“ซินดี เชา” นักออกแบบเครื่องประดับชื่อดัง ร่วมกับสถาบันเครื่องประดับชั้นสูง Haute École de Joaillerie (โอเตกอล เดอ โฌเญอรี) จัดเวิร์คชอปฝึกอบรมและแนะแนวทางให้กับนักศึกษา 28 คน เป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ ภายใต้หัวข้อ Cire Perdue (ซีร แปรดิว) หรือ “กรรมวิธีหล่อแบบสูญขี้ผึ้ง” หนึ่งในเทคนิคประติมากรรมไขแว็กซ์สำหรับขึ้นโครงตัวเรือนเครื่องประดับ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำให้ “ซินดี เชา” เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
โดยประติมากรรมไขแว็กซ์ ผลงานสร้างสรรค์ของนักศึกษาจากคลาสเวิร์คชอปนี้ ได้ถูกนำมาจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ อันโด่งดังระหว่างการจัดงาน Campus Louvre – La Nocturne
นอกจากการให้ความรู้เทคนิคต่างๆ สำหรับการหล่อแบบและการสลักเก็บรายละเอียดประติมากรรมไขแว็กซ์ “ซินดี เชา” ได้อาศัยแรงบันดาลใจจากคอลเลกชันผลงานของพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ อย่างภาพวาดสีน้ำมัน “มรณกรรมของพระแม่พรหมจารี” หรือ The Death of the Virgin ของการาวักโจ จิตรกรอิตาเลียน ในการแนะนำเหล่านักศึกษาให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ พลิกแพลงเทคนิคต่างๆ ให้มีความร่วมสมัยเพื่อถ่ายถอดอารมณ์ อันเป็นที่ส่งอิทธิพลในแวดวงศิลปะอย่างต่อเนื่องมายาวนานนับศตวรรษ
โดย “ซินดี เชา” ได้เผยว่า…“ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับเชิญจาก Haute École de Joaillerie ให้มาร่วมแบ่งปันมุมมองทางความคิดกับเหล่านักศึกษา พร้อมกับได้ช่วยเพิ่มพูนความรู้ ฝึกฝนพวกเขาให้มีความเชี่ยวชาญในงานประติมากรรมขึ้ผึ้ง รวมถึงเทคนิคต่างๆ ในศิลปะการผลิตเครื่องประดับ การให้โอกาสหนุ่มสาวเหล่านี้ร่วมกันสรรค์สร้างผลงานประติมากรรมขี้ผึ้งสำหรับจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ยังเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นการก้าวเดินไปบนเส้นทางอาชีพในอุตสาหกรรมเครื่องประดับอัญมณี
ขณะเดียวกัน นี่ก็เป็นประสบการณ์ล้ำค่าสำหรับดิฉันด้วยเช่นกัน ที่ได้ถ่ายทอดความรู้ ให้คำแนะนำ ชี้แนะแนวทางนักศึกษาโดยอาศัยวิสัยทัศน์เฉพาะตัวของดิฉันในการหลอมรวมมรดกศิลป์แบบเอเชียเข้ากับทักษะเชิงปฏิบัติของชาวตะวันตก และยังได้เห็นว่า นอกจากจะเล็งเห็นคุณค่า และช่วยกันปกปักษ์อนุรักษ์ทักษะแขนงต่างๆ ตามธรรมเนียมดั้งเดิม พวกเขายังเปิดกว้างให้กับนวัตกรรมล้ำสมัยในขอบข่ายวิชาชีพนี้
การส่งผ่านเพื่อสืบสานมรดกทางหัตถศิลป์ ถือเป็นความปรารถนาในใจของดิฉันมาตลอด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ แบ่งปันความรัก และความรู้ที่ดิฉันมีอยู่ไปสู่หนุ่มสาวผู้เปี่ยมพรสวรรค์ด้านศิลปะในรุ่นต่อไปในอาณาจักรแห่งธุรกิจเครื่องประดับอัญมณี ซึ่งมีวิวัฒนาการรุดหน้าอย่างต่อเนื่องไม่สิ้นสุด”