“อนุทิน” ระบุ ไม่พบกลุ่มนักท่องเที่ยวนำเชื้อเข้าไทย เร่งฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดส ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้…
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยถึงผลการประชุมร่วมคณะผู้บริหาร ถึงนโยบายการเปิดประเทศถือเป็นความท้าทาย และสร้างความมั่นใจในระบบสาธารณสุข รวมถึงฟื้นฟูเศรษฐกิจ วันแรกมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 2 พันคน ได้รับรายงานว่าผู้ที่เดินทางเข้ามามีความพึงพอใจในขั้นตอน และมาตรการของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ
โดยทุกคนต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และได้รับการคัดกรองตรวจหาเชื้อ ด้วยวิธี RT-PCR ในโรงแรมที่จัดไว้ พักรอผลตรวจ 1 คืน หากไม่พบเชื้อสามารถท่องเที่ยวและประกอบธุรกิจต่างๆ ในประเทศได้ ซึ่งจากการตรวจ ก็ไม่พบการติดเชื้อในกลุ่มผู้เดินทางเข้ามาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ได้กำชับให้อธิบดีกรมควบคุมโรค เร่งลดขั้นตอนต่างๆ ที่ไม่จำเป็น และอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้บริการให้มากที่สุด ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น ได้กำชับให้ผู้ตรวจราชการทุกเขตสุขภาพ ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด จัดทำแผนเผชิญเหตุ และลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
“พร้อมทั้งให้เร่งฉีดวัคซีน ตั้งเป้าให้ครบ 100 ล้านโดสภายในเดือนพฤศจิกายน พื้นที่ทุรกันดารเข้าถึงยาก ให้จัดบริการเชิงรุก เฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคในกลุ่มเสี่ยง/เปราะบาง พื้นที่เสี่ยง กิจกรรมและกิจการเสี่ยง รวมถึงฉีดวัคซีนให้กับแรงงานต่างด้าว ยืนยันมีวัคซีนเพียงพอ ไม่กระทบกับการบริการคนไทย ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ต่ออายุการทำงาน หรือรายใหม่ที่จะเข้ามาหลังเปิดประเทศ ต้องได้รับวัคซีนครบโดส กรณีเข้ามาผิดกฎหมาย จะฉีดวัคซีนก่อนส่งให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อสร้างความปลอดภัยแก่คนในประเทศ” นายอนุทิน ระบุ
สำหรับกรอบแนวทางการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข รองรับการเปิดประเทศยึด 4 เป้าหมาย
- สร้างความเชื่อมั่น ให้ประชาชนในการใช้ชีวิตวิถีใหม่ ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด 19
- สร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ ให้การรักษา เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมเพื่อลดการป่วยหนัก และเสียชีวิต
- ฟื้นฟูเศรษฐกิจ กระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาฟื้นตัว
- เสริมสร้างสังคมและวัฒนธรรม ให้ประชาชนกลับมาดำเนินกิจกรรมด้านสังคม ยึดมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention).