ตำรวจสอบสวนกลาง รวบนักธุรกิจหนุ่มใหญ่คารถไฟ หลังเบี้ยวจ่ายค่าปรับศาลกว่า 175 ล้านบาท…
วันที่ 16 พ.ย. 2564 กองบังคับการตำรวจรถไฟ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจับกุม นายสุจิตร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ กระทำความผิดฐาน “พระราชบัญญัติศุลกากร,พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด” โดยจับกุมบนรถไฟขบวนรถด่วนพิเศษ 9 (กรุงเทพ-เชียงใหม่) เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 เวลา 19.45 น.
โดยผู้ต้องหาเป็นกรรมการบริษัทนำเข้าสารเคมี (PVC) เพื่อทำพลาสติกส่งออกให้ต่างประเทศ โดยการนำเข้าได้มีกระบวนการหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรเกิดขึ้น จนถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ตาม พรบ.ศุลกากรฯ มาตรา 27 ซึ่งผู้ที่นำพาหรือพาของที่ยังมิได้เสียภาษี หรือของต้องจำกัด หรือของต้องห้าม หรือที่ยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักรไทยก็ดี หรือช่วยเหลือประการใดๆ ในการนำเข้าของเช่นว่านี้เข้ามาหรือส่งออกไปก็ดีฯ หรือเกี่ยวข้องด้วยประการใดๆ ในการหลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียค่าภาษีศุลกากรฯ มีโทษสำหรับความผิดครั้งหนึ่งๆ ให้ปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือ จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 96 ถ้าในเวลาใดเวลาหนึ่ง ปรากฏว่าของในคลังสินค้ามีปริมาณน้อยลงกว่าที่จดไว้ในใบขนสินค้าเดิมเมื่อนำของนั้นเข้าเก็บ และปริมาณที่ต่างกันนี้ไม่มีเหตุผลปรากฏในบันทึกของพนักงานฯ ให้ถือว่าของตามปริมาณที่ต่างกันอันแสดงเหตุมิได้นั้น เป็นของที่ได้ย้ายขนไปโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงาน ให้ใช้ มาตรา 27 บังคับแก่กรณีนี้
ผู้ต้องหาได้ต่อสู้คดีความจนชนะในศาลชั้นต้น และชั้นอุทธรณ์ ต่อมาพนักงานอัยการได้อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา จนในที่สุดศาลฎีกาพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พระราชบัญญัติศุลกากรฯมาตรา 27,9 พิพากษาลงโทษให้จำคุก 1 ปี และปรับเป็นเงินจำนวน 175,657,455.88 บาท ผู้ต้องหาจึงได้หลบหนีจนกระทั่งถูกศาลออกหมายจับดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้เดินทางด้วยขบวนรถไฟ รถด่วนพิเศษ 9 (กรุงเทพ-เชียงใหม่) จึงได้ติดตามแสดงตัวจับกุมผู้ต้องหาขณะที่รถไฟหยุดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟอยุธยา จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหานำส่งศาลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย.