ครม.อนุมัติ ประกันรายได้ ข้าว-มัน-ข้าวโพด ปี 3 วงเงิน 27,000 ล้าน โดยทีมเศรษฐกิจทันสมัย ปชป. ยกเครดิตร “จุรินทร์” รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เดินหน้าผลักดันอย่างเต็มที่…
วันที่ 26 ต.ค.2564 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย และนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคได้เปิดเผยว่า เรียกร้องให้กระทรวงการคลัง เร่งพิจารณาอนุมัติโครงการประกันรายได้ปีที่ 3 ไปเมื่อ 2 วันก่อน ต้องขอขอบคุณนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ผลักดันโครงการประกัยรายได้เกษตรกร ปี 3 ให้เดินหน้าต่อ และเป็นที่น่ายินดีว่า โครงการดังกล่าว ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้วเมื่อวานนี้ (25 ต.ค. 64) ทั้ง 3 ตัว คือ
1. ข้าว โดยจะประกอบด้วย ข้าว 5 ชนิด วงเงิน 18,000 ล้านบาท
2. มันสำปะหลัง วงเงิน 7,100 ล้านบาท
และ 3. ข้าวโพด วงเงิน 1,900 ล้าน
รวมทั้งหมดที่ประชุมเห็นชอบอนุมัติไป 27,000 ล้านบาท ซึ่งหลักการเป็นไปอย่างเดียวกับประกันรายได้ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด แบบปีที่ 1 ปีที่ 2 ทุกประการ โดยปีนี้ถือเป็นปีที่ 3
“สำหรับ มันสำปะหลัง และข้าวโพด ขณะนี้ถือว่า มีราคาดี และมีราคาเกินรายได้ที่ประกัน ยกเว้นข้าวที่มีราคาหย่อนลงมา เพราะอาจจะยังเกิดความไม่มั่นใจในเรื่องนโยบายว่า จะมีประกันรายได้หรือไม่ และจะมีมาตรการคู่ขนาน ที่จะมาช่วยสนับสนุนให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ สามารถที่จะรวบรวมข้าว และเก็บสต๊อกข้าวไว้จะได้เงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาทหรือไม่
ดังนั้นเมื่อที่ประชุมเห็นชอบชัดเจนแล้ว ก็สามารถเก็บรวมรวมข้าวได้ และยังไม่จำเป็นต้องนำข้าวออกมาขาย ในยามที่ราคายังไม่ดี ซึ่งจะช่วยดึงราคาในตลาดให้สูงขึ้นได้ ขณะเดียวกันโรงสีที่ยังไม่มั่นใจว่า รัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือดอกเบี้ยร้อยละ 3 หากรับซื้อข้าวเพื่อมาเก็บสต็อกไว้หรือไม่วันนี้ก็ชัดเจนแล้ว และมีมติแล้ว เพราะฉะนั้นโรงสีก็จะได้รับความช่วยเหลือเรื่องภาระดอกเบี้ย 3% ทำให้สามารถรับซื้อจากเกษตรกรได้ในราคาที่ดีขึ้น และเก็บสต๊อกไว้ได้ ซึ่งก็จะมีส่วนช่วยดึงราคาข้าวในตลาดให้ดีขึ้นจากมติ ครม.
โดยนโยบายประกันรายได้เกษตรกรเป็นการจ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกร ถือเป็นการช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้พี่น้องเกษตรกร โดยที่ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงกลไกตลาด และไม่สร้างความเสียหายในภายหลัง การที่ ครม.อนุมัติ โครงการประกันรายได้ ปี 3 ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากสำหรับเกษตรกร และทีมเศรษฐกิจทันสมัยก็ได้สนับสนุนแนวทางดังกล่าวมาโดยตลอด และจะช่วยสนับสนุนการทำงานของนายจุรินทร์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับเกษตรกรทุกภาคส่วน”
ด้านนางดรุณวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่รัฐบาลประกาศนโยบายประกันรายได้ เป็นนโยบายหลักและคณะรัฐมนตรีได้มีความเห็นชอบมาตลอดระยะเวลา 2 ปี พิสูจน์แล้วว่ากระทรวงพาณิชย์สามารถดำเนินโครงการดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรม ฉับไว ตามแนวทาง “ทำได้ไว ทำได้จริง” ของนายจุรินทร์.