วิกฤตวัยกลางคน คืออะไร? อายุเท่าไหร่ที่ต้องเจอ!! เราจะเล่าให้ฟัง ปรากฏการณ์ของผู้หญิงไทยในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา โดยอ้างอิงจากงานวิจัยสถาบัน ป๋วย อึ้งภากร พบว่า ผู้หญิงไทยที่จบปริญญาตรีขึ้นไป มีแนวโน้มเป็นโสดมากขึ้น แต่งงานช้าลง และมีลูกน้อยลง ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า…เป็นเพราะสถานการณ์ทางสังคมและเศรษฐกิจที่กดดัน หลายคนจึงเลือกหน้าที่การงานมาก่อน ส่วนที่เลือกครอบครัวและก้าวเข้าสู่บทบาทของ Working MOM ก็ต้องเก่งต้องแกร่งทั้งในบ้านและนอกบ้าน
วิกฤตวัยกลางคน คืออะไร?
พญ.กอบกาญจน์ ชุณหสวัสดิกุล ผู้อำนวยการศูนย์ Jin Wellness โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกัน กล่าวว่า การดูแลสุขภาพก่อนป่วยเป็นสิ่งสำคัญ คนเป็นแม่ในปัจจุบันต้องดูแลตัวเองให้ครบทั้ง 3 ด้าน คือ
1. Body (ร่างกาย)
2. Soul (จิตใจ)
3. Spirit (จิตวิญญาณ)
โดยเฉพาะคุณแม่ที่อยู่ในช่วงของ วิกฤตวัยกลางคน (Midlife Crisis) นอกจากการดูแลสุขภาพกายให้แข็งแรง ตรวจสุขภาพทุกปี เฝ้าระวังโรคภัยไข้เจ็บ ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิต โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ดูแลเรื่องของจิตใจ เช่น ความเครียด อาการวิตกกังวล (Panic) นอนไม่หลับ ฯลฯ ส่วนที่นับว่ายากที่สุดคือ ด้านจิตวิญญาณ
วิกฤตวัยกลางคน = วัย 35 – 50 ปี
คำว่า วิกฤตวัยกลางคน หรือ Midlife Crisis หมายถึงกลุ่มคนอายุ 35 – 50 ปี ที่มักเป็น Sandwich Generation ที่ต้องรับมือกับภารกิจในบ้าน ต้องเลี้ยงดูลูก ดูแลพ่อแม่ รวมทั้งดูแลสามี ทำให้รู้สึกเหมือนถูกบีบอัดจากทุกด้าน จนกลายเป็นความเครียด จนผลให้นอนไม่หลับมีปัญหาสุขภาพ จนถึงปัญหาในครอบครัว
หลายคนเมื่อเป็นแม่ จะมีความตั้งใจเป็นแม่ที่ดีที่สุด จนเกิดความคาดหวังต้องการให้ลูกเก่ง มีความเป็นเลิศ กลับกลายเป็นการสร้างความกดดันให้กับลูก จนเกิดบาดแผลในใจ กลายเป็นคนเก็บกด เป็นโรคซึมเศร้า จนถึงกับเลือกเดินเส้นทางผิดก็มี
หมอจึงอยากให้แม่ดูแลตัวเองก่อนทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ เมื่อเติมเต็มตัวเองพร้อมแล้วจึงจะสามารถไปดูแลคนรอบข้างได้ โดยไม่ปล่อยคำพูดที่จะไปทำร้ายคนอื่น จนกลับมารู้สึกผิดที่หลัง”
สัญญาณเตือนก่อนเกิด วิกฤตวัยกลางคน กับดัก โรคเรื้อรัง
นี่คือกระบวนการเวลเนส (Wellness) หรือ เวล บีอิ้งแคร์ (Well Being Care) จึงใส่ใจกับความไม่สมดุลกับสุขภาพของคุณแม่ โดยแนะนำสัญญาณเตือนก่อนเกิดโรคเรื้อรัง 6 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย
- อาหารไม่ย่อย ขับถ่ายไม่สะดวก กรดไหลย้อน ลำไส้แปรปรวน ถ่ายออกมามีกลิ่นเหม็นเน่า ปวดท้องเรื้อรัง
- มีปัญหาการนอน เช่น นอนกระสับกระส่าย ฝันวุ่นวาย ตื่นมาปัสสาวะเวลากลางคืนบ่อยครั้ง
- ตื่นนอนมาแล้วรู้สึกไม่สดชื่น อ่อนเพลียเรื้อรัง
- ปวดตามตัว ไมเกรน ตึงคอบ่าไหล่ ปวดหลังปวดข้อเรื้อรัง
- หน้าตาผิวพรรณไม่ผ่องใส มีฝ้า มีกระ ผมร่วงมากกว่าปกติ
- อารมณ์แปรปรวน เครียด โมโหร้าย วิตกกังวล ซึมเศร้า
เหล่านี้คือสัญญาณความไม่สมดุลของร่างกาย ที่บ่งบอกว่าคุณแม่ควรได้รับการตรวจเช็คและดูแลตัวเองก่อน เพราะเมื่อใดที่คุณแม่พร้อม ไม่เพียงสามารถดูแลลูกและครอบครัวให้มีความสุข แต่พลังงานที่มีอยู่เต็มเปี่ยมนั้นจะเหนี่ยวนำสิ่งต่างๆ รอบข้างให้ดีขึ้นเช่นกัน
ที่สำคัญคือ คุณแม่ที่แข็งแรงทั้งกายใจสามารถไปดูแลคนอื่นรอบข้างได้อีกเป็นสิบเป็นร้อยเป็นพัน เป็นการขยายพลังงานดีๆ ส่งต่อไปให้กับผู้อื่นอีกทอดหนึ่งได้