แจงรัวๆๆ ค่าบริการแท็กซี่ ที่ผูกกับสนามบิน บวกค่าธรรมเนียม 50 บาท ตามประกาศกระทรวงคมนาคม เหตุต้องจอดรอคิว จุดขายสะดวกตรวจ-ปลอดภัย เรียนร้องได้ …คุ้มหรือไม่ ถามใจ!!
นับเป็นเรื่องที่ต้องแก้ปัญหาเป็นรายวัน!! กับการเปิดรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบของไทย ทั้งกรณีข่าวตำรวจรีดไถนักท่องเที่ยวต่างชาติ มาจนถึงกรณีล่าสุด ค่าแท็กซี่สุดโหด ที่ขึ้นจากสนามบินดอนเมืองเข้าเมือง ค่าโดยสาร 1,500 บาท!! โดยเหตุผลหนึ่งที่คนขับขี่รถแท็กซี่ นำมาอ้าง คือ เก็บค่าธรรมเนียม ค่าสัมภาระพิเศษ หรือค่าอื่นๆ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวผู้ใช้บริการ ต้องปวดเศียรเวียนเกล้าไปตามๆ กัน
ค่าแท็กซี่ สุวรรณภูมิ บวกเพิ่ม 50 บาท แจงยิบคุ้มค่าหรือไม่?
สาเหตุที่ต้องเก็บค่าธรรมเนียม 50 บาท
เพจ AOT สนามบิน สุวรรณภูมิ ออกมาชี้แจงกรณีนี้ระบุว่า เป็นการรวบรวมข้อมูลการเดินทางด้วยรถแท็กซี่จากสนามบิน ที่กรมการขนส่งทางบก..กำหนด ตามประกาศกฎกระทรวงคมนาคม…ระบุไว้ว่า
“ผู้โดยสารจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 50 บาท ให้กับผู้ขับขี่รถแท็กซี่โดยตรง เพราะผู้ขับรถแท็กซี่ประสบปัญหารายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย เนื่องจากต้องเข้าคิวรอรับผู้โดยสารเป็นเวลานาน หรือผู้โดยสารเดินทางแค่ระยะใกล้ๆ ทำให้รายได้ไม่เพียงพอ โดยเป็นอัตราตามที่กฎหมายระบุไว้ ไม่ได้เป็นการกำหนดจาก AOT”
ข้อดีใช้บริการ แท็กซี่ จดทะเบียนกับสนามบิน
นอกจากนี้ ยังแจกแจงถึงข้อดี ของการใช้รถแท็กซี่ที่ลงทะเบียนไว้กับสนามบิน ว่า
- บริการเป็นระบบ ได้รับการตรวจสอบ
- เลือกใช้บริการรถแท็กซี่คันใหญ่ สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมากันหลายคน/สัมภาระเยอะๆ
- หากคนขับบริการไม่สุภาพ หรือลืมทรัพย์สิน สามารถแจ้งหรือติดต่อสนามบิน เพื่อดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เพียงถ่ายรูปหรือเก็บบัตรคิวรถแท็กซี่ไว้
- สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลในการร้องเรียนได้ เนื่องจากบัตรคิวจะระบุรายละเอียดรถ และชื่อผู้ขับที่ได้ลงทะเบียนไว้ทุกคัน
สิ่งที่ผู้ใช้บริการต้องตระเตรียม
สำหรับผู้ใช้บริการ นอกจากค่าธรรมเนียมรถแท็กซี่ 50 บาทแล้ว ยังต้องเตรียมเงินไว้จ่ายค่าโดยสารคิดตามระยะทาง + ค่าธรรมเนียมทางด่วน (ถ้ามี) และค่าสัมภาระเพิ่มเฉพาะรถแท็กซี่จดทะเบียนในกรุงเทพฯ ที่ให้บริการไป – กลับสนามบินดอนเมือง หรือสนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น
“อัตราค่าสัมภาระที่จะเก็บเพิ่ม คนขับต้องแจ้งค่าบริการให้ผู้โดยสารทราบล่วงหน้าทุกครั้ง และไม่มีการเก็บค่าบริการในกรณีสัมภาระเป็นรถเข็น หรืออุปกรณ์สำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย เช่น วีลแชร์ ไม้เท้า รวมถึงสัมภาระติดตัว ที่อยู่ในความดูแลของผู้โดยสารระหว่างการเดินทาง เช่น กระเป๋าถือ เป้สะพายหลัง เป็นต้น”
ทั้งนี้ หากพบเห็น หรือต้องการร้องเรียนสามารถร้องเรียนได้ที่..ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ โทร.1584
ทั้งหมดทั้งมวล!! ผู้ใช้บริการจะเรียกใช้บริการหรือไม่ อยู่ที่ความพึงพอใจ!! ไม่ได้บังคับนะจ้ะ แพงไปก็ไม่ขึ้น เพราะก็เหมือนจะโดนเอาเปรียบ คือถ้าขึ้นไปนั่งแล้ว ก็ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้น…เมื่อรู้สึกว่ากำลังจะถูกเอาเปรียบ แนะนำให้หันหลังให้ค่ะ รถสาธารณะอื่นยังมี เศรษฐกิจแบบนี้ อดทนรอหน่อยก็ได้นะ