อดีตพระยันตระ เดินทางกลับไทย ฉลองวันเกิด 70 ปี โดยมีลูกศิษย์เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก ขณะที่หลายคนสงสัย หลังมีภาพระสงฆ์ ก้มกราบ…
ถือเป็นประเด็นร้อนๆ เมื่อโลกโซเชียลมีการแชร์ภาพ นายวินัย ละอองสุวรรณ หรือ อดีตพระยันตระ อมโรภิกขุ อดีตพระภิกษุชื่อดัง ที่เดินทางกลับมายังประเทศไทยในรอบหลายปี เพื่อร่วมพิธีเนื่องในวันครบรอบ 70 ปี เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหา รวมไปถึงพระสงฆ์เข้ามาร่วมในพิธีจำนวนมาก ทั้งนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมา อดีตพระยันตระ ยังเรียนแทนตัวเองว่า “อาตมา” แม้จะสึกไปแล้วก็ตาม
สำหรับภาพที่ถูกเผยแพร่สู่ในโลกโซเซียล ทั้งรูปภาพและคลิปนั้น ได้มีภาพการก้มกราบไหว้ อดีตพระยันตระ ของพระสงฆ์จำนวนหนึ่ง ที่หลายคนก็แสดงความเห็นว่าไม่เหมาะสม ขณะที่ อดีตพระยันตระ ได้ออกมาบอก และสรุปได้ว่า ไม่ได้เรียกร้องให้ใครมากราบไหว้ แต่อย่างไรก็ตามในวันที่ 27 ต.ค.เวลา 07.00 น. ตนก็จะเดินทางกลับอเมริกาแล้ว
ประวัติ อดีตพระยันตระ พระดังในอดีต
สำหรับ อดีตพระยันตระ เป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เขาได้ปฏิบัติตนเป็นนักพรตฤๅษีอยู่หลายปี จนเป็นที่รู้จักกว้างขวาง ต่อมาได้อุปสมบทเป็นภิกษุ ที่วัดรัตนาราม อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2517 โดยเรียกแทนตัวเองว่า พระยันตระ หรือที่แปลว่า “ผู้ไกลจากกิเลส”
เมื่อบวชแล้วเป็นที่รู้จักดี ทำให้มีผู้ศรัทธาบวชเพื่อเข้าเป็นลูกศิษย์มากมาย จากนั้นเขาก็มักแวดล้อมไปด้วยพระสงฆ์คอยอุปัฏฐากอยู่เสมอๆ นอกจากนี้ยังมีผู้ศรัทธาสร้างสำนักวัดถวายเขาหลายแห่ง โดยทุกวัดที่สร้างในสำนักเขาจะใช้คำว่า “สุญญตาราม” ประกอบด้วยเสมอ
สำนักที่เป็นที่รู้จักดีคือ วัดป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี และยังมีสำนักวัดป่าสุญญตารามของเขาในต่างประเทศอีกหลายแห่ง เช่น วัดป่าสุญญตาราม เมืองบันดานูน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเรีย
อดีตพระยันตระ ต้องปาราชิกาธิกรณ์
ทั้งนี้ อดีตพระยันตระ เป็นอดีตภิกษุชื่อดังที่มีผู้เคารพศรัทธามากมาย โด่งดังทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพราะคำสอนของเขาเน้นแนวทางปฏิบัติกรรมฐาน ซึ่งได้รับการยอมรับจากนักวิชาการศาสนา ว่าถูกต้องกับพระไตรปิฎก
ก่อนที่ช่วงปี 2537 อดีตพระดัง ถูกฟ้องคดีกล่าวหาว่าต้องปาราชิกาธิกรณ์ และถูกมติมหาเถรสมาคมลงให้พ้นจากภาวะพระภิกษุ หลังกรณีล่วงละเมิดเมถุนผู้หญิง จนมีคำสั่งให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุตามพระวินัยบัญญัติ แต่ อดีตพระยันตระ ไม่ยอมรับมติสงฆ์ และปฏิญาณตนว่าเป็นพระภิกษุเหมือนเดิม โดยเปลี่ยนจีวรเป็นสีเขียวแทน จนเป็นที่มาของคำว่า จิ้งเขียว หรือสมียันดะ
จากนั้นได้ไปอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ในสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองจนถึงปัจจุบัน โดยหลังจากคดีสิ้นสุดอายุความ ก็ได้เดินทางกลับไทยเป็นระยะๆ ล่าสุดกลับมาในวันเกิดครบครอบ 70 ปี จนกลายเป็นเหตุการณ์และประเด็นดราม่าขึ้นมานั่นเอง.