เจ้าหน้าที่สกัดจับแก๊งขนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาเข้าประเทศ โดยใช้ “รถนักเรียน” ตบตาเจ้าหน้าที่ 15 ราย ผู้นำพาคนไทย 3 ราย เสียค่าใช้จ่าย รายละ 5,000 บาท…
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2564 พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.กองกำลังบูรพา สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารประจำกองกำลังชายแดน เข้มงวดกวดขันปัญหาการลักลอบเข้าเมือง และการนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้า-ออก บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19
โดยขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อย ฉก.ตชด.4 พร้อมกำลังพล 2 นาย ร่วมกับ ตำรวจ สภ.โคกสูง, ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ตาพระยา กองกำลังบูรพา ออกลาดตระเวนและเฝ้าซุ่มตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ
ได้ร่วมกันจับกุม นายสำฤทธิ์ บัวผัน อายุ 47 ปี ที่อยู่ 205 ม. 02 ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ,นางสาวรัสมี คำสิงห์ อายุ 49 ปี ที่อยู่ 6 ม.5 ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว คนไทยผู้นำพา 2 ราย และแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาอีก 7 ราย เป็นชาย 4 ราย หญิง 3 ราย โดยใช้รถตู้ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น HIACE DIESEL COMMUTER สีเทาหมายเลขทะเบียน นข-3462 สระแก้ว ด้านหน้าติดป้าย “รถนักเรียน” จำนวน 1 คัน ถอดเบาะออกและให้แรงงานนอนมาภายในรถเต็มคัน ถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับได้ที่ถนนธนะวิถี ช่วงโคกสูง-อรัญประเทศ ม.14 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
ทั้งนี้ จากการสอบสวนทราบว่า ขบวนการลักลอบนำพาชาวกัมพูชาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายดังกล่าว ซึ่งชาวกัมพูชาทั้งหมด ยอมรับว่า ได้เดินเท้าเข้ามาจากประเทศกัมพูชาทางช่องทางธรรมชาติ บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อมารอขึ้นรถที่กระท่อม นางหนูแดงหรือนัย ภู่รับ บริเวณท้ายหมู่บ้านกุดผือ ม.4 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยเสียเงินค่าเดินทางให้กับนายหน้าที่ปลายทางคนละ 5,000 บาท
ส่วนนายสำฤทธิ์ และนางสาวรัสมี ผู้นำพา ให้การว่า ตนได้รับว่าจ้าง จากนางหนูแดง ให้ไปรับชาวกัมพูชาที่บริเวณกระท่อมท้ายหมู่บ้านกุดผือ ม.4 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง ให้ไปส่งที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และกรุงเทพฯ ในราคาหัวละ 500 บาทต่อคน เพื่อไปทำงานที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงแจ้งหากับคนไทยผู้นำพา 2 คน ข้อหากระทำผิดฐาน “ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ อันตนรู้ว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตให้พ้นจากการจับกุม”
ส่วนชาวกัมพูชาทั้ง 7 คน ถูกตั้งข้อหา กระทำผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
หลังจากนั้น ผ่านไปเพียง 2 ชม.เศษ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้ร่วมกันจับกุม นายวีระ ดวงพร อายุ 40 ปี ที่อยู่ 47/1 ม.6 ต.ขอนแตก อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ผู้นำพาคนไทย พร้อมรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นพรีรันเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1ฒว-4558 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน ขณะบรรทุกแรงงานกัมพูชามาด้วย จำนวน 8 ราย เป็นชาย 4 ราย หญิง 4 ราย ที่บริเวณกระท่อมท้ายหมู่บ้านกุดผือ ม.4 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นกระท่อมของ นางหนูแดง เช่นกัน ขณะเตรียมขนแรงงานกัมพูชาอีกคันเข้าพื้นที่ชั้นใน
จากการสอบถามชาวกัมพูชาทั้งหมด ให้การว่า พวกตนเดินเท้าเข้ามาจากประเทศกัมพูชาทางช่องทางธรรมชาติบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อมารอขึ้นรถไปทำงานกรุงเทพฯ จ่ายค่าเดินทางให้กับนายหน้าคนละ 3,500 บาท
จากการตรวจสอบไม่มีผู้ใดมีเอกสารแสดงการเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ซึ่งนายวีระ ให้การรับสารภาพว่า ตนมาเพื่อรอรับชาวกัมพูชาเพื่อไปส่งที่กรุงเทพฯ โดยจะเดินทางในช่วงเช้า ได้ค่าจ้างจาก นายเชน นายหน้าชาวกัมพูชา ประมาณครั้งละ 10,000 บาท แต่มาถูกจับเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองโรคโควิด 19 แล้ว ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.โคกสูง ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยคนไทยผู้นำพา ถูกแจ้งข้อกล่าวหา กระทำผิดฐาน “ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ อันตนรู้ว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตให้พ้นจากการจับกุม”
ส่วนชาวกัมพูชาอีก 8 คน ถูกแจ้งข้อหา กระทำผิดฐาน“เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา กระทำผิดฐาน “มั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคตามข้อกำหนดในมาตรา 9 ฉบับที่ 1 ข้อ 5 แห่ง พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548” ด้วยเช่นกัน.