เปิดใจสาวแกร่ง “สุนารี ราชสีมา” หลังผ่านมรสุมชีวิต วินาทีบีบหัวใจสูญเสียคุณแม่หมดลมหายในอ้อมแขน พร้อมเผยคำขอครั้งสุดท้ายของแม่ เปิดสาเหตุขายบ้านหรู 2 หลังกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจด้วย ตอนนี้หัวใจเป็นยังไงบ้าง ?
สุนารี : โอเคแล้ว เริ่มงานมาได้ 3-4 วันแล้ว หยุดไปประมาณ 2 เดือนกว่า
เห็นว่ากลับมาทำงานได้ 3-4 วันยังงงๆ อยู่ เพราะว่าหยุดยาว ?
สุนารี : คอมเมนต์นักร้องที่ประกวดเสร็จ จริงๆ ก็ต้องรอค่อยมาตัดสินอีกที คอมเมนต์เสร็จปุ๊บตัดสินคนเดียวเลย ยังงง เราลืมเสต็ป
อยู่คนเดียวยังมีเศร้าอยู่มั้ย ?
สุนารี : มีค่ะ กลับจากทำงานมาดึกๆ หยิบโทรศัพท์ดูรูปแม่ ดูคลิป พอยิ่งดูยิ่งคิดถึงได้กลิ่นของเขา
ขอย้อนถามจุดเริ่มต้นของคุณยายท่านเกิดอาการอะไรขึ้นมา ?
สุนารี : แม่ก็เป็นโรคชราไม่ได้ป่วยอะไรเลย แม่ไม่ได้มีโรคอะไรเลย แต่เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม เพราะเริ่มมีอาการหลงเหมือนสมองมันสั่งงานรวน พอมันรวนเขาไม่นอน พอไม่นอนก็ไม่ค่อยกินด้วย ลูกๆ ก็เป็นห่วง พี่สาวก็พาเข้าโรงพยาบาลให้น้ำเกลือ ให้ยา ให้เขาได้พักผ่อน ตามสเต็ปของหมอที่เขาจะดูแลได้
ที่บอกว่าอ่อนแรงไม่ใช่อ่อนแรงจากโรคภัยแต่อ่อนแรงจากการที่สมองสั่งการผิด ?
สุนารี : ใช่ๆ ก็วัยชราของเขานั่นแหละ อวัยวะมันเสื่อมแล้ว ตั้งแต่วันนั้นก็ขับรถกลับโคราชดูแลแม่ตลอด อาจจะมีบางช่วงบางงานที่ขาดไม่ได้ต้องมาก็ขับรถกลับมา ก็จะอยู่กับแม่อยู่อย่างนั้น ก็จะมีดีขึ้นมาบ้างพอได้นอนได้พักแล้วก็จะเป็นอีก แล้วก็กลับมาเป็นเด็ก เล่นแบบเด็ก เห็นหลานๆ วิ่งเล่นเขาก็บอกอยากเล่น เล่นเหมือนเด็กเลยนะในวัย 97 เห็นใครกินอะไรก็จะอยากกินมั่ง ขอกิน ยังไม่ได้กินเลย จะเป็นอยู่อย่างนี้
บางครั้งจะมีอาการจำลูกๆไม่ได้ ?
สุนารี : ใช่ค่ะ บางทีก็จำได้ บางทีก็ลืม เหมือนเป็นอัลไซเมอร์ โรคชรา
เรียกได้ว่ายื้อชีวิตทุกๆ ทางถึงขั้นว่าบนบานศาลกล่าว ?
สุนารี : ก็ทั้งบน ทั้งทำบุญ ตอนนั้นวิ่งทำบุญด้วย ชาวบ้านที่นับถือศาลตาปู่ก็เหมือนกับศาลตายายที่บ้านเราก็บน เพราะว่าแม่เขาเป็นคนแก่ประจำหมู่บ้านเผื่อว่าแกจะช่วย เราก็ทำทุกวิถีทาง
ไปบนอะไรบ้าง ?
สุนารี : ประเพณีก็คือศาลตาปู่เขาจะชอบหัวหมู บนหัวหมู 99 หัวกับเหล้าขาว บนคู่กับเรื่องของหลานด้วย พอดีเขาป่วยแล้วก็เขาก็ดีขึ้น จริงๆ ทุกอย่างมันถูกกำหนดมาแล้วเพื่อความสบายใจ อะไรก็ได้ชั่วโมงนั้นที่ไม่ได้ไปเบียดเบียนใครมากมาย
ครั้งนี้แม่ตัดสินใจประกาศลายาวๆ 2-3 เดือนเลย ?
