“ซิซซ์เล่อร์” เสิร์ฟประสบการณ์ Chef’s Table ครั้งแรก!! ยกระดับเมนูซิกเนเจอร์สู่ไฟน์ไดนิ่ง มอบมื้ออาหารฟูลคอร์สสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าคนพิเศษ 7 คอร์สเมนูดินเนอร์ สุดพรีเมียม ต้องไปลองแล้ว!!
เข้าสู่ช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขที่ผู้คนมักจะนิยมมองหาร้านอาหารที่จะมาช่วยส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษด้วยการพาคนสำคัญไปรับประทานอาหารเลิศรสและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่น่าหลงใหล ดังนั้นจึงเป็นอีกช่วงเวลาสำคัญที่ร้านอาหารต่าง ๆ จะพากันรังสรรค์ความแปลกใหม่เพื่อเชิญชวนลูกค้าตลอดจนจัดกิจกรรมสุดพิเศษเพื่อเป็นของขวัญให้กับลูกค้า
TOPPIC Time ขอแนะนำ “ซิซซ์เล่อร์” ร้านสเต๊กและสลัดบาร์ยอดฮิตนิยมของคนไทยและต่างชาติ เป็นอีกหนึ่งร้านที่จัดกิจกรรมมอบความพิเศษผ่านวันสำคัญและเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี เพื่อเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณให้กับลูกค้า โดยในปีนี้ ซิซซ์เล่อร์ สาขาสยามเซ็นเตอร์ ได้เพิ่มความเอ็กซ์คลูซีฟอีกขั้น ด้วยการจัดโซนพิเศษ ยกระดับมื้ออาหารสู่เมนูไฟน์ไดนิ่ง เสิร์ฟดินเนอร์ 7 คอร์สเมนูสุดพรีเมียมในรูปแบบ Chef’s Table เป็นครั้งแรก
สำหรับลูกค้าสมาชิก Loyalty Program E-Member ที่จะได้เพลิดเพลินไปกับอาหารที่รังสรรค์ขึ้นจานต่อจาน โดยเอ็กซ์คลูซีฟเชฟมากประสบการณ์ของ ซิซซ์เล่อร์ ในบรรยากาศการตกแต่งสไตล์เฟสทีฟแบบอบอุ่น ภายใต้กลยุทธ์ “OVER 30 YEARS OF SIZZLING EXPERIENCES” ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การส่งมอบความสดใหม่ ความพรีเมียม และคุณภาพ ผ่านการนำเสนอเมนูอาหารใหม่ ๆ และกิจกรรมสุดพิเศษสำหรับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
เปิดลิสต์สเปเชียลไปกับ 7 คอร์สเมนูดินเนอร์ สุดพรีเมียมจาก “ซิซซ์เล่อร์”
สำหรับ Sizzling Experience Chef’s Table เริ่มต้นด้วย เมนูเรียกน้ำย่อย 3 เมนู ได้แก่ Clam Chowder Vol Au Vent ซุปหอยลาย ที่หอมละมุนด้วยกลิ่นเนย เสิร์ฟมาในแป้งพัฟสไตล์ฝรั่งเศสพอดีคำ ท็อปด้วยอกไก่บาร์บีคิวสูตรลับเฉพาะของ Sizzler ที่ให้ความอร่อยแบบเข้มข้นตั้งแต่เริ่มต้น ต่อด้วยเมนู Chef’s Salad สลัดนิสโดยมีต้นกำเนิดในเมืองนิสของฝรั่งเศส ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบบนสลัดบาร์ ราดด้วยซอสลับสูตรพิเศษที่หอมกลิ่นทูน่าและชีส
ต่อด้วยการละเมียดละไมไปกับ Truffle Mushroom Soup with Balsamic Caviar ซุปเห็ดซิกเนเจอร์ของ ซิซซ์เล่อร์ ที่เพิ่มความพรีเมียมยิ่งขึ้นด้วยทรัฟเฟิล มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟคู่กับบัลซามิกในรูปแบบของโฮมเมดคาเวียร์ พร้อมซิกเนเจอร์ชีสโทสต์
ตามด้วย Sea Bass in Parsley Volute ปลากะพงเนื้อแน่น ๆ ชิ้นพอดีคำที่เสิร์ฟในซอส Volute สไตล์ฝรั่งเศสรสชาติกลมกล่อม โรยด้วยคริสปี้ลีค ช่วยเสริมอรรถรสในการทานยิ่งขึ้น จากนั้นเสิร์ฟด้วยเมนู Lemon Granita ที่ต่อยอดจากเมนูเครื่องดื่มยอดนิยมอย่าง Lemon Soda ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ช่วยเปิดต่อมรับรสชาติอาหารก่อนเมนูจานหลัก
ในขณะที่ เมนูจานหลัก เริ่มด้วยเมนูสเต๊กหมูในคอนเซปต์ West Meet East เนื้อพอร์คชอปหมักซอสแจ่วสูตรลับ แล้วนำไปย่างจนหอมเข้าเนื้อถึง 12 ขั้นตอน แต่ด้านในยังคงให้ความนุ่มชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟคู่ 3 ซอส ได้แก่ แอปเปิ้ลโฮมเมด, ซอสพริกไทยดำซิกเนเจอร์ และซอสแจ่วมาโย พร้อมตัดรสชาติด้วยความเผ็ดเปรี้ยวจากยำมะม่วง เป็นจานที่ให้ความอร่อยแบบผสมผสานทั้งตะวันตกและตะวันออกได้อย่างลงตัว
ตามด้วยเมนู Ju de boeuf เนื้อวัวคุณภาพดี นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย คัดเลือกมาด้วยกัน 2 ส่วน ได้แก่ เนื้อส่วนลอยน์และเนื้อส่วนแก้ม เป็นส่วนที่มีความนุ่มและหายาก เสิร์ฟพร้อมหินร้อนให้ลูกค้าสามารถนำเนื้อไปจี่เพิ่มความสุกได้ตามใจชอบ ทานคู่กับซอสเรดไวน์ ที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นกลมกล่อม หรือหากไม่ทานเนื้อวัว ก็สามารถเลือกเมนู Salmon Duo สเต๊กแซลมอนคู่กับแซลมอนซูวีชิ้นพอดีคำ เสิร์ฟกับซอสซีฟู้ดมาโย ให้รสกลมกล่อมชวนทาน
ตบท้ายด้วยเมนูขนมหวาน Chocolate Mousse Lava with Berry Sauce เมนูช็อกโกแลตมูส เสิร์ฟในโดมช็อกโกแลต ราดด้วยซอสมิกซ์เบอร์รีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เป็นจานที่ให้ความสดชื่นปิดจบคอร์สได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยตลอดการเสิร์ฟลูกค้ายังสามารถดื่มด่ำกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น Prosecco Rose, ไวน์ขาว และไวน์แดงที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มและเอ็นจอยไปกับเมนูอาหารแต่ละจาน หรือเลือกเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ได้ไม่จำกัดอีกด้วย