ขับรถยนต์ระบบ Autopilot หรือระบบใด ก็ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น!!…
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ได้นำเอาระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ มาติดตั้งในรถยนต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่เป็นจำนวนมาก อาทิ ระบบเตือนการชนด้านหน้าและหยุดรถอัตโนมัติ ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางการเดินรถ ระบบควบคุมความเร็วแปรผันตามรถคันหน้า รวมไปถึงระบบที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้า เช่น ระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autopilot) เพื่อให้ความสะดวกสบายกับผู้ขับขี่ และลดจำนวนการเกิดอุบัติบนท้องถนน แต่ยังมีคำถามว่า หากรถยนต์ที่มีระบบขับขี่อัตโนมัติเกิดอุบัติเหตุ ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น
สตช.ระบุว่า กฎหมายของประเทศไทย ได้กำหนดผู้รับผิดชอบเนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากยานพาหนะไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 บัญญัติไว้ว่า
“บุคคลใดครอบครองหรือควบคุมดูแลยานพาหนะอย่างใดๆ อันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล บุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่ยานพาหนะนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่า การเสียหายนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือเกิดเพราะความผิดของผู้ต้องเสียหายนั้นเอง”
โดยผู้ที่ควบคุมยานพาหนะ ไม่ว่าจะมีระบบควบคุมอัตโนมัติหรือไม่ ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น หากอุบัติเหตุมีต้นเหตุมาจากการขับขี่ของยานพาหนะคันที่ตนขับขี่หรือควบคุมอยู่ อีกทั้ง หากเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวส่งผลให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ผู้ที่ขับขี่ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดตามกฎหมายได้ และอาจถูกดำเนินคดีในความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แล้วแต่กรณี
จึงขอเตือนประชาชน หากท่านใช้งานรถยนต์ที่มีระบบช่วยเหลือการขับขี่ – ระบบขับขี่อัตโนมัติ จะต้องมีสติ และพร้อมที่จะเข้าควบคุมรถตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน