กรมอนามัยออกมาเปิดเผยผลสำรวจ เกี่ยวกับความคิดเห็นการเปิดประเทศ พบว่าคนไทย 94% ยังกังวลและขอให้เพิ่มมาตรการให้ความเชื่อมั่น เน้นเร่งฉีดวัคซีน
วันที่ 25 ต.ค.2564 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากผลสำรวจของกรมอนามัย ระหว่างวันที่ 14-20 ต.ค.2564 วันที่ 1 พ.ย.2564 พบว่า ร้อยละ 94 มีความกังวล โดยร้อยละ 28 เชื่อมั่นต่อการควบคุมป้องกันโรค ร้อยละ 72 เห็นว่าควรเพิ่มมาตรการที่จะทำให้เชื่อมั่นว่า เปิดประเทศแล้วจะปลอดภัย ด้วยการเร่งฉีดวัคซีนให้ทุกคนทั่วประเทศครบตามเกณฑ์ครอบคลุมทุกจังหวัด 70% ขึ้นไป ร้อยละ 60 ให้มีการคุมเข้มการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายตามแนวชายแดน และร้อยละ 55 ให้มีการกำกับ ติดตาม การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคของสถานประกอบการและประชาชนอย่างเคร่งครัด
นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า สถานประกอบกิจการต่างๆ ขอให้เพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการ ให้พนักงานทุกคนที่ใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวรับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือตรวจ ATK ทุก 7-14 วัน คัดกรองพนักงานด้วย “ไทยเซฟไทย” ทุกวัน หากอุณหภูมิเกินกว่าที่กำหนดและมีความเสี่ยงรับเชื้อให้ตรวจด้วย ATK ทันที
สำหรับมาตรการด้านความปลอดภัยและอนามัยสิ่งแวดล้อม ให้ประเมินตนเองตามหลักเกณฑ์ของ Thai Stop COVID Plus ทุกเดือน ติดใบรับรองในบริเวณที่ผู้รับบริการและเจ้าหน้าที่สแกน QR Code เพื่อตรวจสอบได้ ผ่านเกณฑ์การประเมิน SHA Plus ที่เน้นการระบายอากาศที่ดี เพียงพอ เว้นระยะห่าง ควบคุมจำนวนพนักงานและลูกค้า 1 คน ต่อ 4 ตารางเมตร และทำความสะอาดจุดเสี่ยงที่มีการสัมผัสร่วม โดยเพิ่มความถี่เมื่อมีผู้รับบริการมากขึ้นอย่างน้อยทุก 1 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ต้องจัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ 70% มีมาตรการควบคุมแรงงานต่างด้าว และกำกับติดตามการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ สมาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในส่วนนักท่องเที่ยวคนไทยจะต้องไม่มีอาการเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยง และได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือตรวจ ATK ทุก 7-14 วัน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเอง คัดกรองตัวเองผ่าน “ไทยเซฟไทย” และแสดงให้ผู้รับบริการตรวจสอบก่อนเข้าสถานประกอบการ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องไม่มีอาการเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยง คัดกรองไม่พบเชื้อ และได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือมีผลตรวจ RT-PCR ตามระยะเวลาที่กำหนดด้วย.