แป้งฝุ่นอันตรายใกล้ตัว “เด็กผู้หญิง” เสี่ยงโรคมะเร็งรังไข่ โรยทานานๆ โดยเฉพาะในจุดซ่อนเร้นเพิ่มโอกาส หลายสถาบันทางการแพทย์ออกมาตอกย้ำอีกครั้ง แม้ไม่เห็นผลในระยะสั้น แต่ก็ไม่ควรประมาทในระยะยาว…มีโอกาสเสี่ยงสูงถึง 40 %
‘แป้งฝุ่น’กับ ‘มะเร็งรังไข่’ เป็นภัยเงียบที่คืบคลานและใกล้ตัว เพราะได้มีการพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริง แม้ผลกระทบกับผู้ใช้เป็นประจำอาจจะไม่เห็นได้ชัดในระยะสั้น แต่ในระยะยาวต้องยอมรับว่า เมื่อมีหลายหน่วยงานออกมาตีตราก็ต้องรับฟัง TOPPIC Time ขอนำเรื่องนี้มาตอกย้ำอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความตระหนัก แต่ไม่ต้องตระหนก เพราะยังมีหลายปัจจัยสำคัญๆ ที่อาจก่อมะเร็งรังไข่สำหรับผู้หญิงได้ จึงไม่ควรเหมารวม หรือโยนกองไปที่แป้งฝุ่นอย่างเดียว
รพ.ดังชี้ชัด แป้งฝุ่นโรยให้ลูกสาวเสี่ยงมะเร็งรังไข่
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้โพสต์เมื่อปี 2562 ระบุว่า แป้งฝุ่นทาตัวเด็กที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วไป ผลิตจากแร่หินทัลค์ (Talc) หรือ “แป้งทัลคัม” (Talcum Powder) ถือว่าเป็นฝุ่นชนิดหนึ่ง
- ในขณะที่โรยแป้ง ผงแป้งจะลอยฟุ้งในอากาศ ถ้าสูดหายใจเข้าไป ทำให้เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ น้ำมูกไหล คัดและคันจมูก จามตลอดเวลาได้
- หากเข้าไปในระบบทางเดินหายใจที่ละเล็กละน้อย เป็นเวลานาน ๆ จะเกิดการสะสมในปอด ทำให้มีปัญหา เรื่องการหายใจ ไอเรื้อรัง หืดหอบ
- ในเด็กทารกสามารถทำให้ปอดอักเสบและเสียชีวิตได้ มีการวิจัยพบว่าผู้ที่ใช้แป้งฝุ่นโรยตัวทาบริเวณจุดซ่อนเร้น มีความเสี่ยงมะเร็งรังไขสูงกว่าผู้ที่ไม่ใช้แป้งสูงถึง 40%
- แป้งชนิดที่ทำจากข้าวโพด แม้จะปลอดภัยกว่าแป้งทัลคัม แต่ก็นับเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับร่างกาย เข้าตาก็ระคายตา สูดหายใจเข้าไปก็ระคายระบบทางเดินหายใจ
สถาบันมะเร็งฯ ตอกย้ำแป้งฝุ่นเสี่ยงมะเร็งรังไข่
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ได้โพสต์ติ๊กต๊อกล่าสุด ย้ำว่า …
– การใช้แป้งฝุ่นโรยอวัยวะเพศ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งรังไข่
– โดยสารประกอบที่เรียกว่าทัลคัม เป็นสารดูดซับความชื้น สารนี้เป็นสารอนินทรีย์ ไม่สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ
– มีงานวิจัยที่บอกว่าการทาแป้งฝุ่นเป็นเวลานาน ๆ เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งรังไข่
– เพื่อป้องกันมะเร็งรังไข่บริเวณจุดซ่อนเร้น ควรหลีกเลี่ยงการทาแป้งบริเวณจุดซ่อนเร้น
ผู้ปกครองตระหนักเลี่ยงแป้งฝุ่นตัดโอกาสมะเร็งรังไข่
- ไม่ใช้แป้งเลยจะปลอดภัยที่สุด
- หลีกเลี่ยงการทาแป้งที่ก้นและบริเวณอวัยวะเพศให้ลูกผู้หญิง เพราะเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งรังไข่
- ไม่ให้ลูกถือกระป๋องแป้งฝุ่นเขย่าเล่นหรือทาเอง เพราะอาจทำแป้งหกและสำลักหายใจเอาแป้งเข้าปอด จนทำให้ปอดอักเสบ ถ้ารุนแรงมือกาสเสียชีวิตได้
ศาลต่างประเทศ เอาผิดบริษัทแป้งยักษ์ใหญ่
ในปี 2017 ศาลประจำรัฐเซนต์หลุยส์มีคำตัดสินให้บริษัทเวชภัณฑ์ (แป้งฝุ่นยักษ์ใหญ่) จ่ายเงินค่าชดเชยกว่า 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก่หญิงอเมริกันวัย 62 ปี จากรัฐมิสซูรี หลังได้ฟ้องร้องว่าแป้งดังกล่าว เป็นสาเหตุทำให้เธอป่วยด้วยโรคมะเร็งรังไข่ หลังจากใช้แป้งนี้มานานถึง 40 ปี