เกิดเหตุคนร้าย ยิงประธานกู้ภัยแม่สาย ดับคาวงข้าวในห้องครัว ตำรวจพุ่งปมขัดแย้งส่วนตัว กับหักหลังธุรกิจมืด…
วันที่ 13 ธ.ค.2564 เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด ยิงใส่ นายสังวุฒิ คำมงคล อายุ 61 ปี ประธานกลุ่มอาสาสมาคมปิยะมิตรแม่สายร่วมใจ บรรเทาสาธารณภัยและการกุศลจนเสียชีวิต ขณะนั่งรับประทานอาหารกับภรรยา อยู่ในห้องครัว ภายในบ้านเลขที่ 36/1 หมู่ 2 บ้านสันถนนใต้ ตำบลศรีเมืองชุม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
หลังกิดเหตุ ร.ต.อ.สินทิช กิจธธัญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เกาะช้าง อำเภอแม่สาย พนักงานสอบสวนเวร พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชา และกำลังชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนายสังวุฒิถูกยิงเข้าที่บริเวณใบหน้า โดยมีรอยกระสุนอยู่บริเวณโหนกแก้มซ้ายจำนวน 1 นัด ขณะที่นางแสง คำมงคล ภรรยาของนายสังวุฒิ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์กำลังร้องให้ด้วยความเสียใจ
นายอนุวัฒน์ คำมงคล บุตรชายของผู้เสียชีวิต บอกว่า ก่อนเกิดเหตุพ่อกับแม่กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และพบว่าพ่อถูกยิงกระสุนเข้าที่ใบหน้าจนเสียชีวิตแล้ว หลังเกษียณพ่อก็ทำสวนทำนา ปกติถ้ามีคนเข้ามาที่บ้านในยามวิกาล จะมีสุนัขเห่า แต่ทว่าครั้งนี้ไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลย สอดคล้องกับนางแสง ภรรยาที่บอกว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งรับประทานอาหารเย็นกับผู้ตายอยู่ ได้ยินเสียงปืนนัดเดียว ผู้ตายก็ถูกยิงตกเก้าอี้เสียชีวิต
ส่วนสาเหตุไม่ทราบ และผู้ตายไม่เคยเล่าให้ฟังว่า มีความขัดแย้งกับใครหรือไม่ ผู้ตายพึ่งจะเกษียณมาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังเกษียณก็อยู่บ้าน จะออกไปทำงานกู้ภัย ลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายแอบอยู่ในที่มืด แล้วยิงให้กระสุนเข้าผ่านทางหน้าต่างของห้องครัว
ส่วนสาเหตุของการบุกยิงอย่างอุกอาจในครั้งนี้ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นความขัดแย้งส่วนตัว หรือว่าหักหลังกันในธุรกิจมืด โดย พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ซึ่งลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง ได้สั่งการให้สืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป
สำหรับนายสังวุฒิ คำมงคล เคยเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) สังกัดกองร้อยอาสารักษาดินแดนที่ 5 อำเภอแม่สาย และมีจิตอาสาตั้งคณะกู้ชีพกู้ภัยช่วยเหลือคนแม่สาย ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายน 2561 เคยถูกคนร้ายดักยิงขณะขับรถกระบะกลับบ้าน แต่โชคดีที่การถูกดักยิงครั้งนั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บ เพราะว่าหยุดรถแล้ววิ่งหนีได้ทัน จนกระทั่งมาถูกสังหารในครั้งนี้.