มิชลินไกด์ จ่อเปิดรายชื่อร้านอาหาร-สตรีทฟู้ด อร่อยลิ้นทุกประเภทอาหาร จนได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ปี 2567 รวม 196 ร้าน กระจายทั่วประเทศในวันที่ 13 ธันวาคมนี้
‘มิชลินไกด์’ เตรียมประกาศดาวมิชลิน
เว็บไซต์ MICHELIN Guide เตรียมประกาศผลรางวัลดาวมิชลินในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ ในรายชื่อร้านอาหารและสตรีทฟู้ดคุณภาพดี จากการคัดเลือกให้ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ (Bib Gourmand) ประจำปี 2567 รวมทั้งสิ้น 196 ร้าน จำนวนนี้ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ครั้งแรก 32 ร้าน เป็นร้านที่ติดอันดับในคู่มือ ‘มิชลินไกด์’ ประเทศไทย ครั้งแรก 28 ร้าน และร้านที่ปีก่อนอยู่ในประเภท MICHELIN Selected 4 ร้าน
นอกจากนี้ มิชลินไกด์ ยังจะประกาศร้านที่ติดอันดับครั้งแรก 12 ร้าน ตั้งอยู่ที่เกาะสมุย และสุราษฎร์ธานี เป็นสองจุดหมายปลายทางใหม่ที่คู่มือ ‘มิชลินไกด์’ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2567 (The MICHELIN Guide Thailand 2024) ขยายขอบเขตเข้าดำเนินการสำรวจและจัดอันดับเป็นปีแรก
ทั้งนี้ ‘มิชลินไกด์’ มอบสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ แสดงภาพ ‘บิเบนดัม’ หรือ ‘มิชลินแมน’ ให้แก่ร้านอาหารและร้านอาหารริมทาง หรือ “สตรีทฟู้ด” ซึ่งผู้ตรวจสอบของมิชลินไกด์ พิจารณาแล้วว่านำเสนออาหารคุณภาพดีในราคาที่ย่อมเยาคุ้มค่า
“ประเทศไทยเป็นประเทศที่สามารถหาอาหารคุณภาพดีทานได้ในราคาประหยัด ผู้ตรวจสอบของมิชลินไกด์ ยังคงตื่นตาตื่นใจที่ได้ค้นพบอาหารคุณภาพเยี่ยมหลากหลายรูปแบบในราคาสบายกระเป๋าทั่วทุกภูมิภาคของไทย รวมถึงเกาะสมุยและสุราษฎร์ธานี และหวังว่ารายชื่อร้านอาหารที่ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ จะจุดประกายให้นักชิมและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เกิดแรงบันดาลใจที่จะออกเดินทางไปค้นพบและเพลิดเพลินกับอาหารคุณภาพดีในราคาย่อมเยาคุ้มค่าตามเมืองใหญ่ในภูมิภาคต่าง ๆ ของไทย” เกว็นดัล ปูลเล็นเนค ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลินไกด์’ ระบุ
มิชลินไกด์ จัดร้านอร่อย กระจายทั่วไทย
ร้านอาหารที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ประจำปี 2567
– ร้านในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 68 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 7 ร้าน)
– พระนครศรีอยุธยา 15 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 2 ร้าน)
– เชียงใหม่ 27 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 3 ร้าน)
– ภาคอีสาน 38 ร้าน ขอนแก่น มี 13 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 2 ร้าน)
– นครราชสีมา 10 ร้านอยู่ (ติดอันดับครั้งแรก 1 ร้าน)
– อุบลราชธานี 6 ร้าน
– อุดรธานี 9 ร้าน
– พังงา 11 ร้าน
– ภูเก็ต 25 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 1 ร้าน และขยับมาจากประเภท MICHELIN Selected 2 ร้าน)
