“วิมุต โฮลดิ้ง” เสริมแกร่งอีโคซิสเต็ม เดินหน้าจับมือ “นำวิวัฒน์” ร่วมชูนวัตกรรมใหม่ พัฒนามาตรฐานบริการและยกระดับความปลอดภัยให้แก่ผู้ป่วย…
“วิมุต โฮลดิ้ง” บริการด้านสุขภาพภายใต้ พฤกษา โฮลดิ้ง ร่วมมือกับ นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ในโรงพยาบาล เตรียมเดินหน้าผสานความเชี่ยวชาญและความร่วมมือ ร่วมจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทร่วมทุนมูลค่า 50 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ และให้บริการบำบัดมูลฝอยติดเชื้อทางการแพทย์ โดยแบ่งสัดส่วนการถือหุ้น วิมุต โฮลดิ้ง 40% และ นำวิวัฒน์ฯ 60% พร้อมตั้งเป้าเสริมความแข็งแกร่งภายใต้อีโคซิสเต็มของกลุ่มวิมุต ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางการแพทย์สู่ขั้นสูง
นพ.พิชิต กังวลกิจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า กลุ่มวิมุตถือเป็นแพลตฟอร์มด้านสุขภาพ (Trusted Healthcare Platform) ที่ให้บริการครอบคลุมในด้านต่าง ๆ อย่างไร้รอยต่อ อาทิ โรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ คลินิกบ้านหมอวิมุต ศูนย์ฟื้นฟูที่ให้บริการเนิร์สซิ่งโฮม กายภาพบำบัด บริการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ (Telemedicine) โดยอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ (Digital Health Technology) เชื่อมโยงบริการต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน
ดังนั้น เพื่อการพัฒนามาตรฐานของการดำเนินงานและมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ป่วย กลุ่มวิมุตจึงมองหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญและมีศักยภาพเข้ามาช่วยสนับสนุนการทำงาน โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้แก่แพลตฟอร์มเพื่อประโยชน์ของผู้ป่วย รวมถึงการผลักดันอีโคซิสเต็มให้มีการต่อยอดและเติบโตมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กลุ่มวิมุตได้เล็งเห็นถึงศักยภาพและวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานที่มีความสอดคล้องกัน เนื่องจาก นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น ถือเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังของวงการสาธารณสุขในประเทศไทยมายาวนานถึง 53 ปี และเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานเวชภัณฑ์ปลอดเชื้อ ดังนั้น จึงทำให้เชื่อมั่นว่าการร่วมมือครั้งนี้จะสามารถพัฒนามาตรฐานบริการและยกระดับความปลอดภัยให้แก่ผู้ป่วยได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับการดำเนินงานภายใต้บริษัทใหม่ ได้มีแผนให้บริการในสถานพยาบาลทั้งหมดของกลุ่มวิมุต โดยขณะนี้ได้เริ่มให้บริการในโรงพยาบาลวิมุตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างขยายบริการออกไปภายในเครือ ซึ่งหากการบริหารจัดการภายในเป็นไปได้ด้วยดีในขั้นแรกแล้ว ทางบริษัทก็จะเตรียมเดินหน้าสู่การให้บริการในกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนและกลุ่มลูกค้าภาครัฐต่อไป” นพ.พิชิต กล่าวทิ้งท้าย
นายวิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ กรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NAM กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติหลักการในการร่วมลงทุน Joint Venture Agreements ซึ่งจัดทำขึ้นระหว่าง บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (NAM) และ บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด (VMH) เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในนาม “บริษัท เซอร์วิโซ เฮลท์แคร์ โซลูชั่น จำกัด” ในสัดส่วน 60-40 ตามลำดับ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจการให้บริการงานสนับสนุนทางการแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาล คลินิก บริษัท หรือหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมไปถึง
1. การให้บริการทำให้เครื่องมือแพทย์ปราศจากเชื้อ (Sterile Processing Service)
2. การให้บริการบำบัดมูลฝอยติดเชื้อทางการแพทย์ (Medical Waste Sterilization Service)
3. การให้บริการด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์ (Biomedical Engineering Service) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
คาดว่าจะดำเนินการจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2567 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ ขยายฐานรายได้ มุ่งสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
“NAM ดำเนินธุรกิจมากว่า 50 ปี ได้มีโอกาสร่วมงานกับหลายองค์กรทางด้านสาธารณสุข และเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของหลายโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน โดยอาศัยจุดแข็งต่าง ๆ ที่ทางบริษัทมี และในโอกาสที่ได้ร่วมทุนกับกลุ่มวิมุตครั้งนี้จะเปรียบเหมือนการติดกระดุมเม็ดแรกที่ถูกต้อง เพราะเชื่อมั่นว่าหากพันธมิตรในกลุ่มบริการด้านการแพทย์ให้ความร่วมมือกัน ไม่เพียงแต่ผู้ป่วยที่จะได้รับประโยชน์เท่านั้น แต่จะสามารถขยายผลไปถึงทั้งระบบสาธารณสุขในประเทศไทย และสามารถพัฒนาบริการทางการแพทย์ได้”
กรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NAM กล่าวอีกว่า บริษัทจะเริ่มให้บริการงานให้บริการทำให้เครื่องมือแพทย์ปราศจากเชื้อ (Sterile Processing Service) และการให้บริการบำบัดมูลฝอยติดเชื้อทางการแพทย์ด้วยเทคโนโลยีนึ่งและฆ่าเชื้อด้วยไอน้ำ (Medical Waste Sterilization Service) ให้กับโรงพยาบาลในเครือก่อนเป็นลำดับแรก และขยายไปสู่การให้บริการกับโรงพยาบาลและหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงการเริ่มให้บริการด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์ (Biomedical Engineering Service) ในลำดับถัดไปเพื่อให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ด้วยรูปแบบ Hub and Spoke พร้อมประมาณการณ์การเติบโตของรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่องจากงานบริการดังกล่าวข้างต้น.