กลุ่มคนรวยชาวเมียนมาแห่ซื้อคอนโดฯ ยันเพนท์เฮ้าส์ในไทยโดยเฉพาะพื้นที่ใจกลาง กทม.สุขุมวิท ทองหล่อ พระราม 4 แม้สนนราคาจะสูงลิ่ว 40 – 50 ล้าน รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวเมืองใหญ่ๆ รั้งอันดับ 3 ตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน กระตุ้นตลาดอสังหาฯ โตกว่า 240 % มูลค่ากว่า 3 พันล้าน…
จากกฎหมายที่เปิดกว้างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยให้สิทธิชาวต่างชาติ สามารถครอบครองได้ ปัจจุบันมีข้อมูลที่น่าสนใจ และต้องติดตาม TOPPIC Time พบว่า คนเมียนมา ประเทศเพื่อนบ้านของไทย เข้ามาจับจองซื้อที่อยู่อาศัยในรูปแบบคอนโดมเนียม กระทั่ง เพนท์เฮ้าส์ เป็นจำนวนมาก จากเดิมที่ไม่ได้ให้ความสนใจ โดยปี 2564 คนเมียนมามาซื้อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดฯ ในไทยไม่ติด 1 ใน 10 แต่ขณะนี้ กลับมารั้งเป็นอันดับ 3 แซงจีน และรัสเซีย
ตลาดอสังหาฯ ชาวต่างชาติปี 67 โตพรวด ‘เมียนมา’ แชมป์
สมาคมอาคารชุดไทย เผยภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ชาวต่างชาติในปี 2567 เติบโตดีมาก
- ตลาดคนเมียนมา ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายเติบโตถึง 240% เทียบกับปีก่อน
- ตลาดชาวไต้หวันที่เติบโต 100%
- ตลาดชาวจีนติดลบ 11% ทั้งนี้ ตลาดจีนยังเป็นลูกค้าใหญ่ในตลาดต่างชาติ โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 50%
“ปัจจัยหลักที่คนเมียนมาแห่ซื้อคอนโดฯ จากความไม่สงบภายในประเทศ ทำให้ผู้มีรายได้สูง นำเงินออกมาซื้อเป็นบ้านหลังที่สอง กระจายความเสี่ยง 2-3 ปีแล้ว หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง”
เปิดทำเลทองคนเมียนมาแห่จับจอง
– จากเดิมเป็นกลุ่มคนเมียนมาระดับกลาง-บน และซื้อคอนโดย่านชานเมือง
– ขณะนี้ คนเมียนมากลุ่มระดับบน ซื้อคอนโดในเมืองแนวรถไฟฟ้ามากขึ้น
– โดยย่านที่เลือกซื้อ พระราม 4 ถนนสุขุมวิท สนนราคา 40-50 ล้าน ขนาด 2 ห้อง รวมถึง ซื้อเป็นเพนท์เฮ้าส์
– รวมไปถึง ย่านธุรกิจดินแดง ห้วยขวาง สุขุมวิท ทองหล่อ และในจังหวัดท่องเที่ยวมากขึ้น
เมียนมาครองแชมป์ซื้อคอนโดฯ เพิ่ม ตั้งแต่ปี 65
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ระบุว่า การเข้ามาซื้อห้องชุดของคนเมียนมา ขยายพื้นที่ในการซื้อมากขึ้น เป็น 10 จังหวัด
คนเมียนมาซื้อคอนโดฯ ในไทย ปี 2565
– กรุงเทพฯ ยังคงเป็นจังหวัดที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ที่ซื้อเพิ่มถึงกว่า 10 เท่าตัว จำนวนมากถึง 311 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 7.8 ล้านบาทต่อยูนิต
– รองลงมาเป็นชลบุรี 13 ยูนิต ราคาเฉลี่ยต่อยูนิตสูงถึง 10.5 ล้านบาท
– ตลอดตน เชียงใหม่ และปทุมธานี จำนวน 6 ยูนิต
-รวมปี 2565 มากถึง 349 ยูนิต มูลค่ารวม 2,551 ล้านบาท เฉลี่ย 7.3 ล้านบาทต่อยูนิต
เมียนมาซื้อตอนโดฯ ในปี 2566 พุ่งไปอีก
– กรุงเทพฯ ยังคงเป็นพื้นที่ที่นิยมของ คนเมียนมา ซื้อ 457 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยราคาสูงถึง 7.3 ล้านบาทต่อยูนิต
– ภูเก็ต ก็ได้รับความสนใจมาก ซื้อห้องชุด 20 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 6.1 ล้านบาทต่อยูนิต
– กระจายไปถึง ชลบุรี เชียงใหม่ สมุทรปราการ 18 ยูนิต ,นนทบุรี 15 ยูนิต, ปทุมธานี 7 ยูนิต ,ตาก 4 ยูนิต, สงขลา 3 ยูนิต ,และประจวบคีรีขัน์ และระยอง 2 ยูนิต
– รวมปี 2566 จำนวน 564 ยูนิต มูลค่า 3,707 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อยูนิต 6.6 ล้านยูนิต
เมียนมารั้งอันดับ 3 ซื้อคอนโดฯ กว่า 2 พันล้าน
มีรายงานสถิติการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติของศูนย์อสังหาริมทรัพย์ (REIC) พบว่า สัดส่วนของเมียนมา รั้งอันดับ 3 ตั้งแต่ปี 2565 โดยพบว่ามีอย่างต่อเนื่องถึงปี 2566 มีมูลค่ากว่า 2,250 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4.3% รั้งอันดับ 3 รองจากรัสเซียและจีน มีราคาเฉลี่ย 6.5 ล้านบาทต่อยูนิต
ที่มา : สมาคมอาคารชุดไทย
ที่มา : ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC)