ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความกดดัน หลายคนอาจเลือกสวมหน้ากาก เพื่อปกปิดอารมณ์ที่แท้จริง หนึ่งในหน้ากากที่พบได้บ่อยคือ “รอยยิ้ม” ที่แฝงไว้ด้วยความเศร้า หรือที่เรียกว่า “Smiling Depression” แล้วอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงของโรคนี้ TOPPIC Time ได้รวบรวมข้อมูลจาก แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล จิตแพทย์โรงพยาบาล BMHH – Bangkok Mental Health Hospital มาเล่าให้ฟังกัน…
“Smiling Depression” คืออะไร?
Smiling depression คือ คนที่ซึมเศร้า แต่จะแสดงออกภายนอกว่าร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส ใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ภายในจิตใจกลับรู้สึกเศร้าโศก หดหู่ ไร้ความสุข สิ้นหวัง คล้ายกับโรคซึมเศร้าทั่วไป แต่สามารถเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ได้อย่างแนบเนียน ซึ่งจะพบได้บ่อยในผู้ที่รู้สึกว่าตัวเองต้องแสดงออกให้คนอื่นเห็นแต่ด้านที่ดีของตัวเองเท่านั้น กลัวว่าคนรอบข้างจะมองว่าตัวเองอ่อนแอหรือเป็นภาระ
3 สาเหตุการเกิด “Smiling depression”
1. ผู้ที่ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบ หรือ Perfectionist เมื่อประสบปัญหา คนกลุ่มนี้จึงเลือกที่จะแสดงออกว่ามีความเข้มแข็งมากกว่า
2. ไม่ต้องการรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระของผู้อื่น ไม่ต้องการให้ผู้อื่นต้องเป็นห่วงตัวเอง และบางครั้งยังต้องรับฟังปัญหาของผู้อื่นอีกด้วย
3. มีความรับผิดชอบสูง ทั้งในหน้าที่การงาน ครอบครัว หรือกับสังคมรอบตัว จึงเลือกที่จะไม่แสดงออกความรู้สึกของตนเอง ที่จะกระทบผู้คนรอบข้าง
9 สัญญาณเตือนภาวะ “Smiling Depression”
1. ยิ้ม แต่สายตาดูไม่สดใส
2. ดำเนินชีวิตได้ปกติแต่ข้างในรู้สึกเศร้า
3. เป็นที่ปรึกษาได้ทุกเรื่อง ทุกคนคอยเข้าหาแต่ไม่ค่อยพูดเรื่องของตัวเอง
4. ไม่อยากให้ตัวเองเป็นภาระ
5. ไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองไม่สมบูรณ์แบบ หรือรู้สึกอ่อนแอ
6. คาดหวังให้คนอื่นมีความสุขส่วนตัวเองเก็บความรู้สึกไว้
7. นอนไม่หลับ หรือนอนมากเกินไป
8. รู้สึกตัวเองไร้ค่า สิ้นหวัง รู้สึกผิด หรือแม้กระทั่งมีความคิดไม่อยากมีชีวิตอยู่
9. ไม่อยากทำอะไร อ่อนเพลีย หรือรู้สึกไม่สนใจ เพลินเพลิดกับกิจกรรมที่เคยชอบทำ
วิธีรับมือภาวะ “Smiling depression”
การรักษาภาวะ Smiling depression ประกอบไปด้วย การใช้ยาต้านซึมเศร้า และ การบำบัดทางจิต
1. การใช้ยาต้านเศร้า จะออกฤทธิ์ยับยั้งการดูดซึมกลับของสารสื่อประสาทบางชนิดในสมอง เช่น สารเซโรโทนิน และสารนอร์เอพิเนฟริน ยาต้านซึมเศร้ามักใช้ร่วมกับการให้คำปรึกษาและบำบัดทางจิต ระยะเวลาในการรักษาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ
2. การบำบัดอาการทางจิต เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์จะเป็นผู้ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจสาเหตุของอาการซึมเศร้า และเรียนรู้วิธีรับมือกับความรู้สึกของตัวเอง เช่น
- การบำบัดแบบจิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis) ช่วยผู้ป่วยสำรวจความคิดและความรู้สึกที่ซ่อนเร้น
- การบำบัดแบบพฤติกรรมทางปัญญา (Cognitive Behavioral Therapy, CBT) ช่วยผู้ป่วยเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมที่ส่งผลต่ออารมณ์
- การบำบัดกลุ่ม (Group therapy) ช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็น “Smiling Depression”
สำหรับการดูแลตัวเองเมื่อเป็น Smiling Depression มีดังนี้
1. ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องฝืนยิ้มตลอดเวลา อนุญาตให้ตัวเองรู้สึกเศร้า โกรธ หรือรู้สึกอะไรก็ได้
2. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง พูดคุยกับคนที่ไว้ใจได้ ระบายความรู้สึกของตัวเอง
3. ดูแลสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