ปัจจัยทำโควิดพุ่ง! เชื้อเปลี่ยน – หลบภูมิ – กิจกรรมเสี่ยง – วัคซีนนานเกิน 3 เดือน ยอดสะสม 20-26 พ.ย. 4,914 คน เสียชีวิต 74 คน
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงค์อานนท์ ผอ.ระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เผยสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ว่า ขณะนี้ไม่มากเท่าในอดีต ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ที่ต้องนอนรักษาตัวใน รพ. (20-26 พ.ย.) 4,914 คน เฉลี่ย 702 คนต่อวัน มีผู้ป่วยปอดอักเสบ 553 คน, ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 319 คน ยอดเสียชีวิตรายสัปดาห์ 74 คน เฉลี่ย 10 วันต่อวัน (พบว่ายังเป็นกลุ่ม 608 และได้รับวัคซีนไม่ครบ หรือไม่ได้รับวัคซีนเลย) อัตราการรับวัคซีน รวม 143,155,910 โดส (วัคซีนเข็ม 1 ร้อยละ 82.07 จำนวน 57 ล้านโดส, เข็ม 2 ร้อยละ 77.02 จำนวน 53 ล้านโดส และเข็ม 3 จำนวน 32 ล้านโดส)
“ปัจจัยการกลับมาติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น มาจาก กิจกรรมที่ทำ ไม่รับวัคซีนเข็มกระตุ้นนานเกิน 3 เดือน เชื้อไวรัสที่เปลี่ยนแปลงหลบภูมิ แต่ยังคงอยู่ในตระกูลโอไมครอนเหมือนเดิม คนที่ได้รับวัคซีน – ติดเชื้อเกิน 3 เดือน ควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อไม่ให้เกิดการป่วยหนัก และต้องลดปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อจากกิจกรรม เช่น รับประทานอาหารร่วมกัน (คนที่ไม่ได้รับวัคซีน-สูงอายุ โดยเฉพาะหนุ่มสาว ที่อาจไปมาหลายที่เสี่ยงนำเชื้อมาแพร่) และในช่วงหยุดยาวเดือน ธ.ค. ต้องระวังตัว”
ปรับแนวทางดูแล ป้องกัน :
- เร่งรณรงค์การรับวัคซีนให้ครบ 4 เข็ม (ต้องฉีดเข้มกระตุ้น นานเกิน 3 เดือน, ติดเชื้อมาเกิน 3 เดือน, รพ.ทุกแห่ง เตรียมจัดเพิ่มพื้นที่ฉีดวัคซีน
- วัยทำงาน (อยู่ร่วม ผู้สูงอายุ 608 ต้องระวังตนเอง, ผู้สูงอายุให้งดกิจกรรมนอกบ้าน)
- ต้องปรับเพิ่มมาตรการรักษา ให้ได้รับยารวดเร็วขึ้น (หลังคิดว่า ไม่รุนแรงเหมือนก่อน ไม่ได้มาพบแพทย์)