– เกาะสมุยและสุราษฎร์ธานี 12 ร้าน (เกาะสมุย 4 ร้าน และสุราษฎร์ธานี 8 ร้าน)
ร้านอาหารที่ผ่านการคัดเลือก ได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ครั้งนี้ ครอบคลุมประเภทอาหารที่หลากหลายถึง 13 ประเภท ได้แก่ อาหารจีน, อาหารยุโรปร่วมสมัย, อาหารอีสาน, อาหารญี่ปุ่น, ก๋วยเตี๋ยว, อาหารเหนือ, อาหารทะเล, อาหารใต้, อาหารริมทาง, อาหารไทย, อาหารไทยร่วมสมัย, อาหารไทย-จีน และอาหารเวียดนาม
ร้านอาหารซึ่งได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ประจำปี 2567 โดยติดอันดับในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย’ เป็นครั้งแรก มีจำนวนทั้งสิ้น 28 ร้าน
กรุงเทพฯ และปริมณฑล: อั้งโล่ บาย ย่างแรก ร้านอาหารไทยร่วมสมัยที่เสิร์ฟอาหารไทยสไตล์สตรีตฟู้ด โดยทำอาหารบนเตาอั้งโล่แบบโบราณ ส่งกลิ่นหอมอบอวลทั่วทั้งร้าน, เปลว ก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณ (นครปฐม) ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีและอาหารทะเลไซส์จัมโบ้ เมนูห้ามพลาด ได้แก่ บะหมี่ต้มยำและหมูเด้งทำเอง, ข้าวมันไก่นายโฮ ร้านอาหารริมทางที่เสิร์ฟข้าวมันไก่สูตรครอบครัวเชฟเจ้าของร้านชาวสิงคโปร์ที่รู้จักกันในนาม “ลุงโฮ” เมนูนี้โดดเด่นด้วยไก่หนังบางโปะบนข้าวมันร้อนๆ ที่ปรุงด้วยน้ำซุปไก่รสกลมกล่อม
อยุธยา: บ้านผู้การ ร้านอาหารเรียบง่ายซึ่งตั้งอยู่ในบ้านเชฟเจ้าของร้าน ให้บริการอาหารไทยรสเยี่ยมปรุงจากวัตถุดิบในท้องถิ่นและอาหารทะเลสดใหม่ที่หาทานได้ยากในจังหวัดอยุธยา, อู่ข้าว ร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูซึ่งหาทานได้ยากในปัจจุบันและคงไว้ซึ่งรสชาติดั้งเดิมชวนให้คิดถึงวัยเด็ก โดยปรุงจากสูตรคุณแม่เจ้าของร้านด้วยวิธีการปรุงแบบดั้งเดิมและนำเสนอด้วยวิธีร่วมสมัยอย่างสวยงาม
เชียงใหม่: เอกฉันท์ ร้านอาหารแนว Slow Food ซึ่งเน้นอาหารท้องถิ่นสดใหม่จากวัตถุดิบภายในชุมชน อาหารจานเด่น ได้แก่ แกงระแวง และข้าวผัดเคยกุ้งหวาน, เสน่ห์ ไทย คูซีน ร้านอาหารริมทางที่เสิร์ฟเมนูฮาลาลประเภทเนื้อหลากหลายรายการซึ่งล้วนผ่านการปรุงรสอย่างดีให้มีรสชาติกลมกล่อม จานเด็ดที่ต้องสั่ง คือ ข้าวมันเนื้อโปะไข่แดง และต้มยำไทยเนื้อน่อง
ขอนแก่น: เฝอท่าบ่อ ร้านอาหารริมทางที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัวชาวเวียดนามและปรุงเฝอทุกเมนูจากสูตรดั้งเดิมของครอบครัว เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่เส้นเฝอเหนียวนุ่ม เติมความอร่อยด้วยลูกชิ้นเนื้อทำเองและเนื้อวัวสไลด์ เมนูแนะนำอื่น ๆ ได้แก่ ปอเปี๊ยะสด, ปอเปี๊ยะทอด, ไส้อั่วเลือด และเลือดแปลง
นครราชสีมา: ฤาสภัตร บาย นีน่าส์ ร้านอาหารที่นำเสนออาหารรสชาติกลมกล่อมจากวัตถุดิธรรมชาติและผ่านการปรุงอย่างดี ใช้พืชผักสมุนไพรที่ส่วนใหญ่ปลูกเอง จานเด่น ได้แก่ ฟักทองผัดซอสไข่เค็ม และปลากะพงผัดพริกเกลือ
