เตือน!! “โรคลมแดด” หรือ ฮีทสโตรก จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด เกิดได้ทุกเพศทุกวัย และอันตรายถึงชีวิต เข้าใจใหม่…ดื่มกาแฟ – หลบร้อนในรถติดแอร์ กลางแจ้งก็ไม่พ้น อาจเผชิญอันตราย 2 เด้ง ผู้มีอาการรีบพบแพทย์ – เลี่ยงแดดจัด หลังคาดปีนี้อุณหภูมิใกล้ 50 องศา…
เปิดสาเหตุเสี่ยง “โรคลมแดด”
โรคลมแดด หรือ Heat Stroke เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวหรือควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกายได้ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น จากการเผชิญกับสภาพอากาศที่มีความร้อนสูง เช่น การออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมท่ามกลางอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน พบว่ามีอุบัติการณ์เพิ่มมากขึ้นในฤดูร้อน
ลักษณะอาการ “โรคลมแดด”
– อาการโรคลมแดด จะเริ่มจากอุณหภูมิร่างกายค่อยๆ สูงขึ้น เมื่อเกิน 40 องศาเซลเซียส ร่างกายจะไม่สามารถควบคุมได้
– โรคลมแดด ทำให้รู้สึกผิดปกติ ปวดศีรษะ หน้ามืด กระสับกระส่าย ซึม สับสน ชัก ไม่รู้สึกตัว ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว หายใจหอบ ตัวแดง
– ถ้าปล่อยทิ้งไว้ให้มีอาการ อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อระบบสมอง หัวใจ ไต และกล้ามเนื้อ หากไม่ได้รับการรักษาอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน และทำให้ผู้ป่วยโรคลมแดดเสียชีวิตได้
– เมื่อพบผู้ที่มีอาการจากโรคลมแดด ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว
ประชาชนทุกคนเผชิญ “โรคลมแดด”
– โรคลมแดดสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน
– กลุ่มเสี่ยงของโรคลมแดด ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ยังไม่สามารถควบคุมได้
– ผู้ที่ออกกำลังกายหรือใช้กำลังมากเป็นเวลานาน รวมถึงประชาชนทั่วไป และผู้ป่วยระยะพักฟื้น
วิธีป้องกัน “โรคลมแดด”
– หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในสภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือกลางแจ้งเป็นเวลานาน ๆ หากสามารถเลี่ยงได้ ควรเลือกเวลาที่ต้องการทำกิจกรรม เช่น ช่วงเช้ามืด หรือระหว่างพระอาทิตย์ตกดิน
– ผู้ที่ชอบออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิร้อนจัด ควรดื่มน้ำให้มากเพียงพอ
– หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดภาวะร่างกายขาดน้ำ เช่น เครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีน กาแฟ เหล้า เบียร์ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ จะทำให้เสียน้ำทางปัสสาวะในปริมาณสูง หากไม่สามารถชดเชยน้ำได้มากพอ จะเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคลมแดดได้
– หากจำเป็นต้องออกไปกลางแจ้งควรปกป้องตนเองจากแสงแดด อุปกรณ์ป้องกันแสงแดด เช่น สวมใส่เสื้อผ้าที่มีคุณสมบัติระบายอากาศได้ดี หมวก ร่ม ถือเป็นหนึ่งอุปกรณ์ที่ควรพกติดตัวเมื่อต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด
– การอยู่ในรถที่ติดเครื่องยนต์กลางแจ้งมีอันตรายมาก โดยต้องพบกับอากาศร้อนแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงของการได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (ก๊าซพิษ) ที่มีผลต่อระบบประสาท จึงควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน
ทั้งนี้ โรคลมแดด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ผู้ที่เกิดอาการต้องได้รับความช่วยเหลือในทันที ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อสมอง และอวัยวะที่สำคัญในร่างกาย
อุณหภูมิเดือดปัจจัย “โรคลมแดด”
หลังกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูร้อน ประจำปี 2567 ระบุว่า อุณหภูมิวัดได้ตั้งแต่ 36-37 องศาฯ ขึ้นไป สูงกว่าค่าปกติ และสูงกว่าปีที่แล้ว อากาศจะร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป อากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่โดยเฉพาะ 5 จังหวัด ที่ร้อนจัดที่สุด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก และอุดรธานี ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม-ต้นพฤษภาคม 2567 และช่วงฤดูร้อนอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นจะมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน (โรคลมแดด) ดัชนีความร้อน หรือ Heat Index (อุณหภูมิที่คนเรารู้สึกได้ว่าขณะนั้นอากาศร้อนเท่าไร เป็นสภาวะที่ทำให้ร่างกายเรารู้สึกร้อนมากกว่าอุณหภูมิตามจริง) มีผลกระทบต่อสุขภาพทำให้เจ็บป่วย โรคลมแดด ได้ ล่าสุด คาดอุณหภูมิฤดูร้อนปีนี้ ใกล้แตะ 50 องศาฯ
ที่มา : กรมการแพทย์ สถาบันประสาทวิทยา