ความรักมีพลังอำนาจ และก่อกำเนิด Van Cleef & Arpels เมซงผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงขึ้นในค.ศ. 1906 ซึ่งเป็นเวลาไม่กี่ปีหลังการสมรสระหว่าง อัลเฟร็ด แวน คลีฟ กับ เอสแต็ลล์ อารเปลส์ ที่กรุงปารีส ผลงานเกือบ 30 ชิ้นประกอบไปด้วยเข็มกลัด, แหวน, สร้อยข้อมือ, ของตกแต่งใช้งาน และอื่นๆ อีกมากมาย ร่วมกันแสดงถึงพลังแห่งความรักผ่านผลงานการออกแบบอันเป็นตัวแทน หรือสัญลักษณ์แห่งความรักเลอค่า
นับแต่ก่อตั้ง Van Cleef & Arpels บรรจงยกย่องหลากอารมณ์ และความรู้สึกอันอ่อนหวาน และอ่อนโยนผ่านผลงานสร้างสรรค์หลายต่อหลายชิ้น ดังพบได้มากมายในแผนกจัดเก็บเอกสาร และตัวอย่างผลงานสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตน อาทิเช่น ความรัก ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องประดับชิ้นแรกที่ทำการวางจำหน่ายเมื่อปีค.ศ. 1906 นั่นก็คือหัวใจฝังเพชร และบ่อยครั้งที่แรงบันดาลใจต่างขั้วจะถูกนำมาหลอมรวมอยู่ร่วมกัน อย่างธรรมชาติกับความรัก
นำมาซึ่งการก่อกำเนิดของเหล่าเครื่องประดับนกคู่รักหรือ Lovebird อันเป็นสมญาเรียกขานนกแก้วสายพันธุ์เล็ก และนกหงส์หยกที่มีพฤติกรรมธรรมชาติในการใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกัน “ตราบฟ้าดินสลาย” ซึ่งเริ่มทำการวางจำหน่ายระหว่างทศวรรษ 1940 สำหรับเข็มกลัดจากปีค.ศ. 1945 ชิ้นนี้ วิหคฝังเพชรทั้งสองอยู่ในอากัปเกาะกิ่งไม้ทองคำเฉดเหลือง ประดับพวงดอกระย้าเพชรเจียระไนทรงหยดน้ำสามมิติ คู่รักปักษาเจ้าของดวงตาฝังทับทิมต่างหันหน้าไปยังทิศทางเดียวกันในตำแหน่งชิดใกล้จนดูเหมือนเป็นรูปหัวใจ สัญลักษณ์แห่งความอ่อนหวาน และอ่อนโยน เมื่อมองจากระยะไกล
ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1950 Van Cleef & Arpels นำเรื่องราวความรักระดับตำนาน ซึ่งถูกเล่าขานผ่านเวทีการแสดงสุดคลาสสิกอันเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกมาวิเคราะห์ ตีความ และคัดกรองเศษเสี้ยวแห่งงานรจนามารังสรรค์ขึ้นเป็นเครื่องประดับหลากรูปแบบ จากจุดเริ่มต้นอันได้แก่ คู่เข็มกลัดสองชุด อันดับแรกคือซิราโนกับร็อกซานน์ คู่รักจากบทละคร Cyrano de Bergerac (ซิราโน เดอ แบรเฌอรัก) ของเอ็ดมังด์ โรสตองด์ (ปีค.ศ. 1897) ส่วนอีกชุดคือเข็มกลัดโรเมโอกับจูเลียต คู่รักจากตระกูลคู่แค้นในสุดยอดบทละครรักอมตะของวิลเลียม เช็กส์เปียร์ (ปีค.ศ. 1597) ซึ่งผลงานลำดับหลังเป็นการนำฉากสารภาพรักบนระเบียงคฤหาสน์มาถ่ายทอดสู่คู่เข็มกลัด ซึ่งขึ้นโครงสร้างตัวเรือนด้วยการใช้ทองคำเฉดเหลืองหล่อแบบเป็นเส้นลวด และแถบริบบินสำหรับใช้ดัดทรงตามแบบร่าง ร่วมกับรายละเอียดเสื้อผ้า-หน้า-ผมจากงานฝังทับทิม, ไพลิน, มรกต และไข่มุก ในขณะที่ความเรียบง่ายทางองค์ประกอบโครงสร้างสามารถจุดประกายจินตนาการ และถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกได้อย่างน่าประทับใจ
ผลงานชุดนี้ก็ยังเป็นหลักฐานยืนยันถึงรสนิยมชมชอบของเมซงในการตีความเพื่อรังสรรค์ใหม่ผ่านสไตล์งานออกแบบอันโดดเด่น และในยุคเดียวกันนั้นเองที่ Van Cleef & Arpels ได้สรรค์สร้างเครื่องประดับอีกหลายชิ้นโดยใช้ริบบินทองคำดัดทรงเป็นโครงสร้างตัวเรือน อาทิเช่นเข็มกลัด “ที่รัก” หรือ Dear clip (ปีค.ศ. 1946)