หัวใจหยุดเต้น ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน และไม่มีสัญญาณบอกล่วงหน้า หรืออาจมีอาการเจ็บหน้าอกเฉพาะที่ หากคนในครอบครัว คนใกล้ตัว หรือพบคนหมดสติ จากสภาวะหัวใจหยุดเต้น สิ่งที่ต้องทำโดยเร็วที่สุด คือ การช่วยชีวิตอย่างถูกวิธี เพื่อจะได้เพิ่มโอกาสรอดชีวิตมากที่สุด
นพ.ชาติทนง ยอดวุฒิ อายุรแพทย์หัวใจ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า อาการหัวใจหยุดเต้น สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ที่พบบ่อยที่สุดคือเกิดจากโรคหัวใจ โดยเฉพาะอาการลิ่มเลือดอุดตัน หรือเส้นเลือดหัวใจตีบฉับพลัน จากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจเกิดตีบหรืออุดตันเฉียบพลัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หากขาดการรักษาอย่างทันท่วงที จะส่งผลให้หัวใจหยุดเต้นได้
หัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดรุนแรง อาจเต้นช้า หรือเต้นเร็วผิดปกติ หรือทั้งเต้นช้าและเต้นเร็วสลับกัน อาจรุนแรงถึงขั้นหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตได้
และกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ ตั้งแต่กำเนิด สามารถพบได้ในคนที่มีอายุน้อย เกิดขึ้นบริเวณกล้ามเนื้อหัวใจห้องซ้ายล่าง ผนังหัวใจจะหนามาก จนปิดกั้นการสูบฉีดเลือด ทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดรุนแรง จนทำให้หัวใจหยุดเต้นฉับพลันได้ ส่วนใหญ่แล้วอาการหัวใจหยุดเต้น จะไม่มีสัญญาณเตือน แต่อาจจะมีอาการเจ็บ แน่นหน้าอก ร้าวไปที่แขน หรือเจ็บบริเวณลิ้นปี่
โดยอาการจะเกิดขึ้น เมื่อทำกิจกรรมที่ต้องออกแรง อย่าง ขึ้นบันได เดิน รวมถึงตกใจสุดขีด โดยจะเกิดร่วมกับอาการเหงื่อออก ใจสั่น หน้าซีด คล้ายจะเป็นลมหรือหมดสติ โดยถ้าเห็นคนจะเป็นลม แน่นหน้าอก เหงื่อแตก ล้มฟุบ ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจมีภาวะหัวใจหยุดเต้น ควรรีบเข้าไปช่วยเหลือทันทีตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ได้แก่
5 ขั้นตอน ช่วยผู้ป่วย หัวใจหยุดเต้น ให้รอด!!
ขั้นตอนที่ 1 ตั้งสติและสังเกตดูความปลอดภัย ผู้ให้การช่วยเหลือต้องตั้งสติ พยายามไม่ตกใจ
ดูเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นตรวจสอบก่อนเข้าช่วยเหลือ หากอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย เช่น ไฟฟ้าช็อต ไฟไหม้ ตึกถล่ม ห้ามเข้าไปช่วยเหลือโดยเด็ดขาด
ควรรอดูสถานการณ์ให้ปลอดภัย แล้วเคลื่อนย้ายผู้ป่วยมายังสถานที่ปลอดภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
ขั้นตอนที่ 2 เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ที่หัวใจหยุดเต้น จัดท่าผู้ป่วยให้นอนหงายราบบนพื้นแข็ง
ปลุกเรียกผู้ป่วยด้วยเสียงดัง และตบที่ไหล่ทั้งสองข้าง เพื่อดูการตอบสนองว่า ผู้ป่วยหมดสติหรือไม่ จากนั้นหากผู้ป่วยตื่นหรือรู้สึกตัว ให้จัดท่านอนตะแคง
ขั้นตอนที่ 3 ฟังเสียงหายใจ และดูจังหวะการหายใจที่หน้าอก เพื่อตรวจดูว่า ผู้ที่หัวใจหยุดเต้นหายใจหรือไม่ โดยเอียงหูลงไปแนบใกล้ปากและจมูกของผู้ป่วย เพื่อฟังเสียงหายใจ ใช้แก้มเป็นตัวรับสัมผัสลมหายใจ ที่อาจออกมาจากจมูกหรือปากของผู้ป่วย และใช้ตาจ้องดูการเคลื่อนไหวที่หน้าอกของผู้ป่วย ว่ากระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะหรือไม่
ขั้นตอนที่ 4 ร้องขอความช่วยเหลือและโทรแจ้ง 1669 ว่ามีคนหมดสติ ไม่หายใจ ระบุสถานที่เกิดเหตุ ขอรถพยาบาล และเครื่อง AED พร้อมระบุชื่อและเบอร์โทรศัพท์คนที่ติดต่อ เพราะยิ่งช่วยได้เร็วยิ่งดี
ขั้นตอนที่ 5 เริ่มทำ CPR หากผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ หรือหายใจเฮือก
ต้องปั๊มหน้าอกให้ลึกพอ ที่แรงกดจะไปเอาเลือดออกจากหัวใจได้ ซึ่งต้องกดลงไปบริเวณกระดูกหน้าอกลึกลงไปประมาณ 2 นิ้ว เพื่อให้แรงมากพอที่จะทำให้เลือดในหัวใจบีบออกมา และจังหวะต้องเหมาะสม คือประมาณ 100 ครั้งต่อนาที
ในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีอาการหัวใจหยุดเต้น จะมีเวลาอยู่ที่ประมาณ 4-5 นาที ไม่ควรเกินกว่านี้ เพราะจะทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงสมอง และอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุการณ์หรือความเสี่ยงดังกล่าว ควรได้รับการตรวจเช็กสุขภาพหัวใจเป็นประจำทุกปีและควรเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ กับเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ.