เตรียมยกเว้นวีซ่าถาวร 2 ประเทศ ไทย – จีน คาดดีเดย์ 1 มี.ค.67 ยกระดับความสำคัญของพาสปอร์ตไทย ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย ทะลุกว่า 28 ล้าน รายได้พุ่ง 1.2 ล้านล้าน คนไทยเที่ยวเมืองนอกปี 65-66 ยังสูง 7 ล้านคน ญี่ปุ่นยังยอดฮิต
ดีเดย์ 1 มี.ค.67 ท่องเที่ยวไทย-จีน ยกเว้นวีซ่า
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยหลังการประชุม ครม.ถึงการยกเว้นวีซ่าไปประเทศจีนว่า ประเทศไทยมีการยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน ที่จะเดินทางมาประเทศไทย ถึงวันที่ 29 ก.พ.67 ซึ่งใกล้จะหมดเขตลงแล้ว แต่รัฐบาลต้องการยกระดับความภาคภูมิใจของพาสปอร์ตไทย จะให้ดีต้องยกการขอวีซ่าของทั้ง 2 ประเทศ ล่าสุด มีข่าวดี โดยไทย-จีน จะมีการยกเว้นวีซ่าถาวร เริ่มต้นวันที่ 1 มี.ค.2567 ทั้ง 2 ประเทศ ไม่ต้องมีวีซ่ากันและกัน ถือเป็นการยกระดับความสำคัญของพาสปอร์ตไทยให้กับนักท่องเที่ยวที่อยากเข้ามาทั้ง 2 ประเทศ
คนไทยยังฮิตท่องเที่ยวต่างประเทศ แม้ต้องใช้วีซ่า
สถิติการท่องเที่ยวของคนไทยเที่ยวต่างประเทศ จากตัวเลขของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) พบว่า ช่วงหลังโควิด 2565 มีคนไทยเที่ยวนอกเฉลี่ยวันละ 28,000 คน โดยช่วงปลายปี-หยุดยาวปีใหม่ จะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศกว่า 360,000 คน จุดหมายปลายทางของวีซ่ายอดนิยมอันดับ 1 คือญี่ปุ่น รองลงมาเกาหลี และเวียดนาม ขณะที่ สอดคล้องกับข้อมูลการจองโรงแรมที่พักของ Booking.com ในเดือน ธ.ค. (2565) ใน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวียดนาม สิงคโปร์ และ สปป.ลาว
เผยวีซ่าคนไทย 7 ล้านปี 2566 ท่องเที่ยวเมืองนอก
สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) ประเมินสถานการณ์คนไทยใช้วีซ่าเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ตลอดทั้งปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 7 ล้านคน ฟื้นตัว 70% ของช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ตัวเลขสถิติจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 4 เดือนแรกของปีนี้ (66) หรือ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีคนไทยใช้วีซ่าเดินทางออกไปต่างประเทศรวม 4.3 ล้านคน อันดับที่ 1 ประเทศญี่ปุ่น ส่งผลราคาแพ็กเกจทัวร์แพงขึ้น 30% โดยเฉพาะการท่องเที่ยวช่วงปลายปี เป็นกลุ่มของคนที่มีกำลังซื้อ เน้นการกินอยู่ที่ดีขึ้น เที่ยวนานขึ้น ขณะที่ความนิยมไปเที่ยวเวียดนามกำลังมาแรง
ต่างชาติท่องเที่ยวไทย ทะลุ 28 ล้านคน
สถิติจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ใช้วีซ่าเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 2566 มีจำนวน 28,042,131 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 1.2 ล้านล้านบาท
นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
– มาเลเซีย (4,563,020 คน)
– จีน (3,519,735 คน)
– เกาหลีใต้ (1,658,688 คน)
– อินเดีย (1,626,720 คน)
– รัสเซีย (1,481,878 คน)
สำหรับในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี มีนักท่องเที่ยวเดินทาง (ใช้วีซ่า) เข้ามาปรับตัวลดลงเล็กน้อย ร้อยละ 0.90 จากสัปดาห์ก่อนหน้า เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เริ่มชะลอการเดินทางตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 2566 ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของนักท่องเที่ยวภูมิภาคอาเซียนเป็นหลัก สำหรับนักท่องเที่ยวในภูมิภาคอื่นๆ ยังคงเพิ่มขึ้นจากการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ และการเดินทางในช่วง Winter Holiday ในช่วงสิ้นปีของภูมิภาคยุโรป
ขอบคุณภาพ – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย