ได้ชมปรากฏการณ์ ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) และคณะ เมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรป ครั้งที่ 2 ในปี 2450 (ค.ศ. 1907) ระหว่างที่พระองค์ได้เสด็จฯ ด้วยเรือพระที่นั่งไปยังแหลมเหนือ หรือ North Cape (Nordkapp) ประเทศนอร์เวย์ ในคืนวันที่ 10 ก.ค. โดยในพระราชนิพนธ์ไกลบ้าน ได้ระบุหลักฐานไว้ว่า
“ที่ซึ่งได้ถ่ายรูปพระอาทิตย์เวลาสองยามนี้เรียกว่า ตำบลเกาะดารเออ ละติจูด 69 ดีกรี 5 มินิตเหนือ ลองจิจูด 17 ดีกรี 35 มินิตตะวันออก รู้สึกปลื้มใจเต็มที คล้ายกับเห็นสุริยุปราคา น่าประโคมแลแจกเงิน” โดย พระองค์ได้ทรงจารึกพระปรมาภิไธย จปร. และปี ค.ศ. 1907 ไว้เป็นที่ระลึกบนก้อนหินด้วย
ปักหมุดพิกัดน่าเที่ยวดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน
นอร์เวย์ : เมืองหลวงคือกรุงออสโล ศูนย์รวมความเจริญ สถาปัตยกรรม ทะเลสาบ ป่าเขา จุดชมดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน นอร์ทเคป (ทางตอนเหนือ) แสงอาทิตย์ส่องสว่างตลอด 24 ชั่วโมง ชมได้ในช่วงกลาง พ.ค. ถึงปลาย ก.ค.
สวีเดน : กรุงสตอกโฮล์มเป็นนครหลวงที่งดงาม ได้รับการขนาบนามว่า ความงามบนผิวน้ำ หรือ ราชินีแห่งทะเลบอลติก และเที่ยวชมสะพาน Oresund สะพานยาวที่สุดในยุโรป เชื่อมเดนมาร์กและสวีเดน
รัสเซีย : มีการจัดเทศกาลไวท์ไนท์ (White Night) ในเมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์กที่ยิ่งใหญ่ สวยงามกับบรรยากาศชมเมือง และดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน ที่สุดแสนจะโรแมนติก
ไขข้อกังขาการท่องเที่ยวในดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน
– ส่วนข้อสงสัยของนักท่องเที่ยวขาใหม่ที่ว่าเมื่อมีแสงสว่างตลอด 24 ชั่วโมง จะไม่ร้อนแย่เลยเหรอ?? มีผู้ที่เคยไปใช้ชีวิตที่นั่น เล่าว่าอากาศหน้าร้อนที่นั้นประมาณ 23 -25 องศาฯ ส่วนฤดูหนาวบางที่ถึง -30 องศาฯ ก็มี
– ส่วนการพักผ่อน (นอนหลับ) ในช่วงที่มีแสงสว่างตลอดนั้น ภายในที่พักอาศัยจะใช้ผ้าม่านช่วงปิดบังแสงสว่าง แต่บางคนที่เลือกไปเที่ยว หรือขาใหม่ บอกว่า จะรู้สึกงง ๆ กับช่วงเวลา เป็นปัญหาสำหรับคนที่หลับยากอยู่เช่นกัน แต่ที่น่าสงสารคือ บรรดาสัตว์ในดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน โดยเฉพาะสัตว์ปา… ที่อาจจะหลงผิดเวลา!!.