ภูเก็ต: ต้นมะยม ร้านอาหารริมทางที่นำเสนออาหารอร่อยรสชาติจัดจ้านแบบคนใต้แท้ๆ เมนูเด็ดได้แก่ ปลาทอดเครื่องหอมสมุนไพร และแกงส้มปลากะพงยอดมะพร้าวอ่อน
เกาะสมุย: บ้านสวนลุงไข่ ร้านอาหารในสวนมะพร้าวของเชฟเจ้าของร้านที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นและอาหารใต้ ปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยวัตถุดิบสดใหม่เพื่อนำมารังสรรค์เมนูวันต่อวัน, กะปิ สะตอ ร้านอาหารที่นำเสนออาหารตำรับชาวใต้แท้ ๆ และอาหารท้องถิ่นที่หาทานได้ยาก อาทิ หนวดปลาหมึกในน้ำกะทิหวานกับตะไคร้
สุราษฎร์ธานี: ลัคกี้ ภัตตาคาร ร้านอาหารที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัวเชฟเจ้าของร้านและรักษาความคงเส้นคงวาของการทำอาหารที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ที่นี่เสิร์ฟอาหารไทย-จีน อาหารไทยภาคใต้และอาหารทะเลที่ล้วนปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่, ยกเข่ง ร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารประจำท้องถิ่นหลากหลายเมนูให้เลือกทาน เช่น “โล่งโต้ง” อาหารถิ่นเมืองสุราษฎร์ธานีที่ปรุงจากเส้นบะหมี่แห้งราดซอสเปรี้ยวหวานสีชมพูชุ่มฉ่ำ อัดแน่นด้วยเครื่อง เช่น เลือดหมู หนังหมู และเนื้อหมูนุ่ม, เลี่ยนไถ่ ร้านสตรีตฟู้ดปาท่องโก๋ในตำนานซึ่งใช้แป้งหมักสูตรดั้งเดิมที่คุณพ่อเจ้าของร้านคิดค้นขึ้นเมื่อกว่า 50 ปีก่อน
สำหรับร้านอาหารซึ่งได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ ประจำปี 2567 โดยที่ผ่านมาเคยติดอันดับอยู่ในประเภท MICHELIN Selected มีจำนวนทั้งสิ้น 4 ร้าน ได้แก่
อุดรธานี: ข้าวเปียกอุดร ร้านอาหารเวียดนามซึ่งเคยเป็นเพียงร้านสตรีตฟู้ดมาก่อน เมนูที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน คือ ข้าวเปียกซึ่งโดดเด่นด้วยน้ำซุปหมูที่ใช้เวลาเคี่ยวนานกว่า 8 ชั่วโมงเพื่อให้กระดูกและเนื้อตุ๋นเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เมนูอื่นที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ หมูย่างตะไคร้เสียบไม้ และหมูยอ, ซาหมวย & ซันส์ ร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งซึ่งนำเสนออาหารอีสานร่วมสมัย ทั้งอาหารจานเดียวจากเมนูอะลาคาร์ท (À La Carte) และอาหารเป็นคอร์สจาก “เมนูชวนลิ้มลอง” หรือ Tasting Menu ที่แต่ละจานนอกจากจะอร่อยแล้ว ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ
ภูเก็ต: ครัวพระยาภูเก็ต ร้านอาหารที่นำเสนออาหารไทยปักษ์ใต้ โดยเฉพาะตำรับเก่าแก่ของภูเก็ต ซึ่งมีรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอม เมนูเด็ด ได้แก่ หมูสามชั้นผัดพริกแกงรสเข้มข้นและยอดมะพร้าวอ่อน จานแนะนำสำหรับคนไม่ชอบเผ็ด คือ หมูฮ้องหรือหมูสามชั้นต้มซีอิ๊วแบบฉบับภูเก็ต, หมูกรอบ (จี้ฮอง) ร้านสตรีตฟู้ดที่มีข้าวหน้าหมูกรอบเป็นเมนูดาวเด่นประจำร้าน โดดเด่นด้วยหมูกรอบชิ้นโตที่ไม่เพียงกรอบนอกแต่ยังนุ่มชุ่มลิ้นแบบไม่เลี่ยน และมีรสชาติเข้มข้นกำลังดี ปรุงด้วยสูตรลับที่ตกทอดกันมาหลายรุ่นภายในครอบครัว