สุนารี : ใช่ ขอหยุดยาวๆ เลย เพราะมันสุดท้ายแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ไม่มี มีบ้างที่หยุดไปหา แต่แม่ยังแข็งแรง เราเองก็ยังแข็งแรง เหมือนกับแม่เข้าใจงานของเราก็หวังว่าแม่จะเข้าใจเรา มันก็เป็นหน้าที่ของคนที่เป็นหลักของครอบครัว หยุดยาวก็ไม่ได้ขาดรายได้ มันก็ต้องดูแลครอบครัวใหญ่มาก เหมือนวันนั้นแม่เขาก็อดทน ถามว่าเราโหยหาแม่มั้ย เราโหยหานะ แต่เราก็อดทนทำหน้าที่ของคนที่ซัพพอร์ตทุกอย่าง แม่เขาก็อดทนเขาก็โหยหาเรา คิดถึงลูกคนหนึ่งที่ 40 ปี ที่ต้องห่าง จนวันนึงแก่อ่อนลงเราเห็นแม่อ่อนลง เขาก็หลุดปากออกมาว่า มาอยู่กับแม่นะ มาดูแลแม่นะอย่าทิ้งแม่ไปไหน แล้วตลอด 40 ปีเราก็โหยหาเขา วันหนึ่งที่แม่หลุดปากมา เราก็โฮเหมือนกัน
ประโยคที่ท่านพูด ท่านพูดประโยคไหน ?
สุนารี : บอกว่าอย่าทิ้งบ้านเรานะกลับมาอยู่กับพี่กับน้องกลับมาอยู่กับแม่ อย่าทิ้งแม่ไปไหน คือเรื่องของเรื่องแม่เขารู้ว่าคุณแม่เนี่ยไปซื้อที่ที่อุทัยธานีแล้ววางแผนว่าบั้นปลายชีวิตจะไปอยู่ที่นั่น ก็เหมือนลูกหลานไปเล่าให้ฟังว่าน้าแหลม ป้าแหลม ย่าแหลม ยายแหลม เขาจะไม่ได้มาอยู่บ้านเรานะ เหมือนคุณยายก็เก็บข้อมูล เขารักลูกรักหลานเขาทุกคน เขารักบ้าน รักที่ รักทุกอย่างของเขา เขาก็กลัวว่าเราจะทิ้งตรงนั้น แต่จริงๆ เราไม่ได้ทิ้งหรอก แค่ว่าเราจะทำบ้านอยู่อีกทีนึง แต่ว่าอยู่ตรงนั้นเป็นหลักแล้วก็ไปๆ มาๆ โคราช เขาก็เก็บข้อมูลเอาไว้ วันหนึ่งที่เขาอ่อนลงเขาก็พรั่งพรูออกมาเลย เราก็น้ำตาแตก ตอนแรกยังไม่รับปากแม่นะตอนที่ยังแข็งแรง ยังซนอยู่ แต่แกพูดถี่มาก พอเรามาทำงานเหมือนแกเพ้อพูดอยู่ตลอด เรียกหาแต่เรา พอกลับไปอีกรอบเลยรับปากแกเลย พอรับปากแกปุ๊ปเหมือนแกทิ้งร่างเลยนะ แกไม่ดื้อ ไม่กิน เงียบ เหมือนแกโอเคแล้ว
เหมือนแกหมดห่วงมั้ย ?
สุนารี : ใช่ เหมือนแกหมดห่วง แกรอให้เรารับปาก เพราะแกรู้ว่าถ้าเรารับปากแล้วจะไม่คืนคำ ถ้าเราพูดว่าจะทำอะไร เราจะทำ
อันนี้รับปากตอนที่ไปดูแลในช่วง 2 เดือนแล้วก่อนที่ท่านจะไป หรือว่ารับปากก่อนที่เราจะไปดูแลท่าน 2 เดือน ?
สุนารี : รับปากตอนที่เราไปดูแลท่าน เขาจะพูดอยู่ตลอดแล้วเราก็ยังไม่รับปาก เราก็คิดว่าเราก็ไปซื้อที่ไว้ แล้วเขาถึงขั้นเพ้อตอนที่เราไม่อยู่ พอรับปากแกเราเข้าใจว่าแกโล่ง ยังไงพี่น้องก็มีคนดูแล
มีคำสั่งเสียสุดท้ายมั้ย เห็นว่าท่านมีทิ้งท้ายไว้เหมือนกัน ?
สุนารี : จริงๆ ไม่มี สุดท้ายแม่หมดลมไปเฉยๆ เพราะว่าในระหว่างนั้นเราก็วางแผนจะบวชลูกกับหลานจาก 3 องค์ เป็น 9 องค์ คือบวชพระตอนที่แม่ยังแข็งแรงอยู่ยังแค่หลงๆ ยังไม่ได้อ่อนมาก วางแผนว่าแม่จะบวช 9 องค์วันที่ 19 แต่ดูแล้วเหมือนแม่อ่อนลงเรื่อยๆ เลยขยับมา 15 พอดีลูกคนเล็กสอบเสร็จวันที่ 14 บ่าย ก็บึ่งรถไป มันเต็มที่แล้วมันย่นมาใกล้สุดได้วันที่ 15 ก็ไม่ทัน แม่หมดลมวันที่ 9
เห็นว่าในอ้อมแขนพี่สุเลย ?
