มือถือ หรือเจ้าโทรศัพท์มือถือ ได้กลายเป็นแหล่งให้ผู้คนได้ค้นหา พิจารณา และตัดสินใจซื้อสินค้าในที่เดียว และพฤติกรรมเช่นนี้จะพบได้มากขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุด ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ และเส้นทางการซื้อสินค้าอาจเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบเพียงครั้งเดียวภายในช่วงเวลาเดียวกัน
ผู้บริโภคชาวไทยส่วนมากใช้งานโทรศัพท์มือถือเป็นหลักอยู่แล้ว
- 97 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตชาวไทยเป็นผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน
- 84 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าโทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากที่สุด
- ผู้บริโภคชาวไทยใช้งานโทรศัพท์มือถือโดยเฉลี่ย 4.53 ชั่วโมงต่อวัน
- ผู้บริโภคชาวไทยใช้งานโซเชียลมีเดียโดยเฉลี่ย 3.06 ชั่วโมงต่อวัน
สำหรับนักช้อปชาวไทยช่วงเทศกาลแล้ว การค้นหาสินค้าจะเกิดขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ซึ่งช่วยให้พวกเขาได้รับข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- ในช่วงเทศกาลที่ผ่านมา คนไทยจำนวน 2 ใน 5 คนเป็นนักช้อปที่ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์หลัก โดย 60 เปอร์เซ็นต์ ของคนเหล่านั้นเป็นคนกลุ่มมิลเลนเนียล
- 42 เปอร์เซ็นต์ ของนักช้อปช่วงเทศกาลชาวไทยกล่าวว่า ถ้าไม่ใช่เพราะการใช้งานโทรศัพท์มือถือ พวกเขาก็คงไม่สามารถช้อปปิ้งในช่วงเทศกาลอย่างที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ
- จำนวน 2 ใน 3 คนคิดว่าการช้อปปิ้งช่วงเทศกาลเป็นเรื่องง่ายขึ้น
- 55 เปอร์เซ็นต์ เห็นด้วยว่า พวกเขาใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อการช้อปปิ้งในช่วงเทศกาลเพราะสะดวกกว่าการเดินทางไปช้อปปิ้งที่หน้าร้าน
- จำนวน 2 ใน 3 คนของนักช้อปช่วงเทศกาลเห็นด้วยว่า โทรศัพท์มือถือช่วยพวกเขาในการตัดสินใจซื้อสินค้าในช่วงเทศกาล เพราะได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนชัดเจนมากขึ้น
- 44 เปอร์เซ็นต์ ของกลุ่มคนที่เห็นด้วยว่าพวกเขามีพฤติกรรมการช้อปปิ้งใหม่ๆ ในช่วงเทศกาล ระบุว่าพวกเขาเปลี่ยนมาช้อปปิ้งผ่านทางโทรศัพท์มือถือ
- 72 เปอร์เซ็นต์ ของนักช้อปชาวไทยที่ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์หลักกล่าวว่า พวกเขาสนใจเป็นอย่างยิ่งในการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ แล้วจึงค่อยไปรับสินค้าที่หน้าร้าน
- นักช้อปช่วงเทศกาลกล่าวว่า Facebook และ Instagram มีผลต่อพวกเขาสำหรับการช้อปปิ้งในช่วงเทศกาล 91 และ 70 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
ด้วยความกระตือรือร้น มีความเป็นผู้ประกอบการ และผลักดันตัวเอง ทำให้คนไทยกลายเป็นผู้นำของโลกในด้านโซเชียลคอมเมิร์ซและนวัตกรรม โดยประเทศไทยเป็นตลาดโซเชียลคอมเมิร์ซที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีลักษณะที่สำคัญต่างๆ ดังนี้
- 67 เปอร์เซ็นต์ ซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ในเดือนที่ผ่านมา
- 52 เปอร์เซ็นต์ พิจารณาโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางอันดับแรกในการค้นหาแบรนด์และผลิตภัณฑ์ต่างๆ
- 51 เปอร์เซ็นต์ ของนักช้อปออนไลน์เคยซื้อสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียโดยตรง
- 44 เปอร์เซ็นต์ ใช้บริการการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือในเดือนที่ผ่านมา
ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทยกำลังเติบโตบน Facebook และหลายธุรกิจกำลังเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลและสร้างประโยชน์จากการใช้งานเครื่องมือและทรัพยากรต่างๆ บน Facebook เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจทั้งหมด ตั้งแต่การค้นหาสินค้า การสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้า ไปจนถึงการชำระเงิน
- ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทยบน Facebook จำนวน 4 ใน 5 ราย เริ่มต้นก่อตั้งธุรกิจของพวกเขาจาก Facebook
- 87 เปอร์เซ็นต์ กล่าวว่าสร้างธุรกิจให้เติบโตได้จากการใช้งาน Facebook
- 73 เปอร์เซ็นต์ กล่าวว่าธุรกิจของพวกเขาแข็งแกร่งมากขึ้นในปัจจุบันเพราะ Facebook
- 93 เปอร์เซ็นต์ เห็นด้วยว่าแพลตฟอร์ม Facebook ช่วยให้พวกเขาสามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ได้สำเร็จ ในขณะที่ 89 เปอร์เซ็นต์ กล่าวว่า Facebook ช่วยพวกเขาในการติดต่อกับลูกค้า
- 83 เปอร์เซ็นต์ เห็นด้วยว่า Facebook ช่วยสร้างโอกาสเชิงเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อชุมชนท้องถิ่นของพวกเขา
Facebook ในประเทศไทย
- มีผู้ใช้งาน Facebook มากกว่า 52 ล้านคนต่อเดือน
- มีผู้ใช้งานที่เข้า Facebook ผ่านโทรศัพท์มือถือมากกว่า 51 ล้านคนต่อเดือน
- 98 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนผู้ใช้งาน Facebook ต่อเดือนทั้งหมด
- มีผู้ใช้งาน Facebook มากกว่า 36 ล้านคนต่อวัน
กรณีศึกษา
พุงกลม ซึ่งก่อตั้งในปี พ.ศ. 2553 โดยสามีภรรยาคู่หนึ่ง เป็นร้านค้าปลีกออนไลน์ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กระดับพรีเมียม พร้อมบริการจัดส่งในประเทศ แบรนด์พุงกลมต้องการที่จะเปลี่ยนความสนใจของลูกค้าให้กลายเป็นยอดขายด้วยการใช้โฆษณาบน Messenger ที่กำหนดกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มคนที่เคยมีส่วนร่วมกับโพสต์และเพจของแบรนด์ผ่านการแสดงความคิดเห็น กดไลค์ แชร์ เป็นต้น นอกจากนี้ พุงกลมยังมีวิสัยทัศน์ที่เหนือกว่าความสนใจของลูกค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน และได้ใช้กลยุทธ์การหากลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันจากฐานข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่ของเขา เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มจะสนใจผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ผ่านโฆษณาบน Messenger พุงกลมได้ใช้ Messenger เป็นจุดหมายที่ครบวงจรที่ลูกค้าสามารถพูดคุยกับธุรกิจ สอบถามคำแนะนำเพิ่มเติม และทำการซื้อสินค้า โดยในระยะเวลาไม่กี่เดือน พุงกลมสามารถบรรลุเป้าหมายต่างๆ ดังนี้
- ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าจากการลงทุนด้านโฆษณา
- จำนวนการติดต่อสอบถามผ่าน Messenger เพิ่มขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์
- อัตราการเปลี่ยนแปลงสู่ยอดขายผ่าน Messenger ที่เพิ่มขึ้นถึง 10 เปอร์เซ็นต์