แฟนคลับฮือฮา “นิชคุณ” จ่อคัมแบ็กในรอบ 5 ปี ยิ้มปริ่มรับตำแหน่งคุณลุงเจ้าเสน่ห์
หนุ่มนักร้องสุดฮอตอย่าง “นิชคุณ หรเวชกุล” หรือ “นิชคุณ 2PM” เปิดเผยทุกประเด็นตั้งแต่เรื่องได้รับตำแหน่งเป็นคุณลุง จากสมาชิกในบ้านที่มีเพิ่มขึ้นมา และยังย้อนเล่าเส้นทางก่อนเดบิวต์เป็นเด็กฝึกหัดค่าย JYP ที่งานนี้ไม่ง่าย แถมยังเคยคิดท้อ และอัพเดตสถานการณ์โควิดอุปสรรคที่ทำเอางานหาย จนถึงกลับมารวมตัวกับเพื่อน 2PM หลังจากห่างหายกันไป 5 ปี ทุกประเด็นในรายการคุยแซบSHO
ไม่ได้กลับมาเมืองไทย 2 ปีแล้ว ?
นิชคุณ : คิดถึงเมืองไทย แล้วก็คิดถึงครอบครัวด้วย กลับมาครั้งนี้มีสมาชิกใหม่ในครอบครัวด้วย อยู่ที่เกาหลีใต้ มีช่วงนึงบินไปถ่ายหนังที่ฮ่องกง มีจีนด้วย
ช่วงโควิดที่เกาหลีเป็นยังไง ?
นิชคุณ : ผมเป็นคนชอบอยู่บ้าน พยายามไม่ไปที่ที่มีคนเยอะ แออัด มีไปฟิตเนส ไปกินข้าวข้าวนอก 3 ทุ่มปิดหมดเลยไปยิมก็ต้องใส่แมสก์ อึดอัดมาครับแต่ก็ต้องดูแลตัวเอง
โควิดกระทบอะไรกับเรามากที่สุด ?
นิชคุณ : อิสรภาพในการบิน การไปเที่ยว บินไปไทย-เกาหลี หรือเพื่อไปทำงาน ส่วนใหญ่ผมทำงานต่างประเทศ ช่วงนี้บินบ่อยไม่ได้งานก็ลดลง แต่ได้พักมากขึ้น
ข่าวโควิดที่ไทยห่วงอะไรมากที่สุด ?
นิชคุณ : ห่วงคุณแม่ คุณยายครับผม จริงๆ คุณยายไม่ค่อยได้ออกจากบ้านเท่าไหร่ค่อยยังชั่ว แต่คุณแม่ชอบออกไปทำงาน ไปออฟฟิศ เข้าบริษัท ผมจะโทรไปบอกแม่ แม่อยู่บ้านเถอะถ้ามีอะไรให้พี่ชายเอาเอกสารมาให้เซ็น แม่ก็บอกต้องไปดูแลพนักงาน แต่มีมาตรการมีพนักงานไม่กี่คนเข้ามาในออฟฟิศได้ มีการตรวจอยู่ตลอด
กลับมาไทยคราวนี้อยากไปเที่ยวที่ไหน ?
นิชคุณ : ผมอยากไปหัวหินครับ ตอนผมเด็กที่อยู่เมืองไทย ปิดเทอมทุกๆ ครั้งก็จะพากันไปทั้งครอบครัวหลายๆคน มันเป็นความทรงจำที่ยังติดอยู่ในหัวผมถ้ามาเมืองไทย ถ้ามีเวลาต้องไปหัวหิน ครั้งนี้หวังว่าจะได้ไป ไปนั่งฟังคลื่นดูทะเลนานๆ ทีได้ไปเที่ยวเพราะตอนเด็กผมกิจกรรมเยอะมากแทบจะไม่มีเวลาเลย พอปิดเทอมคุณพ่อคุณแม่จะพาไปเที่ยว
ตอนนี้มีสมาชิกเพิ่มอีก 1 คน ?
นิชคุณ : ใช่ครับ ยังไม่ได้เจอเลย เพราะผมเพิ่งกลับมาได้ไม่กี่วัน กลับมาก็โปรโมตหนังเลยยังไม่มีเวลา แล้วก็ไม่อยากให้พาน้องออกมาข้างนอกเพราะยังเด็กอยู่ เดี๋ยวไปหาที่บ้าน ต้องรอทำงานให้เสร็จก่อน
ได้ตำแหน่งเป็นลุง ?
