เรื่องราวอันน่าเศร้าของ “น้องอิคคิว” เด็กชายผู้ประสบเหตุสำลักลูกชิ้นปลาจนสมองขาดออกซิเจน กลายเป็นเจ้าชายนิทราตั้งแต่ปี 2556 เด็กน้อยนอนป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลยนานกว่า 10 ปี ซึ่งมีครอบครัวนำโดยคุณพ่อที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดไม่เคยห่าง
ล่าสุด “น้องอิคคิว” เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเศร้าโศกให้กับครอบครัวและผู้ติดตามเป็นอันมาก เพราะทุกคนมีความหวังในใจเสมอว่าสักวันหนึ่ง “น้องอิคคิว” จะกลับมาใช้ชีวิตเฉกเช่นเด็กคนอื่นๆ
โดยจุดเปลี่ยนชีวิต “น้องอิคคิว” เด็กชายผู้เป็นที่รักของบ้านหลังนี้ คือ …
เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2556 “น้องอิคคิว” เกิดสำลักลูกชิ้นปลาจนสมองขาดออกซิเจน ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่แล้ว 2 วันหลังฟื้นขึ้นมา เด็กชายกลายเป็นเจ้าชายนิทรา โดยมีอาการเกร็ง ไม่ตอบสนองสิ่งใด เพราะสมองขาดออกซิเจนเป็นเวลานาน ทำให้ต้องรับกลับมาดูแลที่บ้าน
ต่อมาในวันที่ 19 มิถุนายน 2567 “น้องอิคคิว” ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลด้วยอาการเลือดออกในกระเพาะอาหาร รักษาตัวจนถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 แพทย์ได้แจ้งข่าวร้ายอาการ “น้องอิคคิว” อยู่ในขั้นวิกฤติ ครอบครัวจึงตัดสินใจยุติการรักษา วันที่ 6 กรกฎาคม 2567 แพทย์ผู้รักษาถอดเครื่องช่วยหายใจ จนวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 น้องอิคคิว เสียชีวิตลงอย่างสงบ
สิ่งที่สร้างความประทับใจแก่คนที่ติดตาม “น้องอิคคิว” ก็คือ แม้เด็กน้อยจะกลายเป็นเจ้าชายนิทรา แต่ครอบครัวก็ดูแลอย่างใกล้ชิด คุณพ่อของน้องอิคคิวจะคอยอัพเดตเรื่องราวและไลฟ์สดให้แฟนเพจได้ติดตามเสมอๆ น้องอิคคิว จึงเสมือนสร้างกำลังใจ เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย ถึงการต่อสู้เพื่อมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้
ผู้คนมากมายต่างแสดงความเสียใจและไว้อาลัยต่อการจากไปของ “น้องอิคคิว” ด้าน คุณพ่อของน้องอิคคิว ได้โพสต์คลิปวิดีโอรวมภาพและคลิปสั้นๆ ของน้องให้แฟนเพจได้ชื่นชมความงดงามของเด็กชายตัวน้อย ท่ามกลางชาวโซเชียลที่ต่างส่งกำลังใจให้กับครอบครัวมหาศาล
เป็นเวลาร่วม 11 ปี บนเส้นทางแห่งความทุกข์ทรมาน ของ “น้องอิคคิว” ซึ่งสุดท้ายจบลงด้วยการพลัดพรากจากกันไป แต่แม้ตัวจะจากไปแต่ใจยังคงคิดถึงตลอดกาล
“ความตายไม่ใช่เรื่องที่ต้องหวาดกลัว … แต่การมีชีวิตอยู่ต่างหากที่เราต้องกลัว กลัวคนที่รักจากไป กลัวการพลัดพราก เพราะฉะนั้นเราจึงต้องคอยระมัดระวังตัวเอง รวมถึงคนรอบข้างอยู่เสมอ”
ทีมข่าว TOPPIC Time ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวมา ณ โอกาสนี้ด้วย.
ขอบคุณภาพ : น้องอิคคิว