กรมอนามัยเตือน!! เนื้อจระเข้ อาจมีแบคทีเรียปนเปื้อน แนะทำสะอาดถูกวิธี – ปรุงสุกก่อนกินทุกครั้ง…
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ระบุ ช่วงที่เนื้อหมูราคาสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มหันมาสนใจบริโภคเนื้อจระเข้ เพื่อเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกมากขึ้น แต่เนื่องจากเนื้อจระเข้ ซึ่งจัดอยู่ในประเภทสัตว์เลื้อยคลาน อาจมีแบคทีเรียปนเปื้อน เช่น เชื้อซัลโมเนลลา ที่ทำให้เกิดโรค เช่น ไทฟอยด์ ท้องร่วง และความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร จึงควรล้างมือ และอุปกรณ์ทุกครั้งก่อนแปรรูปเนื้อสัตว์ เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนของแบคทีเรีย และปรุงสุกในทุกเมนู งดการกินสุกๆ ดิบๆ
การเลือกซื้อเนื้อจระเข้ :
- ควรเลือกเนื้อจากส่วนหาง (บ้องตัน) ถือเป็นส่วนที่ดีที่สุด
- ควรสด มีสีทึบ ไม่มีกลิ่นเหม็น
- ต้องจัดเก็บในช่องแช่แข็ง ในอุณหภูมิตั้งแต่ 5 ถึง 0 องศาเซลเซียส เก็บได้นาน 24 ชั่วโมง
- แต่หากต้องการเก็บนานควรแช่แข็งที่อุณหภูมิตั้งแต่ -8 องศาเซลเซียส จะเก็บรักษาได้ 2-4 เดือน แต่ถ้าตั้งแต่ -18 องศาเซลเซียส จะเก็บได้นาน 10-12 เดือน
- การแช่แข็งอย่างถูกต้อง ต้องตัดเป็นส่วนๆ ห่อด้วยกระดาษฟอยล์ฟิล์มยืด หรือกระดาษพาร์ชเมนท์
- เนื้อห่อใส่ถุงแล้วนำไปแช่ตู้เย็น ไม่ควรล้างเนื้อสัตว์ก่อนนำไปแช่แข็งเพราะจะทำให้อายุการเก็บสั้นลง แต่หากต้องการ ยืดระยะเวลาออกไปหลายวัน ให้ห่อด้วยกระดาษพาร์ชเมนท์เคลือบด้วยน้ำมันพืช
- เมื่อต้องการละลายเนื้อสัตว์นั้น ควรใช้วิธีธรรมชาติเพื่อคงสารอาหารไว้ หลีกเลี่ยงการละลายเนื้อในน้ำร้อน
ระวัง!! เนื้อจระเข้อาจปนเปื้อน“แบคทีเรีย”
สำหรับคุณค่าทางอาหาร :
- เนื้อจระเข้มีพลังงานต่ำ ไขมันน้อย เนื้อจระเข้ 100 กรัม มีพลังงาน 99 กิโลแคลอรี โปรตีน 21.5 กรัม ไขมัน 2.9 กรัม และโคเลสเตอรอล 65 มิลลิกรัม
- เนื้อหมู 100 กรัม มีพลังงาน 107 กิโลแคลอรี โปรตีน 22.0 กรัม ไขมัน 2.0 กรัม และโคเลสเตอรอล 55 มิลลิกรัม
- เนื้อไก่ 100 กรัม มีพลังงาน 145 กิโลแคลอรี โปรตีน 22.2 กรัม ไขมัน 6.2 กรัม และโคเลสเตอรอล 62 มิลลิกรัม
- เนื้อวัว 100 กรัม มีพลังงาน 121 กิโลแคลอรี โปรตีน 21.2 กรัม ไขมัน 4.0 กรัม และโคเลสเตอรอล 51 มิลลิกรัม