สุนารี : ใช่ค่ะ ลูก 8 คนอยู่หมดแล้วก็หลานชาย 2 คนที่เขาเลี้ยงมา
ระยะเวลาหลังจากที่ขอแม่สุว่าให้ดูแลทุกคนนะอีกซักกี่วันคุณยายท่านถึงทิ้งร่างท่านไป ?
สุนารี : หลังจากที่แม่กลับมาทำคลิปขายบ้าน ก่อนวันที่จะทำคลิปจะโพสต์คลิปว่าฉันจะปล่อยบ้านนะ ฉันจะไปทำหน้าที่ลูก วันนั้นขับรถมาจากโคราชมาถึงกรุงเทพฯ รับปากแม่เสร็จแล้วพอมาถึงกรุงเทพฯ ปุ๊ป ก็ตั้งสติว่าจะพูดยังไง ทำคลิปยังไงจะไม่โดนปิดกั้น คนจะได้เห็นเยอะๆ แล้วเราก็จะได้ขายบ้านได้ วันนั้นแหละจนถึงวันที่ 9 ซึ่งแม่จำไม่ได้แล้วว่าแม่โพสต์วันไหน แต่มันไม่กี่วัน น่าจะไม่ถึง 10 วัน
แม่สุบอกว่าเสียใจยังทำได้ไม่ดี ทำไมแม่สุถึงคิดยังงั้น ?
สุนารี : บางทีเราอยากได้อะไรเยอะไปหรือเปล่า หรือว่าการที่เราคิดว่าเราเป็นหัวหน้าครอบครัวเราต้องหาเงินอย่างเดียวโดยที่เราจัดการเวลาไม่ดีเลย จริงๆ เราสามารถจัดได้นะที่จะแบ่งเวลาไปดูเขาให้มากกว่านี้ เราก็ทำได้ แต่ทำไมเราไม่ทำ เราเห็นว่าเขาทนได้ เราเห็นว่าไม่เป็นไรลูกมีงานก็ทำไปเถอะแม่เข้าใจ เห็นว่าแม่เข้าใจก็เลยทำหน้าที่ตรงนี้ พอเวลามันเหลือน้อย เราเห็นแม่เราอ่อนลงทุกวันๆ เรารู้เลยว่าทำไมเราไม่กลับไปดูแลแม่เราตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ทำไมเราไม่จัดสรรเวลาให้ดีกว่านี้ทำไมเราไม่ทำ เรามีข้ออ้างสารพัดเลย เราก็โหยหาแกนะเราก็อยากกอด เราอยากทำกับข้าวให้แกกินเหมือนพี่ๆ เรา เวลาเรากลับไปเราก็พูดกับพี่ๆ เรานะว่าฉันน่ะอิจฉาพวกป้าจังเลยได้อยู่ดูแลแม่ แต่หนูต้องเป็นทัพหน้าออกไปทำงานหาเงิน หนูเข้าใจแต่ว่าเอาจริงๆ หนูอิจฉา หนูอยากได้มีโอกาสปรนนิบัติแม่เหมือนป้าๆ ก็พูดกับพี่ๆ อยากให้ทุกคนมองเรื่องพี่สุเป็นกรณีศึกษาเผื่อมันจะมีประโยชน์และจัดสรรเวลาได้ จะได้ไม่ต้องมานั่งรู้อย่างงี้ พี่สุก็ว่าพี่สุทำเต็มที่แล้วแต่พอถึงเวลาจริงๆ เรารู้สึกมันยังน้อยมาก เพราะฉะนั้นยังมีเวลาแม่ยังแข็งแรง พ่อยังแข็งแรง ดูแลเขาเถอะ เงินสำคัญค่ะแต่ว่าสุดท้ายวันที่แม่ป่วย ทำไมเราหยุดงานได้ตั้ง 2 เดือนกว่า เงินไม่เข้ากระเป๋าเราซักบาททำไมเราหยุดได้ล่ะ ถูกมั้ย ก็ทำไมเราไม่จัดสรรแต่แรกล่ะ เงินก็เข้าบ้างอะไรบ้างมีเวลาให้พ่อแม่บ้างมันก็ทำได้ควบคู่กันไป อยากให้ทุกคนเป็นแง่คิดนะคะ
อีกเรื่องนึงก็เป็นเรื่องน่าตกใจหลังจากประกาศขายบ้านหรูแต่จริงๆ ไม่ต้องขายก็ได้มั้ย เพราะว่าแม่ก็ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวทำงานที่กรุงเพทฯ ?
