หรูหรามีระดับ เน้นงานดีไซต์ “มาเซราติ” ลุยตลาด “รถยนต์ไฟฟ้า” เดินหน้าผลิตรถยนต์ที่ทำขึ้นในอิตาลี 100% มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน…
มาเซราติ ยนตรกรรมหรูแบรนด์แรกของอิตาลี ที่พัฒนาและผลิต รถยนต์ไฟฟ้า ประกาศเดินหน้าตามแผนสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเน้นนวัตกรรม ดีไซน์ คุณภาพ เทคโนโลยี และความหรูหรา ในฐานะผู้วาดอนาคตของยานยนต์สุดหรู TOPPIC Time จะพาไปรู้จัก “รถยนต์ไฟฟ้า” สุดหรู ภายใต้แบรนด์“มาเซราติ”
“มาเซราติ” เป็นรถยนต์หรูภายใต้กลุ่มสเตลแลนทิสเพียงแบรนด์เดียว และดำเนินการตามแผนฟื้นฟูด้านการเงินเชิงบวก ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2564 ปัจจุบันมีโมเดลทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และมีความชัดเจนเรื่อง รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งเป็นแนวทางที่จะทำให้ มาเซราติ รักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มรถหรู โดยมีปริมาณการผลิตและผลกำไร สอดคล้องกับตำแหน่งผู้นำตลาดที่เป็นเอกลักษณ์
ทั้งนี้ “มาเซราติ” เชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในเทคโนโลยี รถยนต์ไฟฟ้า และทำทุกวิถีทาง เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน พร้อมนำเสนอสิ่งที่เหนือความคาดหมายของลูกค้า โดยเริ่มประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่น คือ “กรันทูริสโม โฟลกอเร” และ “เกรคาเล่ โฟลกอเร” ซึ่งชื่อ ‘โฟลกอเร’ สื่อถึงรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน และเริ่มจำหน่ายในอิตาลี รวมถึงและสหภาพยุโรป
1. “กรันทูริสโม โฟลกอเร” เป็นสุดยอดยนตรกรรมที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ได้รับการถ่ายทอดจากการแข่งฟอร์มูล่า อี ซึ่ง มาเซราติ เป็นแบรนด์ที่มีจิตวิญญาณแห่งมอเตอร์สปอร์ต และการแข่งอยู่ในสายเลือด และเป็นผู้ผลิตจากอิตาลีรายแรก ที่เข้าร่วมการแข่ง ฟอร์มูล่า อี มาตั้งแต่ปี 2566
2. “กรันคาบริโอ โฟลกอเร” มีกำหนดเปิดตัวภายในปีนี้ ตามหลังรุ่นเครื่องยนต์สันดาป โดยเส้นทางสู่ยุค รถยนต์ไฟฟ้า จะมีความต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัว เอ็มซี20 โฟลกอเร ในปี 2568 ตามด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ E-UV BEV ในปี 2570 และควอตโตรปอร์เต้ BEV ในปี 2571
อย่างไรก็ตาม มาเซราติ ทุกรุ่น ได้รับการออกแบบ พัฒนา และผลิตในประเทศอิตาลีทุกขั้นตอน ตอกย้ำถึงการสืบสานจุดเด่นจากอดีตของแบรนด์ ด้วยการผสานผสานความประณีตและนวัตกรรมอย่างลงตัว โดยมีสำนักงานใหญ่ที่โมเดนา ซึ่งเป็นฐานการผลิต เอ็มซี20 (MC20) และ เอ็มซี 20 แชโล (MC20 Cielo) พร้อมจัดสรรพื้นที่ เพื่อรองรับการผลิตรุ่นย่อย โฟลกอเร ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนในอนาคต
โดยโรงงานที่ โมเดนา มีโปรแกรมพิเศษชื่อว่า ‘Atelier of the Fuoriserie Personalization Program’ เพื่อรองรับการทำรถยนต์รุ่นพิเศษ ของ มาเซราติ โดยค่ายตรีศูลได้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง กับโรงงานใหม่บนพื้นที่เดิม พร้อมทำการอบรมพนักงานในส่วนของ Fuoriserie Personalization Program
ส่วนโรงงาน Viale Ciro Menotti ดั้งเดิมนั้น ทีมพิเศษของ มาเซราติ ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด กับวิศวกรผู้เชี่ยวชาญกว่า 130 ชีวิต เพื่อพัฒนารถยนต์รุ่นปัจจุบันและอนาคต ตลอดจนการทำงานในห้องปฏิบัติการ เพื่อพัฒนาและทดสอบมอเตอร์ไฟฟ้า นับเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อน มาเซาราติ ให้ยกระดับความหรูของแบรนด์ให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น
ดาวิด กราสโซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มาเซราติ กล่าวว่า…
“เรากำลังเดินหน้าเต็มที่ เพื่อก้าวสู่โลกแห่ง รถยนต์ไฟฟ้า โดยมีโมเดนาเป็นศูนย์กลางการพัฒนา ปัจจุบันมีรถยนต์ไฟฟ้า 100% จำหน่ายแล้วสองรุ่น และจะเปิดตัวอีกรุ่นภายในปีนี้
พร้อมนำเสนอรถยนต์ มาเซราติ ที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยมที่สุด พร้อมสร้างประสบการณ์การขับที่เร้าใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ขณะที่แผนกลยุทธ์ระยะยาวและวิสัยทัศน์ของเรา เป็นผลจากความต้องการสร้างความตื่นตะลึงในโลกของรถยนต์สมรรถนะสูง ด้วยความเป็นเลิศด้านการผลิตตามแบบฉบับอิตาเลียน คุณภาพเหนือระดับ และพร้อมจะสร้างอนาคตใหม่ด้วยโมเดลธุรกิจพิเศษ ที่ลูกค้าเชื่อมั่นได้ว่าจะได้รับรถยนต์ที่ยอดเยี่ยม และสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของค่ายตรีศูล ได้ดีที่สุด”.