นิชคุณ : แฟนคลับเรียกผมว่าเป็นลุงตั้งแต่หลายปีก่อนแล้วได้เป็นลุงจริงๆ ความรู้สึกมันแปลกๆ นิดนึงที่น้องคนสุดท้องของครอบครัวผมไปก่อนคนแรกเลย แต่งก่อนมีลูกก่อน เรา 3 คนที่เหลือก็คนต่อไปจะเป็นใคร เพราะเห็นแม่มีความสุขกับหลานมาก
อยากมีหลานให้แม่เหมือนกัน ?
นิชคุณ : ใจผมเป็นคนรักชอบอยู่กับเด็กแต่มันมีหลายปัจจัยจะมีลูกมีครอบครัว ต้องเจอคนที่ใช่จริงๆ มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่เจอกันไม่ถูกกันเลิกกันได้ ยิ่งมีลูกมีครอบครัวยิ่งต้องคิดให้เยอะกว่านี้
เห่อหลานมั้ย ?
นิชคุณ : ผมไม่เคยไปซื้อเสื้อผ้าเด็กมาก่อน แต่ครั้งนี้ผมคิดว่าจะไปซื้อเสื้อผ้าเด็กให้น้องจินเจอร์ ผมคิดว่าซื้อใหญ่ๆ ไปก่อน ของที่ผมแบกกลับมาได้
ในสายตายังมองว่าน้องสาวเป็นเด็กอยู่เหมือนเดิม ?
นิชคุณ : เพิ่งเจอกันเมื่อวันสองวันที่แล้วทานข้าวด้วยกัน รูปร่างหน้าตาเค้ายังเป็นเด็กคนเดิมที่ผมรู้จัก แต่การวางตัวการพูดจาเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเยอะเลย อาจจะเป็นเพราะความรับผิดชอบที่เค้ามีมากขึ้น เพราะว่าการมีลูก ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่มาก มันเห็นได้จากการพูดจา รู้สึกภูมิใจและดีใจกับน้องด้วย หวังว่าเชอรีนจะเลี้ยงน้องจินเจอร์มาให้เป็นคนที่ดีนะคะ
ทำไมถึงไปอยู่ใน 2PM ได้ ?
นิชคุณ : ตอนนั้นผมเรียนที่อเมริกา มีเคป๊อปคอนเสิร์ต ผมไปกับเพื่อนๆ ชาวเกาหลี มีแมวมองมาเห็นผมอยากให้ไปออดิชั่นที่เกาหลี ตอนนั้นก็คิดอยู่เพราะผมก็ร้องไม่เป็นเต้นก็ไม่เป็น พูดภาษาเกาหลีก็ไม่ได้ ไม่มีใครที่ผมรู้จักอยุ่ที่เกาหลีเพื่อนหรือครอบครัวมันก็คงยาก ก็ไปออดิชั่น ไม่รู้ว่าเค้าชอบผมจากอะไรร้องก็ไม่ได้เต้นก็ไม่ได้ ไม่มีทักษะทาเลนต์ในด้านนี้เลย ไม่ได้หวังอะไรแต่ 2-3 อาทิตย์ให้หลังเค้าก็โทรกลับมา บินมาเดือนหน้าเลยได้มั้ยเริ่มฝึกซ้อม
ตอนนั้นกดดันมั้ย ?
นิชคุณ : กดดันครับ รู้สึกเหมือนมองอนาคตไม่เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะต้องไปประเทศใหม่ที่ผมไม่เคยไปมาก่อนต้องไปเรียนรู้ตั้งแต่ 0 ขึ้นมา เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างใหมหมดเลยครับ ตื่นเต้น แต่คุณพ่อคุณแม่บอกว่าโอกาสมันเป็นหนึ่งในล้าน ลองไปเถอะ ถ้าไม่ได้ก็กลับมาเรียน ลองอยู่สักปีนึง
เป็น 2PM ได้เพราะคุณพ่อคุณแม่ ?
นิชคุณ : เพราะคุณยายครับผม คุณยายชอบ Full House เป็นแฟนพี่เรน ตอนแรกก็ไม่มีใครให้ไป เค้าก็ถามไปบริษัทไหน บอกว่า JYP คุณยายบอกไปเลยเดี๋ยวนี้ ก็เลยไป
ตอนแรกลังเลว่าจะถูกหลอกมั้ย ?
นิชคุณ : ตอนนั้นคิดว่ามิจฉาชีพแน่นอน อยู่ดีๆ เค้าเข้ามาหาผมที่โรงแรม เค้าชวนไปถ่ายออดิชั่นกันมั้ย ผมก็ไม่ได้ไป คุยกันประมาณอาทิตย์กว่าๆ ก็มาถ่ายทำออดิชั่นกันที่ร้านกาแฟ เค้าก็ให้ผมร้องเต้น โพสต์ แนะนำตัวเอง
ตารางการซ้อมเป็นยังไง ?
นิชคุณ : ในบริษัทมีห้องซ้อมเต้น มีห้องซ้อมร้อง ข้างบริษัทจะมีหอ เหมือนไปอยู่โรงเรียนประจำครับ เช้าเข้าบริษัทมีตอกบัตร ซ้อม เรียน พักเที่ยง ต้องอยู่ถึงประมาณ 4 ทุ่ม ถึงจะตอกบัตรกลับบ้านได้ มีต้องออกไปเรียนภาษาเกาหลี ก็ต้องกลับมาเรียนร้อง เต้น หรือแร็ป
เวลาท้ออะไรเป็นกำลังใจให้ไปต่อ ?
นิชคุณ : ครอบครัว สิ่งแรกเลย ไปอยู่เกือบ 6 เดือนผมบอกกับคุณพ่อคุณแม่ว่าอยากจะกลับไปเรียนต่อที่อเมริกา พ่อบอกลองอยู่ให้ครบปีก่อน ถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อยคิดกันอีกทีนึง แต่สิ่งที่ขับเคลื่อนผมจริงๆ คือคำว่าห่วย คำว่าทำไม่ได้ คำพวกนี้มันทำให้ผมรู้สึกโกรธ ความโกรธมันเป็นแรงผลักดันให้ผมที่ทำยังไงก็ได้ที่จะไม่ได้ยินคำๆ นี้ต่อไป
มีคนมาพูดแบบนี้ด้วยเหรอ ?
นิชคุณ : มีครับ เพราะว่าทุกๆ เดือนจะมีการเทสต์ เหมือนขึ้นเวที เราจะเลือกเพลงที่ซ้อมร้อง ซ้อมเต้น แล้วทั้งเดือนนั้นก็คือซ้อมแค่นั้น ทุกๆ เดือนจะมีการสอบเค้าก็จะถ่ายวิดีโอไว้เพื่อดูพัฒนาการของแต่ละคน คนที่บ่นเราคือคนที่คอยดูแลเด็กฝึกหัด ตอนนั้นมีประมาณ 40 กว่าคน มันเหมือนการแข่งขันเลย ถ้าเค้าดูแล้วไม่มีการพัฒนาเค้าก็ตัดออก หรือก่อปัญหา ในบริษัทผมเค้าจะดูเรื่องฝีมือกับการเป็นคนดีหรือเปล่า เรื่องนิสัย เพราะถ้าเดบิวต์มันจะมีผลกระทบกับกลุ่มกับบริษัท เค้าดูหลายๆ อย่างมากเลย
เป็นเด็กฝึก 2 ปีครั้งได้เดบิวต์เลย ?
นิชคุณ : ใช่ครับ ถือว่าสั้น ซึ่งมาตรฐานประมาณ 4-5 ปี ณ ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป ก่อนหน้านั้นมันจะมีถ่ายรายการก่อน เป็น 2AM กับ 2PM คนจะงงมากเราอยู่วงไหนกันแน่
สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยคนไทยกรี๊ดมาก ?
นิชคุณ : มีกระแส ตั้งแต่ผมเริ่มไป ก่อนจะเดบิวต์ตั้งแต่เป็นเด็กฝึกหัดอยู่ พี่เรนเค้ามีโฆษณาไทยนมเปรี้ยวไทยตัวนึงที่เค้ากำลังจะถ่าย ทางบริษัทบอกค่ายเรามีเด็กไทยคนนึงเอามาถ่ายด้วยกันได้มั้ย ผมก็ถ่ายโฆษณาตัวนั้นเต้นอยู่ข้างหลังอยู่ไกลๆ นิดนึง หลังจากนั้นก็มีคนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้นว่าเด็กคนนั้นคือเรนแห่งประเทศไทย เรน 2 ก็เลยได้รับความสนใจมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เป็นเด็กฝึกหัดแล้ว
แต่ช่วงนึงที่เบรกวงไป ?