สุนารี : มีหลายคนบอกว่าไม่ต้องขายก็ได้วิ่งไปวิ่งมาเอา แต่บ้านเรามีหมา 30 กว่าตัว มีแม่บ้าน 2 คนอยู่บ้าน ถ้าเราไปอยู่โคราชเป็นหลักถึงวันนี้แม่ไม่อยู่แล้ว เราก็ต้องอยู่ที่โคราช แม่จะไม่ทำให้ยายรู้สึกว่าพอยายไม่อยู่ก็เหมือนเดิมไม่ทำ แม่ก็ยังต้องไปอยู่โคราชเป็นหลักเวลามีงานก็วิ่งกลับมาทำงาน ทีนี้บ้านสองหลังเราต้องย้ายหมาย้ายแม่บ้านไปโคราชหมดเลยแล้วต้องมาจ้างคนดูแลอีกมันก็สิ้นเปลือง ขายได้เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นตอนนี้ก็ทยอยขนของ
ทุกวันนี้พักที่โคราชเป็นหลักเลย รับปากทำตามคำที่บอกคุณยายว่าจะกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด ?
สุนารี : ใช่ค่ะ แต่ยายไม่อยู่ก็ต้องอยู่ ยิ่งยายไม่อยู่แม่ยิ่งต้องไปให้เร็วที่สุด เพราะรับปากไปแล้ว
แล้วที่ที่อุทัยธานีที่บอกว่าจะเป็นบั้นปลายเป็นแพลนขายต่อไปมั้ย ?
สุนารี : อันนั้นที่นามีคนดูแลเขาทำนาแล้วแบ่งกัน ให้เขาทำนาแล้วแบ่งเป็น 3 ส่วน เราได้ข้าวมาส่วนหนึ่ง คนที่ทำได้ไป 2 ส่วน ส่วนที่ไร่เดี๋ยวแม่กำลังจะวางแผนว่าแม่อาจจะลงผลไม้ เก็บไว้ให้ลูก
ทุกวันนี้มาทำงานนั่งรถมาจากโคราช ?
สุนารี : แม่ขับรถเอง วันที่ 3 กลับโคราชแล้ว ไม่เหนื่อยแต่มีความสุข ถ้ารู้สึกง่วงจะแวะปั๊มแล้วจะนอนเลยแล้วก็ตั้งปลุกนอนครึ่งชั่วโมงหรือชั่วโมงนึง
ตอนนี้บ้าน 2 หลังก็ยังไม่ได้ขายทำไม่นอนที่กรุงเทพฯเพื่อพักผ่อน ?
สุนารี : ก็นอนเวลาทำงานแต่พอถ้าว่าง 3 วัน วันรุ่งขึ้นแม่ต้องกลับ ถ้าบ้านขายได้ก็ไปนอนบ้านลูกชาย บ้านลูกชายอยู่ติดกันอยู่ถนนราชพฤกษ์เหมือนกัน ที่ร้านก็ยังอยู่ตรงซอยไทรม้าที่เป็นสต๊อกปลาร้าร้านเฟอร์นิเจอร์ของลูกชาย
ลูกชายน้องฮีโร่กับอาเธอร์บวชให้กับคุณยายด้วย ?
สุนารี : เด็กๆ น่ารักแล้วก็มีหลานๆ แล้วก็มีลูกชายของแม่เขานั่นแหละ รวมกันบวชทั้งหมด 9 องค์ เป็นบวชพระนะคะ 9 องค์บวชพระให้ยาย ส่วนบวชหน้าไฟมีอีก 3 องค์ต่างหากไม่เกี่ยวกัน
อายุเท่าไหร่กันบ้าง ?
สุนารี : คนโตเข้าอายุ 29 ย่าง 30 แล้ว ส่วนคนเล็ก 28 เต็มย่าง 29 เพราะว่ามีหัวปีท้ายปี
อัพเดทหน่อยครั้งที่แล้วบอกว่ามีคนมาคุย 3 แบบ 3 สไตล์ 3 ประเทศเลย ตอนนี้เหลือกี่คนหรือว่าเพิ่มขึ้น ?
สุนารี : เพิ่มค่ะ (หัวเราะ) เขาคงเห็นใจเรานั่นแหละ พูดถึง 3 หนุ่มที่ยังติดต่อกันอยู่เป็นเพื่อนกัน ยังแค่เพื่อนไม่มีอะไรคืบหน้าไปกว่านี้ มีเดนมาร์ก นอร์เวย์ แล้วก็สเปน พอดีช่วงที่กลับไปดูคุณแม่ เราไม่ได้ตอบเขาเลย แม้แต่เพื่อนรักๆ กัน.