เครดิตบูโร…พุ่งพรวด!! แม้ไม่ใช่ยุค ‘ต้มยำกุ้ง’ แต่อาจเป็นต้มยำไก่ก็ได้นะ เพราะเงินฝืดมากถึงมากที่สุด ชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำบอกได้คำเดียวว่าเหนื่อย โดยเฉพาะผู้ที่มีภาระดาวน์รถและต้องผ่อนเป็นรายงวดๆ หลังประสบปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง TOPPIC Time ขอนำข้อมูลบางส่วนของเครดิตบูโรมาเปิด เพื่อให้เห็นเศรษฐกิจระดับฐานราก หลังปรากฎข้อมูล เผยว่า สิ้นปีนี้อาจมีรถถูกยึดกว่า 1 ล้านคัน
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ระบุว่า เป็นสัญญาณเตือนภัยที่อาจจะทำให้เศรษฐกิจ หงอย และซึม เนื่องจาก เครดิตบูโร เห็นสัญญาณลูกหนี้จ่ายหนี้แบบเลี้ยงงวด มาตั้งแต่ปี 2563-2564 และต่อเนื่องมาจนถึงปี 2566 เพราะเศรษฐกิจเข้าสู่ยุคของแพง ค่าแรงต่ำ ทำให้เกิดปัญหาในการผ่อนชำระ
ยอดลูกหนี้ค้างชำระจ่ายทุกกลุ่มพุ่ง จนกลายเป็น หนี้เสีย
จากข้อมูลพบว่า ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2564 มาจนถึงไตรมาส 1 ปีนี้ พบว่า
– ลูกหนี้ค้างจ่ายค่างวด 1-3 งวด แต่ยังไม่ถือเป็นหนี้เสีย กลับมาชำระ 1 งวด มีมูลหนี้ 190,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลหนี้ 150,000 ล้านบาท ของมูลหนี้ทั้งสิน 2.6 ล้านล้านบาท
– ลูกหนี้กลุ่มสีแดง ที่ค้างเกิน 90 วัน หรือกลุ่มหนี้เสีย มีมูลหนี้ที่ 180,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกปี 2565 ที่มีมูลหนี้ 150,000 ล้านบาท
GEN X – GEN Y ติด เครดิตบูโร กระจาย
หากแยกเป็นบัญชีตามช่วงอายุ จะพบว่าไตรมาสแรกปีนี้
– บัญชีสินเชื่อรถยนต์ของกลุ่ม GEN Y จำนวน 600,000 บัญชี เป็นหนี้ที่มีปัญหา แล้วพบว่ากว่า 50% หรือ 350,000 บัญชี เป็นหนี้เสียแล้ว
– กลุ่ม GEN X มีบัญชีที่มีปัญหา 400,000 บัญชี โดย 50% หรือ 200,000 บัญชี เป็นบัญชีหนี้เสีย
– เมื่อเอาตัวเลข บัญชีของทั้ง 2 กลุ่ม มารวมกัน มีความเสี่ยงว่า ในอีก 4 เดือนข้างหน้า อาจจะมีลูกหนี้ถูกยึดรถรวม 1 ล้านคัน
ก็ต้องยอมรับไม่แปลกใจที่จะมีข่าวออกมาว่า สินเชื่อรถยนต์ปล่อยกู้ยาก การปฏิเสธอนุมัติสินเชื่อสูง จนกระทบคนที่ขายรถยนต์ เพราะบ้านเรากู้เงินมาซื้อรถมากกว่าซื้อสด และในอนาคตอาจจะได้เห็นหนี้เสียจากรถยนต์ที่รักโลก รักสิ่งแวดล้อมมากขึ้นแน่ๆ
“รถกระบะ” ถูกยึดเป็นอันดับ 1
จากข้อมูลของบริษัทที่เปิดประมูลรถยนต์ พบว่า บริษัทฯ ต้องเตรียมแผนรองรับรถถูกยึด ด้วยการเพิ่มจุดจอดอีก 10 จุด จากพื้นที่เดิมที่สามารถจุได้สูงสุด 40,000 คัน เพราะมีรถที่ถูกยึด จอดอยู่แล้วกว่า 2,000 คัน โดยมากที่สุดเป็นรถกระบะ รองลงมาเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล หรือรถเก๋ง
ขณะที่ ทิศทางการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์มือสอง ช่วงครึ่งปีแรก ภาพรวมตลาดมีจำนวนรถถูกยึด ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลบ่งชัดว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากประชาชนยังคงต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น สภาพตลาดไม่ต่างจากเมื่อครั้งเกิดผลกระทบจากโครงการรถยนต์คันแรก ที่ขับได้ระยะแรก ก็ส่งต่อไม่ไหว ภาวะจำยอมให้ยึดรถ จึงเป็นทางออกที่ง่าย และตัดปัญหาได้ดีที่สุด แต่ในสภาวะเช่นนั้น ก็คงไม่มีใครที่อยากเผชิญ!!.