วอนอย่าติดภาพ พระสงฆ์ เพราะทำใช้ชีวิตลำบาก และสัญญาว่าจะไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง “ทิดสมปอง” ตอบกลับดั่งผู้ดี หลังโดนจวกหนักในพื้นที่ส่วนตัว…
มีดราม่ารุนแรงเรื่อยมา ตั้งแต่ยังไม่ลาสิกขาจากการเป็นสงฆ์ สำหรับ “อดีตพระสมปอง” แห่งวัดสร้อยทอง หรือ ทิดสมปอง ในปัจจุบัน ซึ่งหลังจากสึกออกมาดราม่าต่างๆ ก็มิได้น้อยลงเลย แถมยังถูกจับตามองมากกว่าเดิมเสียอีก ทั้งกิริยาวาจาที่ดุดัน ท้าต่อยท้าตี และเรื่องการวางตัวในสังคม ที่ควรเป็นแบบอย่างที่ดี แต่กลับมีภาพให้สาวๆ นั่งตัก โดยไม่นานมานี้ ก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เข้าไปต่อว่าเจ้าตัวอย่างหนักหน่วง กล่าวถึงการบวชศึกษาพระธรรม 30 ปี ไม่ได้สอนอะไรให้เลย
ล่าสุด “ทิดสมปอง” ได้ตอบกลับอย่างสุภาพชน หลังโดนต่อว่าแรงๆ โดยมีนัยว่า อย่าติดภาพพระสงฆ์ ทำใช้ชีวิตลำบาก พร้อมร่ายยาวถึงประเด็นดราม่านี้ว่า
“ตั้งแต่ผมสึกออกมา มีหลายคนจับตามองในสิ่งที่ผมทำ ผมก็เป็นมนุษย์คนนึงแหละครับ ที่พร้อมจะทำในสิ่งที่ดี และอาจจะไม่รู้ตัว ในการทำสิ่งที่ไม่ดี อย่าเอาการบวช 30 ปีของผม มาตัดสินชีวิตผมเลย ว่าผมจะต้องเป็นคนที่ดีพร้อม และทำในสิ่งที่ทุกคนพอใจ
ผมอาจจะเป็นคนที่น่าชื่นชม ในสายตาใครหลายๆคน แต่ผมก็อาจจะเป็นที่ไม่ดีสำหรับใครอีกหลายๆ คนเช่นกัน อย่าจับตามองผมด้วยความหวังเลยครับ ผมไม่สามารถเป็นคนที่ดีพร้อม เพื่อให้ใครสมหวังได้เลย อย่ายึดติดภาพความเป็นพระของผม เพื่อทำให้ผมต้องลำบากใจในการเคลื่อนไหวชีวิต
ผมพร้อมจะแก้ไขในสิ่งที่ทุกคนตำหนิ
ผมพร้อมจะเดินหน้าต่อเพื่อทำตามความฝัน
ผมพร้อมจะเรียนรู้การอยู่ร่วมกับทุกคนทุกเพศทุกวัยในสังคม ในฐานะคนธรรมดา ที่ไม่ใช่พระมหา
ผมพร้อมที่จะเป็นแค่คนธรรมดาในแบบที่ผมเป็น
ผมเชื่อว่าสังคมปัจจุบัน เปิดกว้างทางความคิดมากขึ้น ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ทุกครั้งที่ผมอ่านความคิดเห็นในด้านลบ หลายครั้งที่ต้องอ่านคอมเม้นต์ในสิ่งที่ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าผมทำอะไรผิด มันก็ค่อนข้าง ทำให้ผมรู้สึกแย่
แต่ในอีกมุมนึง ชีวิตผมก็ยังต้องดำเนินไป ผมก็พยายามเลือกมองมุมดีๆ มุมที่ใครอีกมายมาย พร้อมจะอยู่เคียงข้างผม ให้กำลังใจผม สนับสนุนผม และรักผม
ผมขอบคุณทุกคนมากจริงๆ จากใจ แต่อย่าพยายามคาดหวังอะไรในตัวตนผมเลย ผมจะพยายามใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น เรียนรู้ไปทุกวัน และผมเชื่อว่า ผมยังจะต้องพบเจออะไรอีกมากมาย กว่าการอยู่ในรั้ววัด มากมายกว่าชีวิตในผ้าเหลืองที่ผมเคยเป็น
สุดท้ายไม่ว่าใครจะรักผมหรือไม่รักผม ผมก็ยังอยากจะขอบคุณทุกคนจากใจเสมอ และผมสัญญาว่าผมจะไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง”
พร้อมทั้งลงชื่อ “สมปอง นครไธสง”