จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนาย “สม้อย นาชัยเงิน ” ช่างไม้ ในแคมป์งานก่อสร้างขณะกำลังทำกับข้าว จนเสียชีวิต เหตุเกิดในท้องที่ สน.ธรรมศาลา เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ล่าสุดมือปืนเข้ามอบตัวแล้ว ด้านเมียและลูกคนงาน ไม่ขอรับอโหสิกรรม ขอตำรวจทำคดีถึงที่สุด
โดยเมื่อวานนี้ (15 พ.ย. 2564) ผู้ก่อเหตุคือนายธนวัฒน์ แจ้งพูล หรือปิ๊ก อายุ 34 ปี พร้อมพ่อและแม่ เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ. ชาญฤทธิ์ ทรัพย์สมบัติ ผู้กำกับการ สน.ธรรมศาลา หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืน ยิง เสียชีวิตคาแคมป์คนงานซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านผู้ก่อเหตุเอง
มีรายงานเบื้องต้นว่า ผู้ต้องหาในการต่อตำรวจว่า วันเกิดเหตุตัวผู้ต้อง มีอาการมึนเมา และหูแว่ว ได้ยินเสียงคนจะมาทำร้าย จึงได้นำอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .22 ม.ม. ออกมายิงปืนขึ้นฟ้า 3 นัด ก่อนจะเดินเข้าไปในแคมป์พัก พบเห็นผู้ตายกำลังนั่งหันหลังทำกับข้าว จึงยิงใส่ จำนวน 2 นัด และเดินกลับเข้าบ้านพักไป และหลบหนี ไปตามเส้นทางถนนบรมราชชนนี มุ่งหน้าไปจังหวัดนครปฐม เพื่อเตรียมเดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนจะได้รับการติดต่อจากพ่อและแม่ ให้เข้ามอบตัวจึงมีการนัดหมายในช่วงสายวันนี้ ที่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 และถูกคุมตัวเข้า สน.มาดำเนินคดี
ซึ่งเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือลั่นไกสังหารผู้ตายจริง เจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ครอบครองอาสุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยในเวลาต่อมา มีการประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ามาตรวจสอบอาวุธปืนที่คนร้ายนำมามอบตัวด้วย พร้อมทั้งตรวจคราบเขม่าดินปืนที่มือของคนร้ายเพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี
ส่วนอาวุธปืนที่คนร้ายนำมามอบตัวด้วยเป็นอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .22 ตรงกับอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ พร้อมเอกสาร ที่แสดงทะเบียนของอาวุธปืน มีรายงานว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นปืนถูกต้อง ที่ระบุชื่อเจ้าของปืนตามเอกสารคือ ปู่ของผู้ต้องหาเอง
สำหรับการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอคำสั่งของ พันตำรวจเอกชาญฤทธิ์ ว่าจะมีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเลยหรือไม่
ด้าน นางปิรยากร นาชัยเงิน ภรรยาของนายช่างที่เสียชีวิต ระบุว่า วันเกิดเหตุตนเองก็อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่อยู่ในห้อง ก่อนจะได้ยินเสียงดังคล้ายอาวุธปืน 2 ครั้ง จึงเดินออกมา ก็พบว่าสามีเสียชีวิตไปแล้ว ขณะที่ภายหลังเกิดเหตุ ก็ได้มีแม่ของผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาไหว้ศพสามีตนเอง และกล่าวคำว่าขอโทษ แม่ไม่ได้ทำ แต่ลูกแม่เป็นคนทำ ก่อนจะเดินกลับออกไป
นางปิรยากร ยังยืนยันว่า ส่วนตัวไม่เคยมีปัญหาทะเลาะหรือผิดใจกับคนร้าย หรือครอบครัวคนร้ายมาก่อน รวมถึงไม่เคยสนิทกัน ตามที่มีกระแสข่าวที่ทางแม่คนร้ายอ้างว่าสนิทสนมกับสามีตน เป็นแค่คนที่อาศัยใกล้กัน และต่างคนต่างอยู่ ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องเข้ามายิงสามีตนเอง เมื่อถามถึงว่าเคยโดนคนร้ายคุกคามมาก่อนหรือไม่ นางปิรยากร เล่าให้ฟังอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเอง ก็เคยได้ยินคนร้าย ยิงปืนขึ้นข่มขู่ และเคยมีเรื่องทำร้ายร่างกายลูกสาวตนเองมาก่อนหน้า และได้เข้าแจ้งความที่ สน.ธรรมศาลา มาแล้ว แต่ก็ไร้การดำเนินการใดๆ จนมาถูกก่อเหตุสลดดังกล่าว
นางปิรยากร ยังยืนยันว่า จะไม่รับคำขออโหสิกรรม จากทางผู้ก่อเหตุ และครอบครัวผู้ก่อเหตุ ขอให้ตำรวจดำเนินการทางคดีให้ถึงที่สุด แต่ยอมรับก็แอบกังวนว่าเรื่องจะเงียบเหมือนทุกครั้งที่แจ้งความหรือไม่
ด้านนางสาวรุ่งทิวา นาชัยเงิน ลูกสาวผู้ตาย เล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้ ตนเองเคยถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับเข้าแคมป์พัก คนร้ายก็มาขวางและทำร้ายตนเอง ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจเพราะไม่เคยทำอะไรให้ผิดใจกัน เคยเข้าแจ้งความแล้วเรื่องก็เงียบ ไม่ได้มีการเข้ามาดำเนินการใดๆ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนต้องหนีไปทำงานที่ต่างจังหวัด ก่อนจะทราบข่าวร้ายว่าพ่อถูกคนร้ายที่เคยทำร้ายตนเอง ยิงเสียชีวิต
ส่วนตัวอยากสอบถามว่า ทำไมต้องมายิงพ่อเรา ทำไมไม่ยิงพ่อตัวเอง พ่อใคร ใครก็รัก ทีเค้ายังรักพ่อตัวเอง เราก็รักพ่อของเราเหมือนกัน อยากถามว่าถ้าแค่ขอโทษ พ่อเราจะกลับมาไหม? ด้วยนำ้เสียงสั่นเครือ
ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินทางขึ้นรถตู้เพื่อเตรียมเดินทางไปรับร่างสามีและพ่อ ก่อนจะเดินทางนำร่างไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ที่จังหวัดกาฬสินธุ์.