นิชคุณ : มีช่วงนึงที่เพื่อนเข้ากรมไป ช่วงนั้นประมาณเกือบ 5 ปี ก็มีกลับมาทำงานที่เมืองไทยบ่อยขึ้น มีออกโซโลอัลบั้มที่ญี่ปุ่นที่เกาหลี ทำงานเดี่ยวไป
มีข่าว 2 PM กลับมา ?
นิชคุณ : เมื่อปีที่แล้วครับ เราคุยกันมาตลอดว่าเราจะคัมแบ็กหลังจากที่ทุกคนออกมาจากกรม เมื่อปีที่แล้วเราก็ได้ปล่อยเพลงคัมแบ็กออกมา มันเป็นความรู้สึกที่พี่น้อง 6 คนเพื่อนที่สนิทกันมากๆ เหมือนนัดกันไปกินข้าว มันคือความรู้สึกอย่างนั้น เรา 6 คนรักกันมาก เป็นเหมือนครอบครัวนึงเลย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เราไม่ได้หวงว่ามันจะปังขนาดไหนทำรายได้มากน้อยขนาดไหน แต่นี่คือสิ่งที่ทำให้พวกเรามีความสุขคือการมารวมตัวกัน ทำงานด้วยกัน
คัมแบ็กจองฮอลล์ต้องแคนเซิลหมด ?
นิชคุณ : ต้องแคนเซิลหมดเพราะโควิด เราตั้งใจว่าคัมแบ็กออกอัลบั้มแล้วเราจะทัวร์ทุกๆ ประเทศที่เราไปได้ เพราะว่าอยากจไปเจอแฟนๆ มาก เพราะห่างหายไป 5 ปี แฟนๆ ก็คิดถึงเราก็คิดถึงแฟนๆ สำหรับศิลปินการเล่นคอนเสิร์ตเป็นอะไรที่สนุกที่สุดแล้ว มันมีความสุขครับผม
จะไปทัวร์ที่ไหนต้องวางแผนกับค่าย ?
นิชคุณ : ค่ายจะจัดแผนมาให้ อยากทำอันไหนบ้าง ถ้าไม่ติดโควิดจะมีคอนเสิร์ตแน่นอน ตอนนี้เบรคไว้ก่อน
ต้องกลับมาซ้อมเต้นอีก ?
นิชคุณ : ใช่ครับ ถ้าจะถามเรื่องอายุไม่เท่าไหร่ครับ เราทุกคนในช่วงเวลาที่ไม่ได้เป็นวงทุกคนจะดูแลสุขภาพของตัวเองดีมาก แต่สิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดเวลาซ้อม บริษัทจะมีกฎไว้ว่าอยู่ในบริษัทต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา มันลำบากมากเวียนหัวมาก เพราะต้องเต้นอยู่กับหน้ากาก ตอนแรกผมคิดว่าผมติดเวลาเต้นไปแล้วมึนหัวหายใจไม่ออก แต่พอเปิดหน้ากากโอเคขึ้น
จะมีคอนเสิร์ต 2PM เร็วๆ นี้มั้ย ?
นิชคุณ : อันนี้ผมไม่สามารถสัญญาได้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ มันอยู่ที่สถานการณ์โควิด แต่ละคนก็ยุ่งอยู่ในการแสดง เราคุยกันอยู่แล้วว่าถ้ามีเวลาไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเราจะกลับมาเจอกัน รอสถานการณ์ดีขึ้น
มองอนาคตเอาไว้ยังไง ?
นิชคุณ : ผมว่าทำทุกวันให้ดีที่สุดดีกว่าครับผม เพราะว่าผมตั้งแต่เดบิวต์เราตั้งไว้เลยว่า อนาคตเราต้องได้ที่หนึ่งภายในกี่ปี ด้วยความโชคดีมันก็ได้ตามที่เราตั้งไว้ ถ้าผมตั้งว่าเป้าหมายที่สูงที่สุดของผมคืออันนี้ มันก็จะทำให้หยุดแค่นั้น ทุกๆ ครั้งที่มีงานใหม่เข้ามาผมก็ทำงานนั้นให้ดีที่สุด